ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอลกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยชาวอเม การแปล - ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอลกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยชาวอเม ไทย วิธีการพูด

ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอ

ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล

กีฬาวอลเลย์บอลกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยชาวอเมริกานชื่อ นายวิลเลียม จี มอร์แกน (Mr. William G. Morgan) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโฮลโยก (Holyoke) มลรัฐแมสซาซูเซทส์ (Massachusetts) โดยได้ดัดแปลงมาจากกีฬา3 ชนิด คือ เทนนิส เบสบอล และแฮนด์บอลประยุกต์เข้าด้วยกัน อุปกรณ์
ที่ใช้เล่นคือ ยางในของลูกบาสเกตบอล ใช้ตาข่ายแทนเทนนิสแบ่งเขตแพน ให้ส่วนตรงกลางสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว (1.95 ม.) โดยใช้เสาสองต้นในโรงยิมเนเซียน นายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้ให้ความมุ่งหมาย
ของการเล่นกีฬาชนิดนี้ไว้ 3 ประการ คือ
1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใหญ่ได้ออกกำลังกายและใช้เล่นร่วมกันแทนกีฬาบาสเกตบอล
ซึ่งเป็นกีฬาไม่เหมาะสมกับวัยและอายุ
2 เพื่อให้มีกีฬาที่สามารถใช้เล่นในร่มและในโยงยิมเนเซียมเล็กๆ ได้ และสามารถใช้เล่นในฤดูหนาวได้
3. เพื่อให้ผู้มีอายุมากได้มีโอกาสใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และใช้เวลาพักผ่อนนันทนาการไปในตัวพร้อมกันด้วย โดยมีการกำหนดกติกาง่ายๆ ไม่ยุ่งยากมากนัก กติกาที่กำหนด มีดังนี้
ก) การเริ่มเล่น ให้ผู้ที่ได้ส่งลูกของข้างใดข้างหนึ่งเป็นผู้ส่งลูก และละคนมีสิทธิส่งลูก 2 ครั้ง ติดต่อกัน ไม่ว่าฝ่ายส่งจะเสียหรือฝ่ายตรงข้ามจะเสียก็ตาม
ข) เกมหนึ่งประกอบไปด้วย 9อินนิง (inning) ถ้าฝ่ายใดแพ้ 3 อินนิง ให้ปรับเป็นฝ่ายแพ้
ค) ผู้เล่นแต่ละคนของแต่ละฝ่าย พยายามตีลูกบอลโต้ให้ลอยข้ามตาข่ายไปมา และไม่กำหนดจำนวนผู้เล่นที่แน่นอน จะเล่นข้างละกี่คนก็ได้ แต่ให้จำนวนเท่ากัน
เกมการเล่นนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนมากมาย เพราะทำให้เกิดความสนุกสนาน และนายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้ให้ชื่อเมนี้ว่า มินโตเนต (Mintonette)
ต่อมาในปี ค.ศ. 1896 เกมมินโนเนตได้มีวิวัฒนาการใหม่ เมื่อนายวิลเลียม จี มอร์แกน
แสดงวิธีการเล่นต่อที่ประชุมสัมนาผู้อำนวยการพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. ที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาชูเซทส์ และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้เข้าร่วมประชุมใหญ่ ศาสตราจารย์อัลเฟรด ทีเฮลสตีด ได้เสนอแนะให้ นายวิลเลียม เปลี่ยนชื่อเรียกจากมินโตเนต เป็น วอลเลย์บอล ตั้งแต่
นั้นมา และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อร่างระเบียบและกำหนดวิธีการเล่นให้เป็นแบบฉบับต่อไป โดยได้กำหนดกติกาเพิ่มขึ้น เช่น จำนวนผู้เล่นข้างละ 5 คนแข่งขันเกมละ 21 คะแนน ตาข่ายสูง 21 เมตร เป็นต้น
ในปี ค.ศ. 1919 สมาคม Y.M.C.A. ได้เชิญสมาคมส่งเสริมการกีฬาแห่งชาติอเมริกาที่มีชื่อเรียกว่า N.C.A.A. (The National Collegiate Athletic Association) เข้าร่วมการพิจารณาและเป็นผู้อุปการะในการจัดพิมพ์หนังสือกติกาวอลเลย์บอลโดยเฉพาะเป็นเล่มแรกของโลกขึ้น มีชื่อเรียกว่า Sponding Bule Cover Volleyball Bule Book ทั้งมีความประสงค์เพื่อเผยแพร่กติกาการเล่นวิลเลย์บอลสู่วิทยาลัยและสมาคมอื่นๆ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
กีฬาวอลเลย์บอลได้วิวัฒนาการมาโดยตลอด ในปี ค.ศ. 1921 ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยกำหนดกติกาเพิ่มขึ้น เช่นผู้เล่นใช้จำนวนข้างละ 6 คน ขนาดสนามกว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร มีเส้นแบ่งแดนกลาง ตาข่ายสูง 2.43 เมตร แข่งขันกันเกมละ 25 คะแนน เป็นต้น
ต่อมาในปี ค.ศ.1928ได้มีการประชุมขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงกติกาเล่นวอลเลย์บอล
ของสมาคม Y.M.C.A. และได้จัดตั้งสมาคมใหม่เรียกว่า U.S.V.B.A. ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตั้ง
กฎเกณฑ์ กติกาการแข่งขันวอลเลยบอลระดับชาติ ประธานสมาคมคนแรก คือดอกเตอร์ จอร์จ เจ.
พิสเซอร์ ซึ่งบุคคลผู้นี้เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในการช่วยเผยแพร่กีฬาวอลเลย์บอลออกไปเผยแพร่ในในลักษณะโครงการสันทนาการตามค่ายพักแรม ตามบ้าน และตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จนกีฬาวอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่มีคนนิยมเล่นกันอย่างกว้างขวาง และมีการจัดการแข่งขันแทบทุกหาทุกแห่ง
ปี ค.ศ. 1947 ได้มีการก่อตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต่อมาได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปตั้งที่เมืองโลวานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี
ค.ศ. 1949 ปัจจุบันมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นสมาชิก 210 ประเทศ และมีผู้สนใจเล่นกีฬาวอลเลย์บอลประมาณ 800 ล้านคน
ปี ค.ศ. 1949 มีการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อชิงความเป็นผู้ชนะเลิศของโลก
ขึ้นที่กรุงปราก ประเทศเซโกวโลวะเกีย โดยจัดการแข่งขันเฉพาะประเภทชายเท่านั้น
ปี ค.ศ. 1952 ได้มีการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นผู้ชนะเลิศของโลกประเภทชายขึ้น เป็นครั้งที่ 2 และประเภทหญิงเป็นครั้งแรกที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
ปี ค.ศ. 1957 กีฬาวอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่จัดแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก

กีฬาวอลเลย์บอลในทวีปเอเชีย
ได้เริ่มมีการเล่นกีฬาวอเลเลย์บอลครั้งแรกในทวีปเอเซียที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี ค.ศ. 1910 โดยนายอี เอส บราวน์ (E.S.Bronwn) เป็นผู้นำเข้าไปเผยแพร่เป็นคนแรก
ปี ค.ศ. 1913 นายอี เอส บราวน์ ได้นำกีฬาวอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น
โดยใช้ผู้เล่นข้างละ 8 คน

ปี ค.ศ. 1927 ได้มีการจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่ปุ่น และมีการแข่งขันวอลเลย์บอลในการแข่งขันกีฬาตะวันออกไกล ครั้งที่ 8 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
ปี ค.ศ. 1951 สามาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่หุ่น สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1954 ในการแข่งขันกีฬาเอเซียนเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่ประเทศอินเดีย ยังไม่มีการแข่งขันวอลเลย์บอล แต่ได้มีการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชีย แทนการแข่งขันวอลเลย์บอล
ในเอเซียนเกมส์ ครั้งที่ 2
ปี ค.ศ. 1958 ได้เริ่มมีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล ในการแข่งขันเอเซียนเกมส์ ครั้งที่ 3
โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

กีฬาวอลเลย์บอลในประเทศไทย
ไม่มีประวัติหลักฐานบันทึกไว้แน่นอนว่ากีฬาวอลเลย์บอลเข้ามาในประเทศไทยเมื่อใด
ใครเป็นผู้นำเข้ามา คาดว่าประชาชนไทยบางกลุ่มได้เริ่มเล่นและมีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลกัน
ในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงที่มีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่นำมาเผยแพร่ โดยเริ่มเล่นครั้งแรกใช้กติกาการแข่งขัน กำหนดให้มีผู้เล่นทีมละ 9 คน
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500 มีการก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยขึ้นโดยมีกรมพลศึกษาเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี ทั้งในระดับนักเรียนและ ระดับประชาชน
สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเพื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 มีผู้ริเริ่มก่อตั้ง คือ
1. พล.ท.สุรจิตร จารุเศรณี
2. นายกอง วิสุทธารมณ์
3. นายสวัสิ์ เลขายานนท์
4. นาย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติกีฬาวอลเลย์บอล กีฬาวอลเลย์บอลกำเนิดขึ้นในปี ค.ศ. 1895 โดยชาวอเมริกานชื่อ นายวิลเลียม จี มอร์แกน (Mr. William G. Morgan) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโฮลโยก (Holyoke) มลรัฐแมสซาซูเซทส์ (Massachusetts) โดยได้ดัดแปลงมาจากกีฬา3 ชนิด คือ เทนนิส เบสบอล และแฮนด์บอลประยุกต์เข้าด้วยกัน อุปกรณ์ที่ใช้เล่นคือ ยางในของลูกบาสเกตบอล ใช้ตาข่ายแทนเทนนิสแบ่งเขตแพน ให้ส่วนตรงกลางสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว (1.95 ม.) โดยใช้เสาสองต้นในโรงยิมเนเซียน นายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้ให้ความมุ่งหมายของการเล่นกีฬาชนิดนี้ไว้ 3 ประการ คือ 1. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใหญ่ได้ออกกำลังกายและใช้เล่นร่วมกันแทนกีฬาบาสเกตบอล ซึ่งเป็นกีฬาไม่เหมาะสมกับวัยและอายุ 2 เพื่อให้มีกีฬาที่สามารถใช้เล่นในร่มและในโยงยิมเนเซียมเล็กๆ ได้ และสามารถใช้เล่นในฤดูหนาวได้ 3. เพื่อให้ผู้มีอายุมากได้มีโอกาสใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และใช้เวลาพักผ่อนนันทนาการไปในตัวพร้อมกันด้วย โดยมีการกำหนดกติกาง่ายๆ ไม่ยุ่งยากมากนัก กติกาที่กำหนด มีดังนี้ ก) การเริ่มเล่น ให้ผู้ที่ได้ส่งลูกของข้างใดข้างหนึ่งเป็นผู้ส่งลูก และละคนมีสิทธิส่งลูก 2 ครั้ง ติดต่อกัน ไม่ว่าฝ่ายส่งจะเสียหรือฝ่ายตรงข้ามจะเสียก็ตาม ข) เกมหนึ่งประกอบไปด้วย 9อินนิง (inning) ถ้าฝ่ายใดแพ้ 3 อินนิง ให้ปรับเป็นฝ่ายแพ้ ค) ผู้เล่นแต่ละคนของแต่ละฝ่าย พยายามตีลูกบอลโต้ให้ลอยข้ามตาข่ายไปมา และไม่กำหนดจำนวนผู้เล่นที่แน่นอน จะเล่นข้างละกี่คนก็ได้ แต่ให้จำนวนเท่ากัน
เกมการเล่นนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนมากมาย เพราะทำให้เกิดความสนุกสนาน และนายวิลเลียม จี มอร์แกน ได้ให้ชื่อเมนี้ว่า มินโตเนต (Mintonette)
ต่อมาในปี ค.ศ. 1896 เกมมินโนเนตได้มีวิวัฒนาการใหม่ เมื่อนายวิลเลียม จี มอร์แกน
แสดงวิธีการเล่นต่อที่ประชุมสัมนาผู้อำนวยการพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. ที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์ มลรัฐแมสซาชูเซทส์ และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้เข้าร่วมประชุมใหญ่ ศาสตราจารย์อัลเฟรด ทีเฮลสตีด ได้เสนอแนะให้ นายวิลเลียม เปลี่ยนชื่อเรียกจากมินโตเนต เป็น วอลเลย์บอล ตั้งแต่
นั้นมา และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อร่างระเบียบและกำหนดวิธีการเล่นให้เป็นแบบฉบับต่อไป โดยได้กำหนดกติกาเพิ่มขึ้น เช่น จำนวนผู้เล่นข้างละ 5 คนแข่งขันเกมละ 21 คะแนน ตาข่ายสูง 21 เมตร เป็นต้น
ในปี ค.ศ. 1919 สมาคม Y.M.C.A. ได้เชิญสมาคมส่งเสริมการกีฬาแห่งชาติอเมริกาที่มีชื่อเรียกว่า N.C.A.A. (The National Collegiate Athletic Association) เข้าร่วมการพิจารณาและเป็นผู้อุปการะในการจัดพิมพ์หนังสือกติกาวอลเลย์บอลโดยเฉพาะเป็นเล่มแรกของโลกขึ้น มีชื่อเรียกว่า Sponding Bule Cover Volleyball Bule Book ทั้งมีความประสงค์เพื่อเผยแพร่กติกาการเล่นวิลเลย์บอลสู่วิทยาลัยและสมาคมอื่นๆ ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
กีฬาวอลเลย์บอลได้วิวัฒนาการมาโดยตลอด ในปี ค.ศ. 1921 ได้มีการเปลี่ยนแปลงโดยกำหนดกติกาเพิ่มขึ้น เช่นผู้เล่นใช้จำนวนข้างละ 6 คน ขนาดสนามกว้าง 9 เมตร ยาว 18 เมตร มีเส้นแบ่งแดนกลาง ตาข่ายสูง 2.43 เมตร แข่งขันกันเกมละ 25 คะแนน เป็นต้น
ต่อมาในปี ค.ศ.1928ได้มีการประชุมขึ้น และมีการเปลี่ยนแปลงกติกาเล่นวอลเลย์บอล
ของสมาคม Y.M.C.A. และได้จัดตั้งสมาคมใหม่เรียกว่า U.S.V.B.A. ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตั้ง
กฎเกณฑ์ กติกาการแข่งขันวอลเลยบอลระดับชาติ ประธานสมาคมคนแรก คือดอกเตอร์ จอร์จ เจ.
พิสเซอร์ ซึ่งบุคคลผู้นี้เป็นผู้ที่มีบทบาทอย่างมากในการช่วยเผยแพร่กีฬาวอลเลย์บอลออกไปเผยแพร่ในในลักษณะโครงการสันทนาการตามค่ายพักแรม ตามบ้าน และตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ จนกีฬาวอลเลย์บอลเป็นกีฬาที่มีคนนิยมเล่นกันอย่างกว้างขวาง และมีการจัดการแข่งขันแทบทุกหาทุกแห่ง
ปี ค.ศ. 1947 ได้มีการก่อตั้งสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ (FIVB) ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ต่อมาได้ย้ายสำนักงานใหญ่ไปตั้งที่เมืองโลวานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี
ค.ศ. 1949 ปัจจุบันมีประเทศต่างๆ เข้าร่วมเป็นสมาชิก 210 ประเทศ และมีผู้สนใจเล่นกีฬาวอลเลย์บอลประมาณ 800 ล้านคน
ปี ค.ศ. 1949 มีการจัดให้มีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลเพื่อชิงความเป็นผู้ชนะเลิศของโลก
ขึ้นที่กรุงปราก ประเทศเซโกวโลวะเกีย โดยจัดการแข่งขันเฉพาะประเภทชายเท่านั้น
ปี ค.ศ. 1952 ได้มีการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นผู้ชนะเลิศของโลกประเภทชายขึ้น เป็นครั้งที่ 2 และประเภทหญิงเป็นครั้งแรกที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
ปี ค.ศ. 1957 กีฬาวอลเลย์บอลเป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่จัดแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก

กีฬาวอลเลย์บอลในทวีปเอเชีย
ได้เริ่มมีการเล่นกีฬาวอเลเลย์บอลครั้งแรกในทวีปเอเซียที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี ค.ศ. 1910 โดยนายอี เอส บราวน์ (E.S.Bronwn) เป็นผู้นำเข้าไปเผยแพร่เป็นคนแรก
ปี ค.ศ. 1913 นายอี เอส บราวน์ ได้นำกีฬาวอลเลย์บอลเข้าไปเผยแพร่ในประเทศญี่ปุ่น
โดยใช้ผู้เล่นข้างละ 8 คน

ปี ค.ศ. 1927 ได้มีการจัดตั้งสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่ปุ่น และมีการแข่งขันวอลเลย์บอลในการแข่งขันกีฬาตะวันออกไกล ครั้งที่ 8 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วย
ปี ค.ศ. 1951 สามาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่หุ่น สมัครเข้าเป็นสมาชิกของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ
ต่อมาในปี ค.ศ. 1954 ในการแข่งขันกีฬาเอเซียนเกมส์ ครั้งที่ 2 ที่ประเทศอินเดีย ยังไม่มีการแข่งขันวอลเลย์บอล แต่ได้มีการแข่งขันวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชีย แทนการแข่งขันวอลเลย์บอล
ในเอเซียนเกมส์ ครั้งที่ 2
ปี ค.ศ. 1958 ได้เริ่มมีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล ในการแข่งขันเอเซียนเกมส์ ครั้งที่ 3
โดยประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน

กีฬาวอลเลย์บอลในประเทศไทย
ไม่มีประวัติหลักฐานบันทึกไว้แน่นอนว่ากีฬาวอลเลย์บอลเข้ามาในประเทศไทยเมื่อใด
ใครเป็นผู้นำเข้ามา คาดว่าประชาชนไทยบางกลุ่มได้เริ่มเล่นและมีการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลกัน
ในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงที่มีการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ซึ่งประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่นำมาเผยแพร่ โดยเริ่มเล่นครั้งแรกใช้กติกาการแข่งขัน กำหนดให้มีผู้เล่นทีมละ 9 คน
จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2500 มีการก่อตั้งสมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทยขึ้นโดยมีกรมพลศึกษาเป็นผู้ดำเนินการจัดการแข่งขันขึ้นเป็นประจำทุกปี ทั้งในระดับนักเรียนและ ระดับประชาชน
สมาคมวอลเลย์บอลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเพื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 มีผู้ริเริ่มก่อตั้ง คือ
1. พล.ท.สุรจิตร จารุเศรณี
2. นายกอง วิสุทธารมณ์
3. นายสวัสิ์ เลขายานนท์
4. นาย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!


ค.ศ. 1895 โดยชาวอเมริกานชื่อนายวิล เลียมจีมอร์แกน (นายวิลเลียมกรัมมอร์แกน) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโฮลโยก (Holyoke) มลรัฐแมสซาซูเซทส์ (แมสซาชูเซต) โดยได้ดัดแปลงมาจากกีฬา 3 ชนิดคือเทนนิสเบสบอลและแฮนด์บอลประยุกต์เข้าด้วยกันอุปกรณ์
ที่ใช้เล่นคือยางในห้างหุ้นส่วนจำกัดของที่คุณลูกบาสเกตบอลใช้ตาข่ายแทนเทนนิสแบ่งเขตแพนให้ส่วนตรงกลางสูงสุดสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว (1.95 ม.) โดยใช้เสาสองต้นในโรงยิม เน เซียนนายวิลเลียมจีมอร์ แกน
3 ประการคือ
1 ได้และสามารถใช้เล่นในฤดูหนาว ได้ 3 มีหัวเรื่อง: การโดยกำหนดกติกาง่ายๆไม่ยุ่งยากมากนักกติกาที่กำหนดมีดังนี้ก) การเริ่มเล่น และละคนมีสิทธิส่งลูก 2 ครั้งติดต่อกัน เกมหนึ่งประกอบไปด้วย 9 อินนิง (โอกาส) ถ้าฝ่ายใดแพ้ 3 ให้อินนิงปรับเป็นฝ่ายแพ้ค) ผู้เล่นแต่ละคนของแต่ละฝ่าย และไม่กำหนดจำนวนผู้เล่นที่แน่นอน จะเล่นข้างละกี่คนก็ได้ เพราะทำให้เกิดความสนุกสนานและนายวิ ลเลียมจีมอร์แกนได้ให้ชื่อเมนี้ว่ามินโตเนต (Mintonette) ต่อมาในปี ค.ศ. 1896 เกมมินโนเนตได้มีวิวัฒนาการ ใหม่เมื่อนายวิลเลียมจี YMCA ที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์มลรัฐแมสซาชูเซ ทส์ คุณอัลศาสตราจารย์คุณเฟรดทีเฮลสตีดได้เสนอแนะให้ที่คุณนายคุณวิลเลียมเปลี่ยนชื่อเรียกจากเนชั่หนังสือนมิเนตโตเป็นวอลเลย์บอลตั้งแต่นั้นมา โดยได้กำหนดกติกาเพิ่มขึ้นเช่นจำนวน ผู้เล่นข้างละ 5 คนแข่งขันเกมละ 21 คะแนนตาข่ายสูง 21 เป็นต้นเมตรปรับแรงในห้างหุ้นส่วนจำกัดปี ค.ศ. 1919 สมาคม YMCA ซีเอ (แห่งชาติสมาคมกีฬาวิทยาลัย) มีชื่อเรียกว่า Sponding Bule ปกวอลเลย์บอล Bule หนังสือ ในปี ค.ศ. 1921 เช่นผู้เล่นใช้จำนวนข้างละ 6 คนขนาดสนามกว้าง 9 เมตรยาว 18 เมตรมีเส้นแบ่งแดนกลางตาข่ายสูง 2.43 เมตรแข่งขันกันเกมละ 25 เป็นต้นคะแนนคะแนนต่อมาในห้างหุ้นส่วนจำกัดปี ค.ศ. 1928 ได้มีการประชุมขึ้น YMCA และได้จัดตั้งสมาคมใหม่เรียกว่า USVBA กติกาการแข่งขันวอลเลยบอลระดับ ชาติประธานสมาคมคนแรกคือดอกเตอร์จอร์จเจ . พิสเซอร์ ตามบ้านและตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ค.ศ. 1947 (FIVB) ตั้งอยู่ที่กรุงปารีสประเทศฝรั่งเศส คุณวิสออกประเทศตเซอร์แลนด์ในห้างหุ้นส่วนจำกัดปีค.ศ. 1949 ปัจจุบันมีประเทศต่างๆเข้าร่วมเป็นสมาชิก 210 ประเทศ 800 ของคุณคนล้านปี ค.ศ. 1949 ประเทศเซโกวโลวะเกีย ค.ศ. 1952 เป็นครั้งที่ 2 รัสเซียออกประเทศปี ค.ศ. 1957 ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อปี ค.ศ. 1910 โดยนายอีเอสบราวน์ (ESBronwn) ผู้นำเข้าไปเป็นเผยแพร่เป็นของคุณคนแรกปี ค.ศ. 1913 นายอีเอสบราวน์ 8 ของคุณคนปี ค.ศ. 1927 ครั้งที่ 8 ออกประเทศญี่ปุ่นที่ด้วยปี ค.ศ. 1951 สามาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศญี่หุ่น ค.ศ. 1954 ในการแข่งขันกีฬาเอเซียนเกมส์ครั้ง ที่ 2 ที่ประเทศอินเดียยังไม่มีการแข่งขันวอลเลย์บอล ครั้งที่ 2 ปี ค.ศ. 1958 ในการแข่งขันเอเซียนเกมส์ครั้งที่ 2 ในช่วงที่มีการแข่งขันเอเชียน เกมส์ กำหนดให้มีผู้เล่นทีมละ 9 ของคุณคนจนกระทั่งในห้างหุ้นส่วนจำกัดปี พ.ศ. 2500 ทั้งในระดับนักเรียนและ ก่อตั้งขึ้นเพื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2500 มีผู้ริเริ่มก่อตั้งคือ1 พล. ท. สุรจิตรจารุเศรณี2 นายกองวิสุทธารมณ์3 นายสวัสิ์เลขายานนท์4 นาย












































การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
ประวัติกีฬาวอลเลย์บอลกีฬาวอลเลย์บอลกำเนิดขึ้นในปีค . ศ . 1895 โดยชาวอเมริกานชื่อนายวิลเลียมจีมอร์แกน ( นายวิลเลียมกรัมมอร์แกน ) ซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองโฮลโยก ( โฮล ) มลรัฐแมสซาซูเซทส์ ( Massachusetts ) โดยได้ดัดแปลงมาจากกีฬา 3 ชนิดความเทนนิสเบสบอลและแฮนด์บอลประยุกต์เข้าด้วยกันอุปกรณ์ที่ใช้เล่นคือยางในของลูกบาสเกตบอลใช้ตาข่ายแทนเทนนิสแบ่งเขตแพนให้ส่วนตรงกลางสูง 6 ฟุต 6 นิ้ว ( 1.95 แอง ) โดยใช้เสาสองต้นในโรงยิมเนเซียนนายวิลเลียมจีมอร์แกนได้ให้ความมุ่งหมายของการเล่นกีฬาชนิดนี้ไว้ 3 ประการความ1 . เพื่อส่งเสริมให้ผู้ใหญ่ได้ออกกำลังกายและใช้เล่นร่วมกันแทนกีฬาบาสเกตบอลซึ่งเป็นกีฬาไม่เหมาะสมกับวัยและอายุ2 เพื่อให้มีกีฬาที่สามารถใช้เล่นในร่มและในโยงยิมเนเซียมเล็กๆได้และสามารถใช้เล่นในฤดูหนาวได้3 . เพื่อให้ผู้มีอายุมากได้มีโอกาสใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และใช้เวลาพักผ่อนนันทนาการไปในตัวพร้อมกันด้วยโดยมีการกำหนดกติกาง่ายๆไม่ยุ่งยากมากนักกติกาที่กำหนดมีดังนี้. ) การเริ่มเล่นให้ผู้ที่ได้ส่งลูกของข้างใดข้างหนึ่งเป็นผู้ส่งลูกและละคนมีสิทธิส่งลูก 2 ครั้งติดต่อกันไม่ว่าฝ่ายส่งจะเสียหรือฝ่ายตรงข้ามจะเสียก็ตามข ) เกมหนึ่งประกอบไปด้วย 9 อินนิง ( ทำแต้ม ) ถ้าฝ่ายใดแพ้ 3 อินนิงให้ปรับเป็นฝ่ายแพ้ค ) ผู้เล่นแต่ละคนของแต่ละฝ่ายพยายามตีลูกบอลโต้ให้ลอยข้ามตาข่ายไปมาและไม่กำหนดจำนวนผู้เล่นที่แน่นอนจะเล่นข้างละกี่คนก็ได้แต่ให้จำนวนเท่ากันเกมการเล่นนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนมากมายเพราะทำให้เกิดความสนุกสนานและนายวิลเลียมจีมอร์แกนได้ให้ชื่อเมนี้ว่ามินโตเนต ( มินโทเนตต์ )ต่อมาในปีค . ศ . 1896 เกมมินโนเนตได้มีวิวัฒนาการใหม่เมื่อนายวิลเลียมจีมอร์แกนแสดงวิธีการเล่นต่อที่ประชุมสัมนาผู้อำนวยการพลศึกษาของสมาคมวายเอ็มซีเอที่วิทยาลัยสปริงฟิลด์มลรัฐแมสซาชูเซทส์และได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากผู้เข้าร่วมประชุมใหญ่ศาสตราจารย์อัลเฟรดทีเฮลสตีดได้เสนอแนะให้นายวิลเลียมเปลี่ยนชื่อเรียกจากมินโตเนตเป็นวอลเลย์บอลตั ้งแต่นั้นมาและได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งเพื่อร่างระเบียบและก
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2025 I Love Translation. All reserved.

E-mail: