นานมาแล้ว มีชายผู้เกียจคร้านมากคนหนึ่ง เขามีลักษณะรูปร่างที่อ้วนคล้ายหมู เขาสูง160 เซนติเมตร หนัก80กิโลกรัม เขาเป็นผู้ชายที่ขี้เหล่ มีผมสีดำ ตาสีดำ มีปากคล้ายปากเป็ด ผิวสีเหลืองคล้ายเปลือกกล้วย เขาสวมชุดสีขาว กางเกงขาสั้น เสื้อกล้าม เขามีภรรยาแสนสวยอยู่หนึ่งคน มีรูปร่างหน้าตาที่สวยงาม มีผมสีน้ำตาลมัดรวบหางม้า ตาสีน้ำตาล จมูกโด่ง ผิวสีขาวดั่งนุ่น หล่อนสูง172 เซนติเมตร น้ำหนัก46กิโลกรัม ในแต่ละวันชายผู้เกียจคร้านจะอยู่แต่ในบ้าน กินๆนอนๆ และดูทีวีทั้งวันไม่ทำงาน เมื่อเป็นเช่นนั้นภรรยาแสนสวยของเขาต้องทำหน้าที่หาเลี้ยงสามีผู้เกียจคร้านเอง โดยเธอจะออกไปปลูกผักเช่น มันฝรั่ง,มะเขือเทศ, แครอท, บล็อกโคลี่,ผักขม,เห็ด,ฟักทอง,ถั่วและอีกหลายๆอย่าง หล่อนต้องเก็บผักที่หล่อนปลูกไปขายที่ตลาดซึ่งตลาดนั้นก็อยู่ไกลจากบ้านของหล่อนหลายกิโลเมตร การเดินทางไปตลาดก็ช่างยากลำบากเหลือเกิน มีทั้งก้อนหินที่ทำให้รถเข็นเธอเข็นยาก ไหนจะสะพานที่พุพัง ซึ่งเธอต้องระวังไม่ให้รถเข็นผักของเธอหล่นลงแม่น้ำ มีทั้งทางโค้ง ทั้งเนินสูงกว่าจะถึงตลาดเธอก็คงเพลียแต่เธอก็ไม่เคยบ่นสามีของเธอเลย หล่อนต้องเดินไปกลับแบบนี้ทุกๆวัน
ฝ่ายสามีไม่ยอมทำอะไรเอาแต่กินจนพุงป่อง ทำให้มือเท้าผอมลีบเพราะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหว ซึ่งต่างจากภรรยาของเขา เธอเป็นคนขยันขันแข็ง ทำให้ร่างกายแข็งแรง ในทุกๆวันหลังจากตื่นนอนตอนเช้าตรู่ เธอจะรีบออกไปที่สวน เพื่อพรวนดินใส่ปุ๋ยผัก รดน้ำผัก ทำให้ผักงอกงามเต็มแปลง จากนั้นเธอก็จะใช้จอบขุดดินทำแปลงผักเพื่อขยายพื้นที่ปลูกผักให้มากขึ้น หรือไม่ก็ปลูกใหม่ทดแทนผักที่ขายไป วันไหนที่เธอต้องไปขายผัก เธอจะตื่นนอนเร็วกว่าปกติ เธอหาบผักที่ตัดเตรียมใส่ตะกร้าขนาดใหญ่ไปขายที่ตลาด เมื่อขายผักหมด เธอจะซื้ออาหารเพื่อนำมาทำกับข้าวให้สามีผู้เกียจคร้านกิน เธอทำแบบนี้ทุกๆวัน
อยู่มาวันหนึ่งสามีภรรยาคู่นี้ได้รับเชิญไปงานเลี้ยงในเมือง และเมื่อสามีภรรยาคู่นี้มาถึงงานเลี้ยง ชายผู้เป็นสามีที่เอาแต่เกียจคร้านก็กินอาหารในงานเลี้ยงด้วยความตระกะตระกามอย่างเอร็ดอร่อย เขากิน กิน และก็กิน กินจนเขาลุกไม่ขึ้น เดินกลับบ้านเองไม่ได้ เมื่อเห็นเช่นนั้น ภรรยาจึงช่วยเอาสามีของเขาใส่ในรถเข็นผัก แล้วเธอก็เข็นสามีกลับบ้าน ซึ่งในระหว่างทางกลับบ้านต้องข้ามสะพานไม้เล็กๆที่พุพัง ด้วยเหตุที่สามีของเธอกินจนตัวใหญ่หนักมาก ทำให้รถเข็นผักที่หนักตกจากสะพานที่พุพังลงไปในแม่น้ำ
เมื่อชายพุงป่องตกลงไปในแม่น้ำ เขาโกรธภรรยาของเขามาก เขาตะโกนดุด่าภรรยา ด้วยเสียงอันดัง แต่เสียงที่เขาพูดด่าออกมากลายเป็นเสียง ” โอ๊บ โอ๊บ โอ๊บ “ เขามองดูตัวเองก็พบว่าตัวเองกลายเป็นกบเสียแล้ว ทำให้เขาต้องว่ายน้ำหนีไปเพราะอับอายภรรยาตนเองที่เขาเอาจะดุด่าเธออยู่ตลอดเวลา จนตนเองต้องกลายมาเป็นกบเช่นนี้ เมื่อคิดได้มันก็สายไปแล้ว เขาจึงว่ายน้ำไปเรื่อยๆโดยไม่รู้จุดหมาย ครั้งเมื่อตนจะกลับบ้านไปก็ไม่ได้เพราะขณะนี้ตนเป็นกบอยู่กลับไปภรรยาก็คงจะจำเขาไม่ได้อยู่ดี เขาจึงว่ายน้ำอย่างไม่รู้จุดหมาย ไม่รู้ว่าจะหาอาหารกินเช่นไร ไม่รู้ว่าจะพักได้ที่เขาจึงได้แต่พักเอาตามโขดหินไม่มีที่พักเป็นหลักเป็นแหล่ง การใช้ชีวิตในร่างกบของเขามันรำบากมาก เขาต้องหากินด้วยตนเองซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขา เพราะ เมื่อเป็นคน เขาได้มีภรรยาที่แสนดีทำให้ทุกสิ่งทุกอย่าง หาอาหารให้กิน ทำงานทุกๆอย่าง แต่ตอนนี้เขาได้แต่พึ่งพาตัวเอง
เขาว่ายน้ำอยู่หลายวันก็ได้พบปะฝูงกบอยู่ฝูงหนึ่ง เขาเลยเข้าไปทักทายฝูงกบฝูงนั้นเขาอยากเข้าร่วมฝูงด้วยซึ่งเขาคิดว่าถ้าตนเองมีพวกฝูงจะทำให้ตนเองสบายขึ้นมีที่พัก แหล่งที่หาอาหารที่ดีเขาคิดเช่นนั้นแต่เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นลงเมื่อหัวหน้าฝูงกบนั้นไม่ต้อนรับเขาแถมยังขับไล่เขาให้ไปไกลๆซะด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้เขาก็ว่ายน้ำไปเรื่อยๆพบปะฝูงกลฝูงแล้วฝูง เล่า แต่ก็ไม่มีหัวหน้าฝูงไหนต้อนรับเขาเลย เขาเหนื่อยและเพลียมากเขาจึงหาที่พักเขาเห็นโขดหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่ง เขาคิดว่ามันต้องสบายแน่ๆเลย ดังนั้นเขาจึงรีบว่ายน้ำไปที่โขดหินนั้นแล้วจึงพักผ่อนทันที่
นานมาแล้วมีชายผู้เกียจคร้านมาก คนหนึ่งเขามีลักษณะรูปร่างที่อ้วนคล้ายหมูเขาสูง 160 เซนติเมตรหนัก 80 กิโลกรัมเขาเป็นผู้ชายที่ขี้เหล่มี ผมสีดำตาสีดำมีปากคล้ายปากเป็ดผิวสีเหลืองคล้ายเปลือกกล้วยเขาสวม ชุดสีขาวกางเกงขาสั้นเสื้อกล้ามเขา มีภรรยาแสนสวยอยู่หนึ่งคนมีรูปร่างหน้าตาที่สวยงามมีผมสีน้ำตาลมัดรวบหางม้าตาสีน้ำตาลจมูกโด่งผิวสีขาวดั่งนุ่นหล่อนสูง 172 เซนติเมตรน้ำหนัก 46 กิโลกรัมในแต่ละวันชายผู้ เกียจคร้านจะอยู่ แต่ในบ้านกิน ๆ นอน ๆ และดูทีวีทั้งวันไม่ทำงานเมื่อเป็นเช่นนั้นภรรยาแสนสวยของเขาต้องทำหน้าที่หาเลี้ยงสามีผู้เกียจคร้านเองโดยเธอจะออกไปปลูกผักเช่นมันฝรั่ง , มะเขือเทศ, แครอท, บล็อก โคลี่, ผักขม, เห็ด, ฟักทอง, ถั่วและอีกหลาย ๆ อย่างหล่อนต้อง เก็บผักที่หล่อนปลูกไปขายที่ตลาดซึ่งตลาดนั้นก็อยู่ไกลจากบ้านของหล่อนหลายกิโลเมตรการเดินทางไปตลาดก็ช่างยากลำบากเหลือเกินมีทั้ง ก้อนหินที่ทำให้รถเข็นเธอเข็น ยากไหนจะสะพานที่พุพังซึ่งเธอต้องระวังไม่ให้รถเข็นผักของเธอหล่นลงแม่น้ำมีทั้งทางโค้งทั้งเนินสูงกว่าจะถึงตลาดเธอก็คงเพลีย แต่เธอก็ไม่เคยบ่น สามีของเพลงเธอเลยหล่อนคุณต้องเดินไปกลับแบบนี้ทุกๆการธนาคารวัน
ฝ่ายสามีไม่ยอมทำอะไรเอาแต่กินจนพุงป่องทำให้มือเท้าผอมลีบเพราะไม่ค่อยได้เคลื่อนไหวซึ่งต่างจากเนชั่ภรรยาของเขาเพลงเธอเป็นของคุณคนขยันขันแข็งทำให้ร่างกายแข็งแรงในห้างหุ้นส่วนจำกัดทุกๆการธนาคารวัน หลังจากตื่นนอนตอนเช้าตรู่เธอจะรีบ ออกไปที่สวนเพื่อพรวนดินใส่ปุ๋ยผักรดน้ำผักทำให้ผักงอกงามเต็มแปลงจากนั้นเธอก็จะใช้จอบขุดดินทำแปลงผักเพื่อขยายพื้นที่ปลูกผักให้มากขึ้นหรือไม่ก็ปลูกใหม่ ทดแทนผักที่ขายไปวันไหนที่ เธอต้องไปขายผักเธอจะตื่นนอนเร็วกว่าปกติเธอหาบผักที่ตัดเตรียมใส่ตะกร้าขนาดใหญ่ไปขายที่ตลาดเมื่อขายผักหมดเธอจะซื้ออาหารเพื่อนำมาทำกับข้าวให้สามี คุณผู้เกียจคร้านกินเพลงเธอทำแบบนี้ทุกๆการธนาคารวัน
ขณะนี้มาการธนาคารวันคุณหนึ่งสามีภรรยาคู่นี้ได้รับเชิญไปงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลี้ยงในห้างหุ้นส่วนจำกัดเมืองและเมื่อสามีภรรยาคู่นี้มาถึงงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลี้ยงคุณชายคุณผู้เป็นสามีที่เอาแต่เกียจคร้านก็กินอาหารในห้างหุ้นส่วนจำกัดงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเลี้ยงด้วยความสามารถ ตระกะตระกามอย่างเอร็ดอร่อยเขากิน กินและก็กินกินจนเขาลุกไม่ขึ้นเดินกลับบ้านเองไม่ได้เมื่อเห็นเช่นนั้นภรรยาจึงช่วยเอาสามีของเขาใส่ในรถเข็นผักแล้วเธอก็เข็นสามีกลับบ้านซึ่งในระหว่าง ทางกลับร้านบ้านคุณต้องข้ามสะพานไม้เพิ่มข้อมูลที่ ๆ ที่พุพังด้วยเหตุที่สามีของเพลงเธอกินจนคุณตัวใหญ่หนักมากทำให้รถเข็นผักที่หนักตกจากเนชั่สะพานที่พุพังลงไปในห้างหุ้นส่วนจำกัดแม่น้ำ
เมื่อคุณชายพุงป่องตกลงไปในห้างหุ้นส่วนจำกัดแม่น้ำเขาโกรธ ภรรยาของเขามากเขาตะโกนดุด่า ภรรยาด้วยเสียงอันดัง แต่เสียงที่เขาพูดด่าออกมากลายเป็นเสียง "โอ๊บโอ๊บโอ๊บ" เขามองดูตัวเองก็พบว่า ตัวเองกลายเป็นกบเสียแล้วทำให้เขาต้อง ว่ายน้ำหนีไปเพราะอับอายภรรยา ตนเองที่เขาเอาจะดุด่าเธออยู่ตลอดเวลาจนตนเองต้องกลายมาเป็นกบเช่นนี้เมื่อคิดได้มันก็สายไปแล้วเขาจึงว่ายน้ำไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้จุดหมายครั้งเมื่อตน จะกลับบ้านไปก็ไม่ได้เพราะ ขณะนี้ตนเป็นกบอยู่กลับไปภรรยาก็คงจะจำเขาไม่ได้อยู่ดีเขาจึงว่ายน้ำอย่างไม่รู้จุดหมายไม่รู้ว่าจะหาอาหารกินเช่นไรไม่รู้ว่าจะพักได้ที่เขาจึงได้ แต่ พักเอาตามโขดหินไม่มีที่พักเป็น หลักเป็นแหล่งการใช้ชีวิตในร่างกบของเขามันรำบากมากเขาต้องหากินด้วยตนเองซึ่งมันเป็นเรื่องยากมากสำหรับเขาเพราะเมื่อเป็นคนเขาได้มีภรรยาที่แสนดีทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างหา อาหารให้กินทำงานทุกๆอย่าง แต่ตอนนี้เขาได้ แต่พึ่งพาคุณตัวเอง
เขาว่าได้ยคุณน้ำขณะนี้หลายการธนาคารวันก็ได้พบปะฝูงคุณกบขณะนี้ฝูงคุณหนึ่งเขาเลยเข้าไปทักทายฝูงคุณกบฝูงนั้นเขาใหม่อยากเข้าร่วมฝูงด้วยซึ่งเขาคิดว่าได้ถ้าตนเองมี พวกฝูงจะทำให้ตนเองสบายขึ้นมี ที่พักแหล่งที่หาอาหารที่ดีเขาคิดเช่นนั้น แต่เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นลงเมื่อหัวหน้าฝูงกบนั้นไม่ต้อนรับเขาแถมยังขับไล่เขาให้ไปไกล ๆ ซะด้วยเมื่อเป็นเช่น นี้เขาก็ว่ายน้ำไปเรื่อย ๆ พบปะฝูงกลฝูงแล้วฝูงเล่า แต่ก็ไม่มีหัวหน้าฝูงไหนต้อนรับเขาเลยเขาเหนื่อยและเพลียมากเขาจึงหาที่พักเขาเห็นโขดหินก้อนใหญ่ก้อนหนึ่งเขาคิดว่ามันต้องสบายแน่ ๆ เลยดังนั้นเขาจึงรีบว่ายน้ำ ไปที่โขดหินนั้นแล้วจึงพักผ่อนทันที่
การแปล กรุณารอสักครู่..
