Quiroga and Bullock (1995) have ded

Quiroga and Bullock (1995) have deduced the following, after performing experiments and collecting over 3 million GPS data points over a network of more than 300 miles. They have shown that to detect localized errors, the segment (the road networks are divided into segments whenever particular attribute changes, one such attribute may be the number of lanes on that segment) lengths of the road network should be around 0.2 to 0.5 miles. A sampling rate of 1 or 2 seconds is preferable and the sampling rate should be smaller than half the shortest travel time associated with the segment. In conducting travel time studies using GPS and GIS, the first step is to obtain a good base vector map with links to a database. It is advisable to construct the base map directly form GPS data, GPS data collected during future travel time studies is guaranteed to match the vector base map with in a tolerance defined by the GPS equipment positional accuracy. The major advantage of using a base map produced by a GPS, against previously existing maps is that the positional errors in the existing maps can be overcome.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Quiroga และบูลล็อค (1995) มี deduced ต่อไปนี้ หลังจากทำการทดลอง และเก็บรวบรวมกว่า 3 ล้านจุดข้อมูลของ GPS ผ่านเครือข่ายมากกว่า 300 ไมล์ พวกเขาได้แสดงที่ตรวจพบข้อผิดพลาดภาษาท้องถิ่น (ถนนเครือข่ายแบ่งออกเป็นเซ็กเมนต์เมื่อใดก็ ตามการเปลี่ยนแปลงคุณลักษณะเฉพาะ หนึ่งคุณลักษณะดังกล่าวอาจมีจำนวนเลนบนเซ็กเมนต์นั้น) ส่วนความยาวของถนนควรจะประมาณ 0.2-0.5 ไมล์ อัตราการสุ่มตัวอย่างที่ 1 หรือ 2 วินาทีเป็นที่นิยม และอัตราการสุ่มตัวอย่างควรมีขนาดเล็กกว่าครึ่งเวลาอันสั้นท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับเซ็กเมนต์ ในการทำการศึกษาเวลาเดินทางโดยใช้ GPS และ GIS ขั้นตอนแรกจะขอรับแผนที่เวกเตอร์ฐานที่ดีกับการเชื่อมโยงไปยังฐานข้อมูล จะแนะนำให้สร้างแผนที่ฐานโดยตรงแบบฟอร์มข้อมูล GPS รับประกันข้อมูล GPS ที่รวบรวมในระหว่างการเดินทางในอนาคตเวลาศึกษาให้ตรงกับเวกเตอร์ฐานแผนที่ในการยอมรับที่กำหนด โดยที่ GPS อุปกรณ์ความแม่นยำ ประโยชน์หลักของการใช้แผนที่ฐานผลิต โดยจีพีเอส กับที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ คือแผนที่ ที่ผิดตำแหน่งในแผนที่ที่มีอยู่สามารถเอาชนะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรกาและวัว (1995) ได้สรุปต่อไปนี้หลังจากดำเนินการทดลองและการเก็บรวบรวมกว่า 3 ล้านจุดข้อมูล GPS ผ่านเครือข่ายกว่า 300 ไมล์ พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าในการตรวจสอบข้อผิดพลาดของการแปลส่วน (เครือข่ายถนนที่มีการแบ่งออกเป็นกลุ่มเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแอตทริบิวต์เฉพาะอย่างยิ่งหนึ่งแอตทริบิวต์ดังกล่าวอาจจะจำนวนเลนในส่วนว่า) ความยาวของเครือข่ายถนนควรจะประมาณ 0.2-0.5 ไมล์ อัตราการสุ่มตัวอย่างของ 1 หรือ 2 วินาทีเป็นที่นิยมและอัตราการสุ่มตัวอย่างที่ควรจะมีขนาดเล็กลงกว่าครึ่งหนึ่งของเวลาในการเดินทางที่สั้นที่สุดที่เชื่อมโยงกับกลุ่ม ในการดำเนินการศึกษาเวลาในการเดินทางโดยใช้ GPS และระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ขั้นตอนแรกคือการได้รับฐานแผนที่เวกเตอร์ที่ดีกับการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล ก็จะแนะนำให้สร้างแผนที่ฐานโดยตรงฟอร์มข้อมูลจีพีเอส, จีพีเอสที่เก็บรวบรวมข้อมูลในระหว่างการศึกษาระยะเวลาการเดินทางในอนาคตมีการประกันเพื่อให้ตรงกับแผนที่ฐานเวกเตอร์ที่มีความอดทนในการที่กำหนดโดยอุปกรณ์จีพีเอสมีความถูกต้องตำแหน่ง ข้อได้เปรียบที่สำคัญของการใช้แผนที่ฐานที่ผลิตโดยจีพีเอสกับแผนที่ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ก็คือว่าข้อผิดพลาดตำแหน่งในแผนที่ที่มีอยู่จะสามารถเอาชนะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

และ Quiroga วัว ( 1995 ) ได้ลงความเห็นต่อไป หลังจากทดลอง และเก็บรวบรวมกว่า 3 ล้าน gps จุดข้อมูลผ่านเครือข่ายกว่า 300 ไมล์ พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าการตรวจสอบเฉพาะข้อผิดพลาด ส่วน ( ถนนเครือข่ายแบ่งออกเป็นส่วนที่เปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะคุณลักษณะ คุณลักษณะ เช่นอาจเป็นหมายเลขของเลนบนส่วนนั้น ) ความยาวของเครือข่ายถนนน่าจะประมาณ 0.2 - 0.5 ไมล์ ตัวอย่างอัตรา 1 หรือ 2 วินาที ประเภทและอัตราการสุ่มตัวอย่างควรมีขนาดเล็กกว่าครึ่งหนึ่งของเวลาที่สั้นที่สุด การเดินทางที่เกี่ยวข้องกับส่วน ในการทำการศึกษาโดยใช้เวลาเดินทาง GPS และ GIS , ขั้นตอนแรกคือการได้รับแผนที่เวกเตอร์ฐานที่ดี มีการเชื่อมโยงกับฐานข้อมูล มันสมควรที่จะสร้างแผนที่ฐานโดยตรงแบบฟอร์มข้อมูล GPS , GPS เก็บข้อมูลในระหว่างการศึกษาเวลาในการเดินทางในอนาคตมีการประกันเพื่อให้ตรงกับฐานแผนที่เวกเตอร์ในความอดทนที่กำหนดโดยอุปกรณ์ GPS ตำแหน่งถูกต้อง ประโยชน์หลักของการใช้เป็นแผนที่ฐานผลิตโดย GPS กับแผนที่ที่มีอยู่ก่อนหน้านี้เป็นข้อผิดพลาดตำแหน่งในแผนที่ที่มีอยู่จะสามารถเอาชนะ