Rebels and RunawaysSlaveholders cou

Rebels and Runaways
Slaveholders could never break enslaved African Americans’ longing to be free. In the South and especially in the West Indies, some enslaved African Americans rebelled. On the mainland, the largest uprising erupted in 1739 at Stono in South Carolina, where about 100 slaves killed 20 whites before suffering defeat and execution.
Running away was more common. In the West Indies and the Carolinas, enslaved African Americans became maroons, a name for those who hid in forests or swamps. Other runaways fled to remote Native American villages or to Florida, where the Spanish welcomed them with food, land and freedom. The Spanish sought to weaken the British colonies and to strengthen their own frontier militia with freed African Americans. In the Chesapeake and northern colonies, runaways tried to fit into the small free black communities.
Many more of the enslaved, however opted for a more subtle form of rebellion. They stayed on the plantations, but they resisted by working slowly, feigning illness, pretending ignorance, or breaking tools

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กบฏและจรจัด slaveholders
ไม่เคยแบ่งเป็นทาสชาวแอฟริปรารถนา 'ที่จะเป็นอิสระ ในภาคใต้และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่เกาะอินเดียตะวันตกบางฟริกันอเมริกันทาสกบฎ บนแผ่นดินใหญ่ที่สุดจลาจลปะทุขึ้นใน 1739 ที่ Stono ในเซาท์แคโรไลนา, ที่ประมาณ 100 ทาสฆ่าตาย 20 คนผิวขาวก่อนที่ความทุกข์ความพ่ายแพ้และการดำเนินการ.
วิ่งออกไปเป็นเรื่องธรรมดามากขึ้นในหมู่เกาะอินเดียตะวันตกแคโรไลนากดขี่ฟริกันอเมริกันกลายเป็น Maroons ชื่อสำหรับผู้ที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าหรือหนองน้ำ จรจัดอื่น ๆ หนีไปไกลหมู่บ้านชาวอเมริกันพื้นเมืองหรือฟลอริดาที่สเปนให้การต้อนรับพวกเขาด้วยอาหารที่ดินและเสรีภาพ สเปนพยายามที่จะลดลงอาณานิคมของอังกฤษและเพื่อเสริมสร้างกองทหารอาสาสมัครชายแดนของพวกเขาเองด้วยการปลดปล่อยฟริกันอเมริกันในเชสสอาณานิคมเหนือจรจัดพยายามที่จะใส่ลงไปในชุมชนเล็ก ๆ สีดำฟรี.
อื่น ๆ อีกมากมายจากทาส แต่เลือกใช้สำหรับรูปแบบที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นจากการก่อจลาจล พวกเขาอยู่ในสวน แต่พวกเขาก็ต่อต้านโดยการทำงานช้าแกล้งทำเป็นเจ็บป่วยแกล้งทำเป็นไม่รู้หรือทำลายเครื่องมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กบฏและ Runaways
Slaveholders ไม่สามารถทำลายของชาวอเมริกันแอฟริกัน enslaved ลิ้นจะเป็นอิสระได้ ในภาคใต้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในหมู่เกาะอินเดียตะวันตก บาง enslaved ชาวอเมริกันแอฟริกันเป็นกบฏ บนแผ่นดินใหญ่ สู้ใหญ่ปะทุใน 1739 ที่ Stono ในเซาท์แคโรไลนา ที่ทาส 100 ฆ่าขาว 20 ก่อนทุกข์ความพ่ายแพ้และการดำเนินการ
วิ่งออกไปได้ทั่วไป ใน West Indies และ Carolinas การ ชาวอเมริกันแอฟริกัน enslaved เป็น maroons ชื่อที่ซ่อนในป่าหรือหนองน้ำ Runaways อื่น ๆ หนีไกลหมู่บ้านชาวอเมริกันพื้นเมือง หรือรัฐ ฟลอริดา ที่สเปนจะยินดีไปกับอาหาร ที่ดิน และเสรีภาพ ที่สเปนขอโรยอาณานิคมอังกฤษ และ เพื่อเสริมสร้างอาสาตนเองชายแดนกับชาวอเมริกันแอฟริกันอิสระ ใน Chesapeake และอาณานิคมเหนือ runaways พยายามให้พอดีกับขนาดเล็กฟรีดำชุมชน.
มากของที่ enslaved เลือกอย่างไรก็ตาม สำหรับรูปแบบรายละเอียดเพิ่มเติมของกบฏ พวกเขาอยู่ในสวน แต่พวกเขา resisted โดยทำงานช้า feigning เจ็บป่วย อ้างความไม่รู้ หรือการทำลายเครื่องมือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

runaways และกบฏ
เหตุผลต่อไม่สามารถทำลายความปรารถนาของคนอเมริกันแอฟริกันเพื่อเป็นแบบไม่เสียค่าบริการ ในทางใต้และโดยเฉพาะใน West Indies เล็กๆน้อยๆชาวอเมริกันบางคนแอฟริกันกบฏ บนแผ่นดินใหญ่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่การจลาจลปะทุขึ้นใน 1739 ที่ stono ใน South Carolina ที่ประมาณ 100 ทาสถูกฆ่าตาย 20 คนผิวขาวก่อนการประมวลผลและความพ่ายแพ้ได้รับความทุกข์ทรมาน.
ทำงานอยู่ห่างออกไปในทั่วไปได้มากกว่าในหมู่เกาะอินเดียตะวันตกและ Carolinas อยู่ห่างเล็กๆน้อยๆแอฟริกันชาวอเมริกันกลายเป็นสีแดงม่วงเข้มอมน้ำตาลชื่อสำหรับผู้ที่ซ่อนอยู่ในป่าหรือหนองน้ำ runaways อื่นๆก็หนีไปยังหมู่บ้านชาวอเมริกันพื้นเมืองรีโมทคอนโทรลหรือไปยัง Florida ที่สเปนที่ให้การต้อนรับพร้อมด้วยอาหารและด้วยความอิสระได้อย่างเต็มที่ สเปนที่พยายามที่จะกะปลกกะเปลี้ยอาณานิคมอังกฤษและเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทหารชายแดนของตัวเองพร้อมด้วยชาวอเมริกันกลับคืนมาแอฟริกันใน Chesapeake และอาณานิคมทางตอนเหนือ runaways พยายามที่จะใส่ลงในชุมชนขนาดเล็กสีดำแบบไม่เสียค่าบริการที่.
มากกว่าของเล็กๆน้อยๆแต่ถึงอย่างไรก็ตามไม่รับโฆษณาสำหรับผู้ใช้บริการสำหรับแบบฟอร์มมากขึ้นแบบเรียบง่ายของการปฏิวัติ ห้องพักอยู่ในไร่แต่พวกเขาจึงต่อต้านโดยการทำงานการแสร้งว่ามีอาการเจ็บป่วยอย่างช้าๆแสร้งทำเป็นไม่รู้ตัวหรือการทำลายเครื่องมือ