Figure 5(b). A higher value of ther

Figure 5(b). A higher value of thermal conductivity
indicates a faster heat transfer from one side of fabric
to the other surface, which is usually associated with a
cooler feeling when the fabric is used in clothing. Figure
5(b) shows that the elastic honeycomb fabrics (1s–3s)
have the highest values of thermal conductivity and the
pure cotton honeycomb fabrics (1c–3c) have the lowest
related values.The thermal conductivity of fabric
depends on several factors, including fabric thickness
and the amount of air trapped in the fabric, as well as
the air behavior within the fabric.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูป 5(b) ค่าการนำความร้อนสูงบ่งชี้ว่า การถ่ายเทความร้อนได้เร็วขึ้นจากด้านหนึ่งของผ้าพื้นผิวอื่น ๆ ซึ่งจะเชื่อมโยงกับการรู้สึกเย็นเมื่อใช้ในเสื้อผ้า รูป5(b) แสดงให้เห็นว่าผ้ารังผึ้งยืดหยุ่น (1s – 3s)มีค่าสูงสุดของการนำความร้อนและผ้ารังผึ้งผ้าฝ้ายแท้ (ซี 1-3c) ได้ต่ำที่สุดค่าที่เกี่ยวข้อง การนำความร้อนของผ้าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมทั้งความหนาของผ้าและจำนวนเครื่องที่ติดอยู่ในผ้า เป็นลักษณะอากาศในผ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูปที่ 5 (ข) ค่าที่สูงขึ้นของการนำความร้อนที่บ่งชี้ว่ามีการถ่ายเทความร้อนได้เร็วขึ้นจากด้านใดด้านหนึ่งของผ้ากับพื้นผิวอื่นๆ ซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับความรู้สึกเย็นเมื่อผ้าถูกนำมาใช้ในเสื้อผ้า รูปที่5 (ข) แสดงให้เห็นว่าผ้ารังผึ้งยืดหยุ่น (1s-3s) มีค่าสูงสุดของการนำความร้อนและผ้ารังผึ้งผ้าฝ้ายแท้ (1 c-3c) มีที่ต่ำที่สุดที่เกี่ยวข้องกับการนำความร้อนvalues.The ของผ้าขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการรวมทั้งความหนาของผ้าและปริมาณของอากาศที่ติดอยู่ในเนื้อผ้าเช่นเดียวกับพฤติกรรมอากาศภายในผ้า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 5 ( B ) ค่าการนำความร้อนสูงกว่า
แสดงว่า ถ่ายเทความร้อนได้เร็วขึ้นจากด้านหนึ่งของผ้า
ไปยังพื้นผิวอื่น ๆซึ่งมักจะเกี่ยวข้องกับ
เย็นความรู้สึกเมื่อผ้าที่ใช้ในเสื้อผ้า รูป
5 ( b ) แสดงให้เห็นว่าผ้ารังผึ้งยืด ( 1s – 3s )
ได้ค่าสูงสุดของค่าการนำความร้อนและ
รังผึ้งฝ้ายบริสุทธิ์ผ้า ( 1C ) 3 C )
ถูกที่สุดที่เกี่ยวข้องกับค่าการนำความร้อนของผ้า
ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการรวมถึง
ผ้าหนาและปริมาณของอากาศที่ติดอยู่ในใยผ้า รวมทั้ง
อากาศพฤติกรรมภายในผ้า