We explore the relationship between

We explore the relationship between employee trust of managers and workplace performance.
We present a theoretical framework which serves to establish a link between
employee trust and firm performance as well as to identify possible mechanisms through
which the relationship may operate. We then analyse matched workplace and employee
data in order to ascertain whether the average level of employee trust within the workplace
influences workplace performance. We exploit the 2004 and 2011 Workplace Employment
Relations Surveys (WERS) to analyse the role of average employee trust in influencing
workplace performance in both pre- and post-recessionary periods. Our empirical findings
support a positive relationship between three measures of workplace performance (financial
performance, labour productivity and product or service quality) and average employee
trust at both points in time. Moreover, this relationship holds when we jointly model average
employee trust and firm performance in an instrumental variable framework in order to
take into account the potential endogeneity of employee trust. We then exploit employee
level data from the WERS to ascertain how individual level trust of the employee (rather
than the average within the workplace) is influenced by measures taken by employers
to deal with the recent recession. Our findings suggest that restricting paid overtime and
access to training potentially erode employee trust. In addition, we find that job or work
reorganisation experienced at either the employee or organisation level is associated with
lower employee trust.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เราสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างประสิทธิภาพการทำงานและไว้วางใจพนักงานของผู้จัดการเรานำเสนอเป็นกรอบทฤษฎีซึ่งทำหน้าที่สร้างการเชื่อมโยงระหว่างพนักงานบริษัทและไว้วางใจประสิทธิภาพเช่นระบุกลไกได้ผ่านซึ่งความสัมพันธ์อาจมี เราวิเคราะห์แล้วทำงานตรงกันและพนักงานข้อมูลการตรวจว่า ระดับเฉลี่ยของพนักงานไว้ใจภายในทำงานมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน เราใช้จ้างทำ 2004 และ 2011ความสัมพันธ์แบบสำรวจ (WERS) การวิเคราะห์บทบาทของพนักงานเฉลี่ยเชื่อมีอิทธิพลต่อประสิทธิภาพการทำงานในรอบระยะเวลาทั้งก่อน และ post-recessionary เราค้นพบประจักษ์สนับสนุนความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่างสามวัดประสิทธิภาพที่ทำงาน (การเงินประสิทธิภาพ ผลิตภาพแรงงาน และคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ) และพนักงานเฉลี่ยเชื่อจุดทั้งในเวลา นอกจากนี้ ความสัมพันธ์นี้แสดงเมื่อเราร่วมรุ่นเฉลี่ยพนักงานเชื่อถือและยืนยันประสิทธิภาพในกรอบตัวแปรการบรรเลงเพื่อนำเข้าบัญชี endogeneity เป็นตัวแทนพนักงานของบริษัท เราใช้ประโยชน์พนักงานแล้วระดับข้อมูลจาก WERS การตรวจแต่ละวิธีความน่าเชื่อถือระดับของพนักงาน (ค่อนข้างกว่าค่าเฉลี่ยภายในทำงาน) ได้รับอิทธิพลจากมาตรการที่ดำเนินการ โดยนายจ้างการจัดการกับภาวะถดถอยล่าสุด ผลการวิจัยของเราแนะนำว่า การจำกัดการจ่ายค่าล่วงเวลา และการเข้าถึงการฝึกอบรมอาจกัดกร่อนแทนพนักงาน นอกจากนี้ เราค้นหางานหรืองานที่reorganisation ประสบการณ์ระดับพนักงานหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องกับต่ำกว่าพนักงานเชื่อถือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เราสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างความไว้วางใจของผู้บริหารพนักงานและประสิทธิภาพการทำงาน.
เรานำเสนอกรอบทฤษฎีซึ่งทำหน้าที่ในการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างความไว้วางใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน บริษัท เช่นเดียวกับการระบุกลไกที่เป็นไปได้ผ่านความสัมพันธ์อาจทำงาน จากนั้นเราจะวิเคราะห์จับคู่สถานที่ทำงานและพนักงานข้อมูลในการสั่งซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าระดับค่าเฉลี่ยของความไว้วางใจการทำงานของพนักงานภายในสถานที่ทำงานมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน เราใช้ประโยชน์จากปี 2004 และ 2011 การจ้างงานในสถานที่ทำงานสำรวจความสัมพันธ์(WERS) ในการวิเคราะห์บทบาทของความไว้วางใจในการทำงานของพนักงานเฉลี่ยที่มีอิทธิพลต่อผลการดำเนินงานในสถานที่ทำงานทั้งงวดก่อนหรือหลังถดถอย ผลการวิจัยเชิงประจักษ์ของเราสนับสนุนความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างสามมาตรการของการปฏิบัติงานในสถานที่ทำงาน(การเงินประสิทธิภาพผลิตภาพแรงงานและคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ) และลูกจ้างเฉลี่ยความไว้วางใจที่จุดทั้งในเวลา นอกจากนี้ความสัมพันธ์นี้ถือเมื่อเราร่วมกันแบบเฉลี่ยความไว้วางใจและประสิทธิภาพการทำงานของพนักงาน บริษัท ในกรอบตัวแปรเครื่องมือในการสั่งซื้อเพื่อนำเข้าบัญชีendogeneity ศักยภาพของความไว้วางใจการทำงานของพนักงาน จากนั้นเราจะใช้ประโยชน์จากการทำงานของพนักงานข้อมูลระดับจาก WERS เพื่อยืนยันว่าความไว้วางใจระดับบุคคลของพนักงาน (แทนที่จะกว่าค่าเฉลี่ยภายในสถานที่ทำงาน) จะได้รับอิทธิพลจากมาตรการโดยนายจ้างที่จะจัดการกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ผ่านมา ค้นพบของเราแสดงให้เห็นว่าการ จำกัด การจ่ายค่าล่วงเวลาและการเข้าถึงการฝึกอบรมอาจกัดกร่อนความไว้วางใจการทำงานของพนักงาน นอกจากนี้เรายังพบว่าการทำงานหรือการทำงานของการปรับโครงสร้างองค์กรที่มีประสบการณ์ที่ทั้งพนักงานหรือองค์กรระดับมีความเกี่ยวข้องกับความไว้วางใจของพนักงานที่ลดลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เราสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานไว้วางใจของผู้จัดการและประสิทธิภาพการทำงาน .
เราเสนอกรอบทฤษฎีซึ่งทำหน้าที่ในการสร้างการเชื่อมโยงระหว่าง
เชื่อพนักงาน และผลการดำเนินงาน รวมทั้งการระบุกลไกผ่าน
ซึ่งความสัมพันธ์อาจใช้งาน เราก็วิเคราะห์ตรงกันสถานที่ทำงานและพนักงาน
ข้อมูล เพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าระดับเฉลี่ยของความไว้วางใจของพนักงานภายในที่ทำงาน
มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน we exploit และอิเล็กตรอน ( 2011 workplace กฎระเบียบ
relations Delivery ( wers ) to นะครับ role ของ trust แม่ average in influencing
performance workplace in เจ็ด pre ( post periods เช่นคุณลู .
ประจักษ์ผลของเราสนับสนุนความสัมพันธ์ระหว่างสามมาตรการการปฏิบัติงานของสถานประกอบการ ( ประสิทธิภาพ ผลิตภาพแรงงานและคุณภาพสินค้า หรือ บริการทางการเงินและพนักงาน

) มีความไว้วางใจในทั้งสองจุดในเวลา นอกจากนี้ ความสัมพันธ์นี้ถือเมื่อเราร่วมกันแบบเชื่อใจพนักงานเฉลี่ย
กับผลการดำเนินงานในกรอบตัวแปรเพื่อ
บรรเลงรับ endogeneity ศักยภาพของความไว้วางใจของพนักงาน เราก็ใช้ประโยชน์จากพนักงาน
( ข้อมูลจาก wers วินิจฉัยว่าบุคคลระดับความน่าเชื่อถือของพนักงาน ( ค่อนข้าง
มากกว่าค่าเฉลี่ยภายในสถานที่ทำงาน ) เป็นผลมาจากมาตรการนายจ้าง
เพื่อรับมือกับภาวะถดถอยล่าสุด ผลการวิจัยบ่งชี้ว่าการจ่ายค่าล่วงเวลาและ
การเข้าถึงการฝึกอบรมอาจบั่นทอนความไว้วางใจของพนักงาน นอกจากนี้ เราพบว่า งานหรือการมีประสบการณ์
ที่พนักงานหรือองค์กรระดับล่างที่เกี่ยวข้องกับ
พนักงานเชื่อถือ