It is interesting to see from Fig.

It is interesting to see from Fig. 6 that there is a trend in the dataset of the small-scale plants that the land occupation per unit of electricity produced is reduced with the volume of electricity produced. The decreased land occupation per volume of electricity produced in the small hydropower plants in our project might imply a general trend that larger small-scale projects (below 10 MW) have a smaller land occupation per unit electricity than the smallest. One explanation can be that larger projects have more resources for technical and environmental competence available. However, this trend does not continue as the large hydropower projects have a much higher land occupation (36–62 m2/MWh) than the largest small-scale plants (in the range of 5 m2/MWh). Similar results on the decrease of impact with increased power production (among the small-scale plants) can also be found for the visibility parameter (Aase, 2013).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นที่น่าสนใจเพื่อดูว่า มีแนวโน้มในชุดข้อมูลของพืชระบุให้ยึดครองแผ่นดินต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตจะลดลง ด้วยปริมาณของไฟฟ้าที่ผลิตจาก Fig. 6 อาชีพลดลงดินต่อปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตในโรงไฟฟ้าขนาดเล็กในโครงการของเราอาจเป็นสิทธิ์แบบแนวโน้มทั่วไปโครงการระบุว่าใหญ่ (ต่ำกว่า 10 MW) ได้เป็นอาชีพที่ดินเล็กต่อหน่วยไฟฟ้าน้อยกว่าได้ หนึ่งอธิบายได้ว่า โครงการขนาดใหญ่ที่มีทรัพยากรเพิ่มเติมสำหรับเทคนิค และสิ่งแวดล้อมความสามารถว่าง อย่างไรก็ตาม แนวโน้มนี้ต่อไป ตามโครงการพลังงานน้ำขนาดใหญ่มีความสูงที่ดินอาชีพ (m2 36-62 MWh) กว่าระบุพืชที่ใหญ่ที่สุด (ในช่วงของ m2 5 MWh) นอกจากนี้ยังสามารถพบผลลัพธ์คล้ายกันลดผลกระทบกับการผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น (จากพืชระบุ)สำหรับพารามิเตอร์การแสดงผล (Aase, 2013)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันน่าสนใจที่จะเห็นได้จากรูปที่ 6 ว่ามีแนวโน้มในชุดข้อมูลของพืชขนาดเล็กที่ถือค​​รองที่ดินต่อหน่วยของไฟฟ้​​าที่ผลิตจะลดลงด้วยปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้า ยึดครองที่ดินลดลงต่อปริมาณการผลิตกระแสไฟฟ้าในโรงไฟฟ้​​าพลังน้ำขนาดเล็กในโครงการของเราอาจบ่งบอกถึงแนวโน้มทั่วไปว่าโครงการขนาดเล็กขนาดใหญ่ (ต่ำกว่า 10 MW) มีอาชีพที่ดินที่มีขนาดเล็กต่อหน่วยไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กกว่า หนึ่งคำอธิบายที่สามารถเป็นไปได้ว่าโครงการขนาดใหญ่มีทรัพยากรมากขึ้นสำหรับทางด้านเทคนิคและด้านสิ่งแวดล้อมสามารถใช้ได้ แต่แนวโน้มนี้ไม่ได้ดำเนินการตามโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่มีอาชีพที่ดินที่สูงขึ้นมาก (36-62 m2 / MWh) มากกว่าที่ใหญ่ที่สุดพืชขนาดเล็ก (ในช่วง 5 m2 / MWh) ผลที่คล้ายกันกับการลดลงของผลกระทบกับการผลิตไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น (ในหมู่พืชขนาดเล็ก) นอกจากนี้ยังสามารถพบได้สำหรับพารามิเตอร์การมองเห็น (Aase, 2013)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันน่าสนใจที่จะดูจากภาพที่ 6 มีแนวโน้มในข้อมูลพืชขนาดเล็กที่ถือครองที่ดินต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตจะลดลงกับปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ผลิต2 อาชีพที่ดินต่อปริมาณของกระแสไฟฟ้าที่ผลิตในโรงงานไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็กในโครงการของเราอาจบ่งบอกถึงแนวโน้มทั่วไปที่โครงการขนาดเล็กขนาดใหญ่ ( ต่ำกว่า 10 เมกะวัตต์ ) มีขนาดเล็กกว่าอาชีพที่ดินต่อกระแสไฟฟ้าหน่วยเล็กที่สุด อธิบายได้ว่าโครงการขนาดใหญ่มีทรัพยากรมากขึ้นสำหรับความสามารถทางด้านเทคนิคและด้านสิ่งแวดล้อมของ อย่างไรก็ตามเทรนด์นี้ไม่ยังคงเป็นโครงการไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่มีอาชีพสูงมากที่ดิน ( 36 – 62 m2 / MWH ) กว่าพืชขนาดเล็กที่ใหญ่ที่สุด ( ในช่วง 5 m2 / MWH ) ผลที่คล้ายกันในการลดลงของผลกระทบกับการผลิตที่เพิ่มขึ้นพลังงาน ( ระหว่างพืชขนาดเล็ก ) สามารถพบได้สำหรับการแสดงผลพารามิเตอร์ ( aase 2013 )