Uranus is the seventh planet from t

Uranus is the seventh planet from the Sun. It has the third-largest planetary radius and fourth-largest planetary mass in the Solar System. Uranus is similar in composition to Neptune, and both have different bulk chemical composition from that of the larger gas giants Jupiter and Saturn. For this reason, scientists often classify Uranus and Neptune as "ice giants" to distinguish them from the gas giants. Uranus's atmosphere is similar to Jupiter's and Saturn's in its primary composition of hydrogen and helium, but it contains more "ices" such as water, ammonia, and methane, along with traces of other hydrocarbons.[12] It is the coldest planetary atmosphere in the Solar System, with a minimum temperature of 49 K (−224.2 °C), and has a complex, layered cloud structure with water thought to make up the lowest clouds and methane the uppermost layer of clouds.[12] The interior of Uranus is mainly composed of ices and rock.[11]

Uranus is the only planet whose name is derived from a figure from Greek mythology, from the Latinised version of the Greek god of the sky Ouranos. Like the other giant planets, Uranus has a ring system, a magnetosphere, and numerous moons. The Uranian system has a unique configuration among those of the planets because its axis of rotation is tilted sideways, nearly into the plane of its solar orbit. Its north and south poles, therefore, lie where most other planets have their equators.[16] In 1986, images from Voyager 2 showed Uranus as an almost featureless planet in visible light, without the cloud bands or storms associated with the other giant planets.[16] Observations from Earth have shown seasonal change and increased weather activity as Uranus approached its equinox in 2007. Wind speeds can reach 250 metres per second (900 km/h, 560 mph).[17]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์เจ็ดจากดวงอาทิตย์ มีรัศมีดาวเคราะห์ที่ใหญ่เป็นอันดับสามและมวลดาวเคราะห์ที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ในระบบสุริยะ องค์ประกอบของดาวเนปจูนดาวยูเรนัสมี และทั้งสองมีองค์ประกอบทางเคมีแตกต่างกันจำนวนมากจากยักษ์ใหญ่ก๊าซมีขนาดใหญ่กว่าดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ด้วยเหตุนี้ นักวิทยาศาสตร์มักแบ่งประเภทดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนเป็น "ยักษ์น้ำแข็ง" จะแตกต่างจากก๊าซยักษ์ใหญ่ บรรยากาศของดาวยูเรนัสจะคล้ายกับของดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ของในองค์ประกอบของหลักของไฮโดรเจนและฮีเลียม แต่มันประกอบด้วยมากกว่า "ไอซ์" เช่นน้ำ แอมโมเนีย มีเทน พร้อมกับร่องรอยของสารไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ [12] มันเป็นบรรยากาศ coldest ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ มีอุณหภูมิต่ำสุด 49 K (−224.2 ° C), และมีโครงสร้างซับซ้อน ชั้นเมฆน้ำคิดว่า จะทำขึ้นเมฆต่ำสุดและมีเทนเมฆชั้นบนหลุด [12] ภายในของดาวยูเรนัสส่วนใหญ่ประกอบด้วยหินและไอซ์ [11]ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์เท่านั้นที่มีชื่อมาจากรูปจากตำนานเทพเจ้ากรีก จากพระสกา Ouranos กรีกรุ่น Latinised ดาวยูเรนัสมีระบบวงแหวน แม็กนีโตสเฟียร์มี และดวงจันทร์จำนวนมากเหมือนยักษ์ดาวเคราะห์อื่น ๆ ระบบ Uranian มีการกำหนดค่าเฉพาะที่ของดาวเคราะห์ได้เนื่องจากเอียงของแกนหมุนเกือบอยู่ในระนาบของวงโคจรของอาทิตย์ด้านข้าง ของเหนือและขั้วทิศใต้ ดังนั้น อยู่ที่ดาวเคราะห์อื่น ๆ ส่วนใหญ่มี equators ของพวกเขา ค.ศ.ในปี 1986 ภาพจาก Voyager 2 แสดงดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ featureless เกือบในแสงที่มองเห็น ไม่มีเมฆวงหรือพายุที่เกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์ยักษ์อื่น ๆ [16] ข้อสังเกตจากโลกมีแสดงการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล และเพิ่มกิจกรรมสภาพอากาศขณะที่ดาวยูเรนัสทาบทามของวิษุวัตใน 2007 ความเร็วลมสามารถเข้าถึง 250 เมตรต่อวินาที (900 กม./ ชม. 560 mph) [17]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ที่เจ็ดจากดวงอาทิตย์ มันมีสามที่ใหญ่ที่สุดรัศมีของดาวเคราะห์และใหญ่เป็นอันดับสี่ของมวลของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ ดาวยูเรนัสเป็นคล้ายกันในองค์ประกอบเนปจูนและทั้งสองมีองค์ประกอบทางเคมีจำนวนมากที่แตกต่างจากที่ของก๊าซยักษ์ขนาดใหญ่พฤหัสบดีและดาวเสาร์ ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์มักจะแบ่งประเภทของดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนเป็น "น้ำแข็งยักษ์" เพื่อความแตกต่างจากดาวก๊าซยักษ์ บรรยากาศของดาวยูเรนัสมีลักษณะคล้ายกับดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ในองค์ประกอบหลักของไฮโดรเจนและฮีเลียม แต่มันก็มีมากขึ้น "ไอศครีม" เช่นน้ำแอมโมเนียและมีเทนพร้อมกับร่องรอยของสารไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ . [12] มันเป็นบรรยากาศที่หนาวเย็นของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะที่มีอุณหภูมิต่ำสุด 49 K (-224.2 ° C) และมีความซับซ้อนของโครงสร้างเมฆชั้นด้วยน้ำคิดที่จะทำขึ้นเมฆต่ำสุดและก๊าซมีเทนชั้นหนังกำพร้าของเมฆ [12] การตกแต่งภายในของดาวยูเรนัสประกอบด้วยส่วนใหญ่ของไอศครีมและร็อค. [11]

ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวที่มีชื่อมาจากตัวเลขจากตำนานกรีกจากรุ่น Latinised ของเทพเจ้ากรีกของท้องฟ้า Ouranos เช่นเดียวกับดาวเคราะห์ยักษ์อื่น ๆ ดาวยูเรนัสมีระบบวงแหวนแม่เหล็กและดวงจันทร์จำนวนมาก ระบบ Uranian มีการกำหนดค่าที่ไม่ซ้ำกันในหมู่ผู้ของดาวเคราะห์เพราะแกนของการหมุนเอียงไปด้านข้างเกือบลงไปในระนาบของวงโคจรของแสงอาทิตย์ ทิศตะวันตกเฉียงเหนือและทิศใต้เสาของมันจึงอยู่ที่มากที่สุดดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆ มี equators ของพวกเขา. [16] ในปี 1986 ภาพจากรอบโลก 2 แสดงให้เห็นว่าดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ไม่มีรูปเกือบจะอยู่ในแสงที่มองเห็นได้โดยไม่ต้องวงดนตรีเมฆหรือพายุที่เกี่ยวข้องกับดาวเคราะห์ยักษ์อื่น ๆ . [16] สังเกตจากโลกได้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและสภาพอากาศกิจกรรมที่เพิ่มขึ้นเป็นดาวยูเรนัสเข้าหา Equinox ในปี 2007 ความเร็วลมสามารถเข้าถึง 250 เมตรต่อวินาที (900 km / h, 560 ไมล์ต่อชั่วโมง). [17]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ดวงที่ 7 จากดวงอาทิตย์ มันมีรัศมีใหญ่เป็นอันดับสามของดาวเคราะห์และดาวเคราะห์มวลใหญ่เป็นอันดับสี่ในระบบสุริยะ ดาวยูเรนัสจะคล้ายกันในองค์ประกอบกับดาวเนปจูนและทั้งสองมีองค์ประกอบทางเคมีที่แตกต่างกันมากจากที่ของขนาดใหญ่ก๊าซยักษ์ดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์มักจะจำแนกดาวยูเรนัสและดาวเนปจูนเป็น " ยักษ์ " น้ำแข็งเพื่อแยกพวกเขาจากก๊าซยักษ์ ดาวยูเรนัสเป็นบรรยากาศที่คล้ายคลึงกับดาวพฤหัสบดีและดาวเสาร์ในองค์ประกอบหลักของไฮโดรเจนและฮีเลียม แต่มันมีมากขึ้น " หวานเย็น " เช่น น้ำ แอมโมเนีย และมีเทน พร้อมกับร่องรอยของไฮโดรคาร์บอนอื่น ๆ [ 12 ] มันเป็นบรรยากาศที่หนาวที่สุดของดาวเคราะห์ในระบบสุริยะ มีอุณหภูมิต่ำสุด 49 K ( − 224.2 ° C ) และมีโครงสร้างซับซ้อน ชั้นเมฆ น้ำคิดว่าเพื่อให้ขึ้นเมฆมีเทนต่ำสุด และเลเยอร์บนสุดของเมฆ . [ 12 ] ภายในของดาวยูเรนัสส่วนใหญ่ประกอบด้วยน้ำแข็งและหิน [ 11 ]ดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์ดวงเดียวที่มีชื่อมาจากรูปจากเทพนิยายกรีก จาก latinised รุ่นของกรีกพระเจ้าของท้องฟ้าโอรานอส . เหมือนกับยักษ์ดาวเคราะห์ยูเรนัสมีวงแหวน ระบบแมกนิโตสเฟียร์ และดวงจันทร์มากมาย ระบบ uranian มีเฉพาะการตั้งค่ากลุ่มของดาวเคราะห์ เพราะแกนของการหมุนเอียงไปด้านข้าง เกือบเป็นระนาบวงโคจรของพลังงานแสงอาทิตย์ของ เหนือและขั้วใต้ จึงโกหกว่าดาวเคราะห์ดวงอื่น ๆส่วนใหญ่มี equators . [ 16 ] ในปี 1986 , ภาพจาก Voyager 2 มีดาวยูเรนัสเป็นดาวเคราะห์เกือบซึ่งไม่น่าสนใจในแสงที่มองเห็นได้โดยไม่ต้องแถบเมฆหรือพายุที่เกี่ยวข้องกับอื่น ๆยักษ์ดาวเคราะห์ [ 16 ] สังเกตจากโลกได้แสดงการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาลและเพิ่มอากาศ กิจกรรมเป็นดาวยูเรนัสเข้าหาของ Equinox ใน 2007 ความเร็วลมถึง 250 เมตรต่อวินาที ( 900 km / h , 560 mph ) . [ 17 ]