The first is that open frameworks m

The first is that open frameworks may be more suited to investigate the co-evolutionary dynamics

of transitions than precise models. Defending his work on broad approaches to corporate strategy,

Porter (1991) made a similar point, when he distinguished two approaches to theory building. The first

approach refers to “rigorous (often mathematical) models of limited complexity, which (...) isolates

a few key variables whose interactions are examined in depth” (Porter, 1991:97). While such rigorous

models are possible for demarcated topics, they may be less useful for broader, multi-dimensional

topics. For those topics, the second approach, heuristic perspectives, appear more relevant. These

“frameworks identify the relevant variables and the questions which the user must answer to order to

develop conclusions tailored to a particular industry and company. (...) In addition, all the interactions

among the variables in the frameworks cannot be rigorously drawn. The frameworks, however, seek

to help the analyst to better think through the problem” (Porter, 1991:98).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นครั้งแรกที่เปิดกรอบอาจจะเหมาะสมมากขึ้นเพื่อตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงวิวัฒนาการ coของช่วงการเปลี่ยนภาพมากกว่าแบบจำลองที่แม่นยำ ปกป้องงานของเขาในแนวกว้างกับกลยุทธ์ขององค์กรกระเป๋า (1991) ได้จุดคล้าย เมื่อเขาโดดเด่นสองวิธีในการสร้างทฤษฎี ครั้งแรกวิธีการอ้างอิงถึง "อย่างเข้มงวด (คณิตศาสตร์มัก) แบบจำกัดความซับซ้อน ที่ (...) แยกกี่คีย์ตัวแปรโต้ตอบซึ่งจะตรวจสอบในเชิงลึก" (กระเป๋า 1991:97) ขณะดังกล่าวอย่างเข้มงวดรูปแบบเป็นไปได้สำหรับหัวข้อที่แบ่ง พวกเขาอาจมีประโยชน์น้อยสำหรับกว้าง 547หัวข้อนี้ วิธีที่สอง มุมมองแล้ว ปรากฏไม่มากสำหรับหัวข้อเหล่านั้น เหล่านี้"กรอบระบุตัวแปรเกี่ยวข้องและคำถามที่ต้องตอบผู้สั่งการพัฒนาบทสรุปเพื่ออุตสาหกรรมและบริษัท (...) นอกจากนี้ การโต้ตอบตัวแปรในกรอบไม่สามารถทดสอบออก กรอบ แสวงหาอย่างไรก็ตามเพื่อช่วยนักวิเคราะห์ให้ดี คิดปัญหา" (กระเป๋า 1991:98)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แรกคือกรอบการเปิดอาจจะเหมาะสมกับการตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงร่วมวิวัฒนาการของการเปลี่ยนที่แม่นยำกว่ารุ่น ปกป้องการทำงานของเขาในวิธีการในวงกว้างกับกลยุทธ์ขององค์กรพอร์เตอร์ (1991) ทำให้เป็นจุดที่คล้ายกันเมื่อเขาประสบความสำเร็จสองวิธีในการสร้างทฤษฎี ครั้งแรกหมายถึงวิธีการ "ที่เข้มงวด (มักคณิตศาสตร์) รูปแบบของความซับซ้อน จำกัด ซึ่ง (... ) แยกตัวแปรสำคัญไม่กี่ที่มีปฏิสัมพันธ์มีการตรวจสอบในเชิงลึก "(พอร์เตอร์, 1991: 97) ในขณะที่เข้มงวดเช่นรูปแบบที่เป็นไปได้สำหรับหัวข้อเขตแดนที่พวกเขาอาจจะมีประโยชน์น้อยที่กว้างขึ้นหลายมิติหัวข้อ สำหรับหัวข้อเหล่านั้นวิธีที่สองมุมมองแก้ปัญหาปรากฏที่เกี่ยวข้องมากขึ้น เหล่านี้"กรอบระบุตัวแปรที่เกี่ยวข้องและคำถามที่ผู้ใช้จะต้องตอบในการสั่งซื้อเพื่อพัฒนาข้อสรุปที่เหมาะกับอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ บริษัท (... ) นอกจากนี้ยังมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรในกรอบไม่สามารถดึงออกมาอย่างจริงจัง กรอบ แต่แสวงหาที่จะช่วยให้นักวิเคราะห์ที่ดีกว่าคิดว่าผ่านปัญหา "(พอร์เตอร์, 1991: 98)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แรกคือ เปิดกรอบอาจจะเหมาะที่จะศึกษา Co วิวัฒนาการพลวัต

เปลี่ยนมากกว่ารุ่นที่แม่นยำ ปกป้องการทำงานของเขาในแนวกว้างเพื่อกลยุทธ์องค์กร ,

พอร์เตอร์ ( 1991 ) ทำให้จุดที่คล้ายกัน เมื่อเขาแยกแยะสองแนวทางทฤษฎีอาคาร ครั้งแรก

วิธีการหมายถึง " เคร่งครัดมัก ( คณิตศาสตร์ ) รูปแบบของความซับซ้อนจำกัด ซึ่ง ( . . . . . . .) สายพันธุ์

ไม่กี่ตัวแปรสำคัญที่มีปฏิสัมพันธ์มีการตรวจสอบในเชิงลึก " ( พอร์เตอร์ 1991:97 ) ในขณะที่เคร่งครัดเช่น

รุ่นนี้เป็นไปได้สำหรับ demarcated หัวข้อ พวกเขาอาจจะมีประโยชน์น้อยลงสำหรับถูก หลายมิติ

หัวข้อ สำหรับหัวข้อเหล่านั้น แนวทางที่สอง ) , มุมมอง , ปรากฏที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม เหล่านี้

" กรอบระบุตัวแปรที่เกี่ยวข้องและคำถามที่ผู้ใช้จะต้องตอบคำถามเพื่อพัฒนาข้อสรุป

เหมาะกับ บริษัท โดยเฉพาะอุตสาหกรรมและ ( . . . ) นอกจากนี้ทุกปฏิสัมพันธ์

ระหว่างตัวแปรในกรอบไม่สามารถอย่างจริงจังวาด กรอบ , อย่างไรก็ตาม , แสวงหา

ช่วยวิเคราะห์ดีกว่า คิดว่าผ่านปัญหา " ( พอร์เตอร์ 1991:98 )