By 1770, there were thirteen colonies along the east coast of North America, all governed by Britain. But Britain was a long way away, and the people of the colonies became angry at the high taxes that the government made them pay.
In December 1773 a group of men threw
342 boxes of tea into the sea at Boston because they did not want to pay the British tax on it. This was the 'Boston Tea Party'.
The British government was
now angry too, and in April
1775 some Americans fought a group of British soldiers at Lexington and Concord, in Massachusetts. A few months later, after the Battle of Bunker Hill, near Boston, it was clear that Britain was at war with its American colonies.
A farmer from Virginia, George Washington, became the leader of the American army.
But the colonies did not say that they wanted to be fully independent until the summer of 1776. Thomas Jefferson wrote the famous 'Declaration of Independence', where he said that the king, George III, had broken his agreement with his people, because he had not let them have their rights: rights to life, freedom and happiness. The day of the Declaration of Independence is another important American holiday, celebrated each year on July 4.
The Americans finally won the war five years later, in October 1781, and
two years after that, they were free to govern themselves. In 1788 they made George Washington their first president.
The thirteen colonies, which became known as 'states', grew by adding land to the south and west. In 1803, Jefferson, the third president, bought a piece of rich farmland in the mid-west from France; it was five times as big as France itself, and it only cost $15 million. In 1819, the USA bought Florida from Spain. The United States was now twice as big as it had been in 1781. And by 1848, after winning Texas and the West from Mexico, it had grown again so that it reached all the way from the Atlantic to the Pacific, over 5,000 kilometres.
770 , มี 13 อาณานิคม ตามชายฝั่งตะวันออกของทวีปอเมริกาเหนือ , ที่ควบคุมโดยสหราชอาณาจักร แต่อังกฤษก็อีกยาวไกล และประชาชนในอาณานิคมกลายเป็นโกรธภาษีสูงที่รัฐบาลทำให้พวกเขาจ่าย
ในธันวาคม 2316 กลุ่มผู้ชายโยน
แต่กล่องของชาในทะเลที่บอสตัน เพราะพวกเขาไม่ต้องการที่จะจ่ายภาษีที่อังกฤษแล้ว นี้เป็น ' งานเลี้ยงน้ำชา '
ตอนนี้รัฐบาลอังกฤษก็โกรธเหมือนกัน และในเดือนเมษายน
1775 ชาวอเมริกันบางคนสู้กลุ่มของทหารอังกฤษในเล็กซิงตันและคอนคอร์ด ในแมสซาชูเซต ไม่กี่เดือนต่อมา หลังจากการต่อสู้ของบังเกอร์ ฮิลล์ ใกล้บอสตัน มันชัดเจนว่า อังกฤษได้ทำสงครามกับอาณานิคมของอเมริกัน
ชาวนาจากเวอร์จิเนีย จอร์จ วอชิงตัน ได้กลายเป็นผู้นำกองทัพอเมริกัน
แต่อาณานิคมไม่ได้ว่าพวกเขาต้องการที่จะเป็นอิสระอย่างเต็มที่จนกระทั่งฤดูร้อนของ 1776 . โทมัสเจฟเฟอร์สันเขียนคำประกาศที่มีชื่อเสียง ' อิสรภาพ ' ที่เขาบอกว่ากษัตริย์จอร์จ III ได้ทำลายข้อตกลงของเขากับคนของเขา เพราะเขาไม่ได้ให้พวกเขามีสิทธิของสิทธิในชีวิต เสรีภาพ และความสุขวันแห่งการประกาศอิสรภาพของอเมริกา เป็นอีกหนึ่งที่สำคัญวันหยุดฉลองทุกปีในวันที่ 4 กรกฎาคม .
ชาวอเมริกันในที่สุดก็สงครามห้าปีต่อมาในเดือนตุลาคม 1781 และ
2 ปีหลังจากนั้น พวกเขามีอิสระในการปกครองตนเอง ใน 1788 เขาให้ จอร์จ วอชิงตัน ประธานาธิบดีคนแรกของพวกเขา .
อาณานิคมทั้งสิบสามซึ่งกลายเป็นที่รู้จักกันเป็น ' รัฐ 'เติบโตโดยการเพิ่มที่ดินทางทิศใต้และตะวันตก ใน 1803 , เจฟเฟอร์สัน , ประธานสาม ซื้อชิ้นที่อุดมไปด้วยพื้นที่การเกษตรใน กลางตะวันตกจากฝรั่งเศส ; มันเป็นห้าครั้งใหญ่อย่างฝรั่งเศสเอง และมันเฉพาะค่าใช้จ่าย $ 15 ล้าน ใน 1819 , USA ซื้อฟลอริดาจากสเปน สหรัฐอเมริกาคือตอนนี้ตัวโตเท่ามันได้รับใน 1781 . และ 1848 หลังจากชนะเท็กซัสและตะวันตกจากเม็กซิโกมันได้เติบโตขึ้นอีกครั้งเพื่อให้มันถึงทางจากมหาสมุทรแอตแลนติกกับมหาสมุทรแปซิฟิก กว่า 5 , 000 กิโลเมตร
การแปล กรุณารอสักครู่..