Among the phosphate sources used, o

Among the phosphate sources used, only K2HPO4 was significant at 99.83% and there was considerable difference in lactic acid production among the two phosphate sources used. Highest production was achieved with K2HPO4 and thus it was selected for further studies. Although FeSO4 · 7H2O was significant at 97.22% and had a negative effect on lactic acid production, considering the lactic acid production, it was better than other compounds having negative effect and thus its lower concentration was used for further optimization studies. Same was the case with MnSO4 · 4H2O, being 96.82% significant for lactic acid production and since had a negative effect, its lower concentration was used for further optimization. Tri-sodium citrate and sodium succinate were also insignificant; were negative in terms of their effect, and were eliminated. Date juice was significant at 99.99% level and produced 16.86 g/l lactic acid, which was the highest among all the 15 components. Comparison of these components for the lactic acid production in Plackett–Burman design showed that trial number 15 showed maximum lactic acid production as compared to the other trials

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ระหว่างแหล่งฟอสเฟตที่ใช้ เฉพาะ K2HPO4 สำคัญ 99.83% และมีความแตกต่างมากในการผลิตกรดแลคติระหว่างแหล่งฟอสเฟตสองที่ใช้ ผลิตสูงสุดสำเร็จกับ K2HPO4 และดังนั้น จึงเลือกศึกษาเพิ่มเติม แม้ว่า FeSO4 · 7H2O สำคัญ 97.22% และมีผลกระทบในการผลิตกรด การพิจารณาการผลิตกรด ก็ดีกว่าสารอื่น ๆ ที่มีผลกระทบ และทำให้ความเข้มข้นต่ำกว่าถูกใช้สำหรับการศึกษาเพิ่มประสิทธิภาพต่อไป เดียวกันคือในกรณีของ MnSO4 · 4H2O, 96.82% อย่างมีนัยสำคัญ สำหรับการผลิตกรดแลคติ และตั้งแต่การมีผลกระทบ ความเข้มข้นที่ต่ำกว่าถูกใช้สำหรับการปรับเพิ่มเติม ยังมีตรีโซเดียมซิเตรตและโซเดียม succinate สำคัญ ถูกลบในผลของพวกเขา และถูกตัด น้ำวันสำคัญในระดับ 99.99% และผลิตกรด 16.86 g/l ซึ่งเป็นที่สูงสุดส่วนประกอบทั้งหมด 15 เปรียบเทียบส่วนประกอบเหล่านี้ในการผลิตกรดแลคติแบบ Plackett – พม่าแสดงให้เห็นว่าการทดลองจำนวน 15 แสดงให้เห็นว่าผลิตกรดสูงสุดเมื่อเทียบกับการทดลองอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในบรรดาแหล่งฟอสเฟตที่ใช้เพียง K2HPO4 อย่างมีนัยสำคัญที่ 99.83% และมีความแตกต่างอย่างมากในการผลิตกรดแลคติกระหว่างทั้งสองแหล่งฟอสเฟตใช้ การผลิตที่สูงที่สุดก็ประสบความสำเร็จกับ K2HPO4 และทำให้มันได้รับเลือกสำหรับการศึกษาต่อไป แม้ว่า FeSO4 · 7H2O อย่างมีนัยสำคัญที่ 97.22% และมีผลกระทบต่อการผลิตกรดแลคติกการพิจารณาการผลิตกรดแลคติกมันก็ยังดีกว่าสารอื่น ๆ ที่มีผลกระทบและทำให้ความเข้มข้นต่ำกว่าที่ใช้สำหรับการศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพต่อไป เดียวกันเป็นกรณีที่มี MnSO4 · 4H2O เป็น 96.82% อย่างมีนัยสำคัญสำหรับการผลิตกรดแลคติกและตั้งแต่มีผลกระทบเชิงลบที่มีความเข้มข้นต่ำกว่าถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพต่อไป ซิเตรตไตรโซเดียมและ succinate โซเดียมก็ยังไม่มีนัยสำคัญ; เป็นลบในแง่ของผลกระทบของพวกเขาและถูกตัดออก น้ำผลไม้วันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 99.99% และผลิต 16.86 กรัม / ลิตรกรดแลคติกซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในทุกองค์ประกอบที่ 15 เปรียบเทียบองค์ประกอบเหล่านี้สำหรับการผลิตกรดแลคติกในการออกแบบ Plackett-พม่าแสดงให้เห็นว่าการพิจารณาคดีจำนวน 15 แสดงให้เห็นว่าการผลิตกรดแลคติกสูงสุดเมื่อเทียบกับการทดลองอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

หมู่ฟอสเฟต แหล่ง ใช้ เพียง k2hpo4 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ % และมีความแตกต่างมากในการผลิตกรดแลคติกระหว่างสองฟอสเฟตแหล่งใช้ การผลิตสูงสุด คือ บรรลุกับ k2hpo4 และดังนั้นจึงถูกเลือกสำหรับการศึกษาต่อ แม้ว่า feso4 ด้วย 7h2o ที่มีนัยสำคัญที่ 97.22 เปอร์เซ็นต์และมีผลทางลบต่อการผลิตกรดแลกติกเมื่อพิจารณาการผลิตกรดแลคติก มันก็ยังดีกว่าสารประกอบอื่นที่มีผลกระทบเชิงลบและทำให้ความเข้มข้นต่ำของมันถูกใช้เพื่อการศึกษาที่เหมาะสมต่อไป เดียวกันเป็นกรณีที่มี mnso4 ด้วย 4h2o เป็น 96.82 % ที่สำคัญสำหรับการผลิตกรดแลคติกและเนื่องจากได้ผลในเชิงลบ ความเข้มข้นต่ำถูกใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพต่อไปซิเตรตโซเดียมไตรโซเดียมซิยังไม่สำคัญ ; เป็นลบในแง่ของผลของพวกเขาและถูกคัดออก วันที่น้ำอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 99.99% 16.86 กรัม / ลิตรและผลิตกรดแลกติก ซึ่งมากที่สุดในบรรดา 15 ชิ้นส่วนการเปรียบเทียบขององค์ประกอบเหล่านี้เพื่อผลิตกรดแลคติกใน plackett –การออกแบบพบว่า ก่อนการทดลองหมายเลข 15 มีการผลิตกรดแลกติกสูงสุดเมื่อเทียบกับการทดลองอื่น ๆ