Study settings and sample. The stud

Study settings and sample. The study was
approved by the: Research Ethics Committee of the
Faculty of Nursing, Chiang Mai University; Hospital
Directors of the two hospitals, used in Phase I; and,
Research Ethics Committees of each of the ten
hospitals, used in Phase II. Hospitals used in Phase
II were selected to obtain a heterogeneous sample of
nurses.20 All hospitals used as data gathering sites
were located in Northern Thailand. None of the
hospitals used in Phase I were used during Phase II.
The sample consisted of two types of subjects
(patients and professional nurses). Subjects were
informed: about the purpose of the study; what their
particular involvement would entail; their participation
was voluntary; they could withdraw from the study
at any time without negative repercussions; and, their
anonymity and confidentiality would be maintained.
In the event they had questions, the names and
addresses of the investigators were provided. Those
consenting to participate were asked to sign a consent
form.
Phase I included 37 patients from medical,
surgical, orthopedic, obstetrical and gynecological
units at one regional hospital, who participated in
defining the meaning and dimensions of caring
behavior. Selection criteria included being a patient
who was: over 18 years of age; fully conscious; able
to provide experiential information; and hospitalized
on a medical, surgical, orthopedic, obstetrical or
gynecological clinical unit for at least one day.
Head nurses of the clinical units provided names of
potential patient subjects, who then were purposively
selected by the primary researcher. In addition, during
Phase I, 60 nurses, from one regional hospital and
one community hospital, participated in testing the
instrument’s internal consistency and stability. Ten
of these nurses examined the face validity of the
instrument. Criteria for selection included being
employed in one of the two hospitals used as a data
gathering site, and having, at least, one year of
nursing experience.
Names of potential nurse subjects also were
provided by head nurses of each clinical unit. The
number of nurses selected from the two hospitals
was proportionate to the number of nurses working in
each hospital. The regional hospital had 800 nurses
employed, while the community hospital had 60.
Thus, 50 nurses were obtained from the regional
hospital, while 10 were obtained from the community
hospital. During this phase, seven nurses failed to
successfully complete the second administration of
the instrument. Thus, data from only 53 nurses were
usable. Of the seven nurses who were unavailable
for the second administration of the instrument, 5
were from the regional hospital and 2 were from the
community hospital. Both patients and nurses, in
Phase I, who met the selection criteria, were invited
by the primary investigator to participate in the study.
For Phase II, 810 nurses from 10 institutions
(one university, two regional, three general and four
community hospitals) were asked to participate in
examining psychometric properties of the instrument.
A total of 758 (96.06%) provided complete and
usable responses. The number of professional nurses
sampled for Phase II was proportional to the number
of professional nurses’ employed within each hospital21
(see Table 1). In addition, the number of the
participants involved in Phase II was determined via
the minimum observation-to-variable ratio, 10:1,22
with 30% added for sample attrition. Potential nurse
subjects meeting the selection criteria were contacted
by one of 10 research assistants who were trained by
the primary investigator regarding the data collection
procedure. The recruiting process ended when the
number of subjects from each selected hospital met
the requirement. Hence, the sampling procedure
applied both convenience and quota methods.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ศึกษาการตั้งค่าและตัวอย่าง มีการศึกษาอนุมัติโดยการ: คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของการคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โรงพยาบาลกรรมการของโรงพยาบาลสอง ใช้ในระยะที่ฉัน และคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของแต่ละสิบโรงพยาบาล ใช้ในขั้นตอนที่สอง ใช้ในโรงพยาบาลเลือกเพื่อขอรับตัวอย่างชนิด IInurses.20 โรงพยาบาลทั้งหมดใช้เป็นข้อมูลที่รวบรวมเว็บไซต์อยู่ในภาคเหนือ ไม่มีการโรงพยาบาลที่ใช้ในขั้นตอนที่ผมใช้ในระหว่างขั้นตอนที่สองตัวอย่างประกอบด้วย 2 ประเภทวิชา(ผู้ป่วยและพยาบาลมืออาชีพ) วัตถุได้ทราบ: เกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการศึกษา อะไรของพวกเขาการมีส่วนร่วมโดยเฉพาะจะพบ มีส่วนร่วมของพวกเขารับสมัคร พวกเขาอาจถอนตัวจากการศึกษาตลอดเวลาโดยไม่ต้องลบ repercussions และจะรักษาความลับและไม่เปิดเผยชื่อในกรณีที่ พวกเขามีคำถาม ชื่อ และยังมีที่อยู่ของนักวิจัย ผู้ยอมรับการมีส่วนร่วมขอให้เซ็นชื่อยินยอมแบบฟอร์มขั้นตอนที่ผมรวม 37 ผู้ป่วยจากทางการแพทย์ศัลยกรรม ศัลยกรรมกระดูก ทางสูติกรรม และนรีเวชหน่วยที่หนึ่งภูมิภาค โรงพยาบาลที่เข้าร่วมในการกำหนดความหมายและมิติของการดูแลลักษณะการทำงาน เงื่อนไขการเลือกรวมกำลังผู้ป่วย: อายุ 18 ปี สติเต็ม สามารถการให้ข้อมูลประสบการณ์ และพี่จึในการแพทย์ ศัลยกรรม ศัลยกรรมกระดูก ทางสูติกรรม หรือหน่วยคลินิกนรีเวชอย่างน้อยหนึ่งวันพยาบาลหัวหน้าหน่วยคลินิกให้ชื่อศักยภาพผู้ป่วยวัตถุ ที่แล้ว purposivelyเลือก โดยนักวิจัยหลัก นอกจากนี้ ในระหว่างระยะที่ I พยาบาล 60 จากโรงพยาบาลภูมิภาคหนึ่ง และโรงพยาบาลชุมชนเดียว เข้าร่วมการทดสอบการเป็นเครื่องมือความสอดคล้องภายในและความมั่นคง สิบของพยาบาลเหล่านี้ตรวจสอบความถูกต้องใบหน้าของการเครื่องมือ เกณฑ์สำหรับการเลือกรวมอยู่การจ้างงานในโรงพยาบาลสองที่ใช้เป็นข้อมูลอย่างใดอย่างหนึ่งรวบรวมเว็บไซต์ และมี น้อย หนึ่งปีประสบการณ์ของพยาบาลชื่อวิชาการพยาบาลยังถูกโดยพยาบาลหัวของแต่ละหน่วยคลินิก การจำนวนพยาบาลที่เลือกจากโรงพยาบาลสองเป็นปฏิภาคกับจำนวนพยาบาลที่ทำงานในแต่ละโรงพยาบาล โรงพยาบาลภูมิภาคมีพยาบาล 800จ้างงาน ขณะโรงพยาบาลชุมชน 60ดังนั้น รับพยาบาล 50 จากภูมิภาคในขณะที่ 10 ได้รับมาจากชุมชน โรงพยาบาลโรงพยาบาล ช่วงเวลานี้ พยาบาล 7 ล้มเหลวในการสำเร็จการบริหารงานที่สองของเครื่องมือ จึง มีข้อมูลจากพยาบาล 53 เท่านั้นใช้งาน ของเจ็ดพยาบาลที่สามารถใช้ได้สำหรับการบริหารสองมือ 5จากโรงพยาบาลในภูมิภาค และ 2 ที่ได้จากการโรงพยาบาลชุมชน ผู้ป่วยและพยาบาล ในระยะที่ I เกณฑ์การเลือก ได้รับเชิญโดยการตรวจสอบหลักการมีส่วนร่วมในการศึกษาสำหรับขั้นตอนที่สอง พยาบาล 810 จาก 10 สถาบัน(มหาวิทยาลัยหนึ่ง สอง สามทั่วไป และภูมิภาค 4ขอให้เข้าร่วมในโรงพยาบาลชุมชน)ตรวจสอบคุณสมบัติด้านตราจำนวน 758 (96.06%) ให้สมบูรณ์ และตอบสามารถใช้ จำนวนของพยาบาลวิชาชีพตัวอย่างสำหรับขั้นตอนที่สองถูกสัดส่วนกับจำนวนของอาชีพพยาบาลจ้างภายในแต่ละ hospital21(ดูตารางที่ 1) นอกจากนี้ จำนวนกำหนดผู้ที่เกี่ยวข้องในขั้นตอนที่สองผ่านขั้นต่ำชมแปรอัตราส่วน 10:1, 22มี 30% ที่เพิ่มสำหรับผสมตัวอย่าง พยาบาลที่มีศักยภาพประชุมเกณฑ์การเลือกวัตถุได้รับการติดต่อผู้ช่วยนักวิจัย 10 อย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ถูกฝึกโดยการตรวจสอบหลักเกี่ยวกับการรวบรวมข้อมูลขั้นตอนการ ของกระบวนการสิ้นสุดลงเมื่อการไปตามจำนวนของวัตถุจากแต่ละโรงพยาบาลที่เลือกความต้องการ ดังนั้น กระบวนการสุ่มตัวอย่างใช้วิธีที่สะดวกและโควต้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การตั้งค่าการศึกษาและกลุ่มตัวอย่าง การศึกษาได้
รับการอนุมัติโดย: คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของ
คณะพยาบาลศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่; โรงพยาบาล
กรรมการของทั้งสองโรงพยาบาลที่ใช้ใน Phase I; และ
คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยของแต่ละสิบ
โรงพยาบาลที่ใช้ในระยะที่สอง โรงพยาบาลที่ใช้ในเฟส
ที่สองได้รับการคัดเลือกจะได้รับตัวอย่างที่แตกต่างกันของ
nurses.20 โรงพยาบาลทั้งหมดที่ใช้เป็นข้อมูลเว็บไซต์ที่รวบรวม
อยู่ในภาคเหนือของประเทศไทย ไม่มีของ
โรงพยาบาลที่ใช้ในระยะที่ถูกนำมาใช้ในช่วงระยะที่สอง.
กลุ่มตัวอย่างเป็นสองประเภทของอาสาสมัคร
(ผู้ป่วยและพยาบาลวิชาชีพ) อาสาสมัครจะได้
รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับวัตถุประสงค์ของการศึกษา; สิ่งที่พวกเขา
มีส่วนร่วมโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะนำมาซึ่ง; การมีส่วนร่วมของพวกเขา
เป็นความสมัครใจ พวกเขาจะถอนตัวออกจากการศึกษา
ในเวลาใดก็ได้โดยไม่ต้องผลกระทบเชิงลบ; และพวกเขา
ไม่เปิดเผยชื่อและความลับจะถูกเก็บรักษาไว้.
ในกรณีที่พวกเขามีคำถามชื่อและ
ที่อยู่ของนักวิจัยได้ให้ ผู้ที่
ยินยอมที่จะเข้าร่วมถูกขอให้ลงชื่อยินยอม
รูปแบบ.
ระยะที่ผู้ป่วยรวม 37 จากทางการแพทย์
ผ่าตัดกระดูกสูติศาสตร์และนรีเวช
หน่วยที่โรงพยาบาลในภูมิภาคหนึ่งที่เข้าร่วมใน
การกำหนดความหมายและขนาดของการดูแล
พฤติกรรม เกณฑ์การคัดเลือกรวมถึงการเป็นผู้ป่วย
ที่เป็น: กว่า 18 ปีบริบูรณ์ ใส่ใจอย่างเต็มที่ สามารถ
ที่จะให้ข้อมูลประสบการณ์; และโรงพยาบาล
ในทางการแพทย์ศัลยกรรมกระดูก, การคลอดบุตรหรือ
นรีเวชหน่วยทางคลินิกสำหรับการอย่างน้อยหนึ่งวัน.
หัวหน้าหอผู้ป่วยของหน่วยงานทางคลินิกที่ให้ชื่อของ
อาสาสมัครผู้ป่วยที่มีศักยภาพที่แล้วถูกเจาะจง
เลือกโดยนักวิจัยหลัก นอกจากนี้ในช่วง
ระยะที่ 60 พยาบาลจากโรงพยาบาลศูนย์และ
โรงพยาบาลชุมชนแห่งหนึ่งมีส่วนร่วมในการทดสอบ
ความสอดคล้องภายในของตราสารและความมั่นคง สิบ
ของพยาบาลเหล่านี้ตรวจสอบความถูกต้องใบหน้าของ
เครื่องดนตรี เกณฑ์การคัดเลือกรวมถึงการได้รับการ
จ้างงานในหนึ่งในสองของโรงพยาบาลใช้เป็นข้อมูลที่
เว็บไซต์ของการชุมนุมและมีอย่างน้อยหนึ่งปีของ
ประสบการณ์การพยาบาล.
ชื่อของอาสาสมัครพยาบาลที่มีศักยภาพนอกจากนี้ยังได้
จัดไว้ให้โดยหัวหน้าหอผู้ป่วยของหน่วยคลินิกแต่ละ
จำนวนพยาบาลที่เลือกออกจากโรงพยาบาลสอง
เป็นสัดส่วนกับจำนวนของพยาบาลที่ทำงานใน
โรงพยาบาลแต่ละแห่ง โรงพยาบาลภูมิภาคได้ 800 พยาบาล
ลูกจ้างในขณะที่โรงพยาบาลชุมชนมี 60
ดังนั้น 50 พยาบาลที่ได้รับจากภูมิภาค
โรงพยาบาลในขณะที่ 10 ที่ได้รับจากชุมชน
โรงพยาบาล ช่วงนี้พยาบาลเจ็ดล้มเหลวที่จะ
ประสบความสำเร็จในการบริหารงานที่สองของ
เครื่องดนตรี ดังนั้นข้อมูลจากเพียง 53 พยาบาล
สามารถใช้งานได้ ของพยาบาลเจ็ดที่ไม่สามารถใช้งาน
ในการบริหารงานที่สองของตราสารที่ 5
มาจากโรงพยาบาลในระดับภูมิภาคและ 2 มาจาก
โรงพยาบาลชุมชน ผู้ป่วยทั้งสองและพยาบาลใน
เฟสที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกที่ได้รับเชิญ
จากผู้ตรวจสอบหลักในการมีส่วนร่วมในการศึกษา.
สำหรับขั้นตอนที่สอง 810 พยาบาลจาก 10 สถาบัน
(มหาวิทยาลัยหนึ่งสองภูมิภาคสามทั่วไปและสี่
โรงพยาบาลชุมชน) ได้ขอให้มีส่วนร่วมใน
การตรวจสอบคุณสมบัติทางจิตวิทยาของตราสาร.
รวม 758 (96.06%) มีให้บริการที่สมบูรณ์และ
การตอบสนองที่สามารถใช้งานได้ จำนวนพยาบาลวิชาชีพ
ตัวอย่างสำหรับระยะที่สองเป็นสัดส่วนกับจำนวน
ของพยาบาลวิชาชีพลูกจ้างในแต่ละ hospital21
(ดูตารางที่ 1) นอกจากนี้จำนวนของ
ผู้เข้าร่วมการมีส่วนร่วมในระยะที่สองถูกกำหนดโดยผ่าน
ขั้นต่ำสังเกตการตัวแปรอัตราส่วน 10: 1.22
กับ 30% เพิ่มสำหรับการขัดสีตัวอย่าง พยาบาลที่มีศักยภาพ
อาสาสมัครประชุมเกณฑ์การคัดเลือกได้รับการติดต่อ
โดยหนึ่งใน 10 ผู้ช่วยนักวิจัยที่ได้รับการฝึกอบรมโดย
ผู้ตรวจสอบหลักเกี่ยวกับการเก็บข้อมูล
ขั้นตอน กระบวนการสรรหาสิ้นสุดลงเมื่อ
จำนวนของอาสาสมัครจากโรงพยาบาลที่เลือกแต่ละพบกับ
ความต้องการ ดังนั้นขั้นตอนการสุ่มตัวอย่าง
ที่ใช้ทั้งความสะดวกและโควต้าวิธี