Glen Campbell is a Grammy-winning c

Glen Campbell is a Grammy-winning country music icon, but his wife Kim Campbell says one of the most important things the legend has done in his life is to "help remove the stigma of Alzheimer's disease."
Glen was diagnosed with the disease in 2011, went public and embarked on a farewell tour with his family, including his wife and their three children -- Cal, Shannon and Ashley -- which ended in 2012. Kim said the experience touring with their father only brought the immediate family closer together and really shed light on the disease.
"I'm so proud of the kids and the time we had on the road during the goodbye tour," she told ABC News. "It was such a gift to us to be able to celebrate his life. They learned so much from him ... not only as a musician, but as a human being."
The tour was featured in the documentary "Glen Campbell…I’ll Be Me" and Kim said her daughter Ashley "actually wrote a song for her dad in the documentary called 'Remembering.' I'm hoping in the summer, it will be played on the radio, so we are excited about that. The documentary is uplifting and positive."
That's the message Kim wants to spread.
"A lot of people are afraid if it's Alzheimer's in the subject, it's going to be very depressing," she said. "It's something people have kept under the covers and felt like they needed to be discrete about, but it's a disease that affects 5.4 million people in the United States and almost every single family is touched with it, and it's nothing to be embarrassed about. People rally around you and want to give you all the support that's possible."
For that reason, she has continued her husband's work of raising awareness for the disease, while he cannot.
Kim spoke to ABC News in conjunction with "Celebrating Hope," an event taking place tonight, sponsored by the Alzheimer's Association Connecticut Chapter, at Richards of Greenwich. Kim will share her story and inspire others at the event, which starts at 6:30 p.m.
The Campbell family just celebrated Glen's 79th birthday on April 22, and Kim said "it was a really good day."
"The kids and I went [to see him]," she said. "He was a little sleepy at first, but we brought him burgers and fries, his favorite food. Once he got up and moving around, he was just having a great day."
Campbell is unable to communicate more than just a few, short sentences, but that doesn't stop him from cracking jokes.
"He was communicating better than I've seen him in a long time that day," she said. "We were sitting there eating ice cream cake and he told the punch line to one of his jokes. Then, I told the set up for it. He just laughed and laughed and laughed."
She continued, "He's still got his same twinkle in his eye ... he just has trouble communicating now and of course his memory. We had a great day filled with laughter, love and hugs ... you have to make the most out of each moment you have with him."
With Campbell now in a long-term care facility since March of last year, the support community has helped Kim exponentially, as well as her husband.
"It's really sad to be losing the one you love day by day, drip by drip, there's nothing you can do about it though. I go to bed depressed, I wake up depressed, but you have to tell yourself 'I have so much to be thankful for.' ... I'm visiting Glen everyday in the memory support community, I know all the other patients and their families, we are a community and I try to be a blessing to them everyday too."
She continued, "I have been blessed with such a great family ... when the doctors advised me Glen would really benefit from being in a support community for people with cognitive issues, I tried it out and it made a big difference for his happiness and his well-being. We can't do anything about the disease, but we can try and make life as good as possible. It's helped me too with mydepression, because now my support team is even bigger. That's given me the piece of mind to be able to go out and speak about it."

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เกล็น Campbell จะมีไอคอนเพลงลูกทุ่งแกรมมี่ชนะ แต่ภรรยาของเขา Kim Campbell กล่าวว่า หนึ่งในตำนานได้ทำสิ่งสำคัญในชีวิตของเขาจะ "ได้เอาภาพดอกไม้ของโรคอัลไซเมอร์"เกล็นวินิจฉัยกับโรคใน 2011 ไปสาธารณะ และการเริ่มต้นทัวร์อำลากับครอบครัวของเขา รวมทั้งภรรยาและลูกสาม - Cal แชนนอน และแอชลีย์ - ซึ่งสิ้นสุดใน 2012 คิมกล่าวว่า ประสบการณ์ท่องเที่ยวกับพ่อเท่านั้น มาในครอบครัวที่ใกล้ชิดกัน และหลั่งน้ำตาแสงในโรคจริง ๆ"ฉันภูมิใจมากของเด็กและเวลาที่เรามีบนถนนระหว่างทัวร์ลา เธอบอกข่าว ABC "มันเป็นของขวัญดังกล่าวเราสามารถเฉลิมฉลองชีวิต พวกเขาได้เรียนรู้มากจากเขา...ไม่เพียงแต่ เป็นนักดนตรีเป็น แต่เป็นมนุษย์"ทัวร์ถูกที่โดดเด่นในสารคดี "เกล็น Campbell... ฉันจะเป็นฉัน" และคิมกล่าวว่า ลูกสาวแอชลีย์"จริงเขียนเพลงเพื่อพ่อของเธอในสารคดีที่เรียกว่า 'Remembering' ข้าพเจ้าหวังว่าในฤดูร้อน มันจะถูกเล่นทางวิทยุ ดังนั้นเราจึงรู้สึกตื่นเต้นที่ สารคดีเป็นบวก และเลขานุการ"นั่นคือข้อความที่คิมต้องการแพร่กระจาย"หลายคนจะกลัวถ้าเป็นของเสื่อมในเรื่อง มันเป็นไปได้มาก depressing เธอกล่าว "เป็นคนเก็บไว้ภายใต้หน้ากากที่ และรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องแยกกันเกี่ยวกับ แต่มันเป็นโรคที่มีผลต่อ 5.4 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาเกือบทุกครอบครัวเดียวจะสัมผัสกับมัน และมันเป็นอะไรที่อายเกี่ยวกับ คนชุมนุมรอบ ๆ ตัวคุณ และต้องการให้การสนับสนุนทั้งหมดที่เป็นไปได้"เหตุผล เธอได้อย่างต่อเนื่องตระหนักโรค ในขณะที่ไม่ทำงานสามีคิมพูดข่าวเอบีซีร่วมกับ "ฉลองหวัง เหตุการณ์การคืนนี้ สนับสนุน โดยของเสื่อมสัมพันธ์คอนเนตทิคัตบท ที่ริชาร์ดกรีนิช คิมจะแบ่งปันเรื่องราว และแรงบันดาลใจให้คนอื่น ๆ ในเหตุการณ์ ซึ่งเริ่มต้นที่ 6:30 น.ครอบครัว Campbell เพียงเฉลิมฉลองวันเกิดงานของเกล็นบน 22 เมษายน และคิมกล่าวว่า "มันเป็นวันดีจริงๆ""เด็กและไป [ดูเขา]," เธอกล่าว "เขาเป็นง่วงนอนเล็กน้อยในตอนแรก แต่เรานำเขาเบอร์เกอร์และฟรายส์ อาหารโปรดของเขา เมื่อเขามีค่า และย้ายสถาน เขาเพิ่งมีวันดี "Campbell ไม่สามารถสื่อสารมากกว่า กี่ สั้น ๆ ประโยค แต่ที่ไม่หยุดเขาจากเรื่องตลก cracking"เขาถูกสื่อสารดีกว่าผมเคยเห็นเขาในวันนั้นเป็นเวลานาน เธอกล่าว "เรานั่งมีกินเค้กไอศครีม และเขาบอกรายการเจาะเรื่องตลกของเขาอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้ว ฉันบอกการตั้งค่ามัน เขาเพียงแค่หัวเราะ และหัวเราะ และหัวเราะ"เธอยังคง, "เขายังมีเขา twinkle เดียวในตาของเขา...เขาเพียงมีปัญหาในการสื่อสารในปัจจุบัน และแน่นอนว่าหน่วยความจำของเขา เรามีวันดีเต็มไป ด้วยเสียงหัวเราะ รัก และ hugs...คุณต้องออกทุกขณะที่คุณมีกับเขา"กับ Campbell ในการอำนวยความสะดวกดูแลระยะยาวตั้งแต่เดือนมีนาคมของปี ชุมชนสนับสนุนได้ช่วยคิมสร้าง และสามีของเธอ"ก็เศร้าจริง ๆ การจะสูญเสียคนที่คุณรักวัน หยดน้ำหยดน้ำ ไม่มีอะไรที่คุณสามารถทำได้แต่ ผมไปนอนซึมเศร้า ฉันตื่นขึ้นหดหู่ แต่คุณต้องแจ้งด้วยตนเอง 'มีมากต้องขอบคุณสำหรับการ' ... ผมกำลังชมเกล็นชีวิตประจำวันในชุมชนสนับสนุนหน่วยความจำ ฉันรู้ทั้งหมดอื่น ๆ ผู้ป่วยและครอบครัว เราเป็นชุมชน และพยายามจะเป็นพระพรเหล่านั้นทุกวันเกินไป"เธอยังคง "ฉันได้รับพร ด้วยเช่นดีครอบครัว...เมื่อแพทย์แนะนำให้ฉันเกล็นจะได้ประโยชน์จริง ๆ จากในชุมชนสนับสนุนสำหรับคนที่มีปัญหาการรับรู้ ฉันพยายามมันออก และมันทำให้เกิดความแตกต่างสำหรับความสุขของเขาและเขากำลัง เราไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับโรค แต่เราสามารถลอง และทำให้ชีวิตได้ดีที่สุด มันได้ช่วยให้ฉันเกินไปกับ mydepression เนื่องจากขณะนี้ ทีมงานของฉันสนับสนุนแม้แต่ใหญ่ ที่มีให้ฉันชิ้นส่วนของจิตใจเพื่อให้สามารถออกไป และพูดเกี่ยวกับมัน"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เกลนแคมป์เบลเป็นประเทศที่คว้ารางวัลแกรมไอคอนเพลง แต่ภรรยาของคิมแคมป์เบลของเขากล่าวว่าหนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดตำนานได้ทำในชีวิตของเขาคือการ "ช่วยขจัดความอัปยศของการเกิดโรคอัลไซเม."
เกลนได้รับการวินิจฉัยโรคในปี 2011 , ไปในที่สาธารณะและทัวร์อำลากับครอบครัวของเขารวมทั้งภรรยาของเขาและลูกทั้งสามของพวกเขา - แคลแชนนอนและแอชลีย์ - ซึ่งจบลงในปี 2012 คิมกล่าวว่าประสบการณ์การเดินทางกับพ่อของพวกเขาเพียงนำครอบครัวใกล้ชิดกันและ จริงๆหลั่งน้ำตาแสงในโรค.
"ผมภูมิใจในตัวเด็กและเวลาที่เรามีอยู่บนท้องถนนในระหว่างการทัวร์ลา" เธอบอกข่าวเอบีซี "มันเป็นของขวัญให้กับเราที่จะสามารถที่จะเฉลิมฉลองชีวิตของเขา. พวกเขาได้เรียนรู้มากจากเขา ... ไม่เพียง แต่เป็นนักดนตรี แต่เป็นมนุษย์."
ทัวร์เป็นจุดเด่นในสารคดี "เกลนแคมป์เบล ... ฉัน จะให้ฉัน "และคิมกล่าวว่าลูกสาวของเธอแอชลีย์" จริงเขียนเพลงสำหรับพ่อของเธอในสารคดีที่เรียกว่า 'ความทรงจำ. ฉันหวังว่าในช่วงฤดูร้อนก็จะเล่นในรายการวิทยุเพื่อให้เรามีความตื่นเต้นเกี่ยวกับที่. สารคดีคือสูงและบวก. "
นั่นคือข้อความคิมต้องการที่จะกระจาย.
"หลายคนจะกลัวถ้ามันอยู่ในอัลไซเม เรื่องที่มันเป็นไปได้ที่ตกต่ำมาก "เธอกล่าว "มันเป็นสิ่งที่คนมีเก็บไว้ภายใต้ครอบคลุมและรู้สึกเหมือนพวกเขาจำเป็นที่จะไม่ต่อเนื่องเกี่ยวกับ แต่มันเป็นโรคที่มีผลต่อ 5.4 ล้านคนในสหรัฐอเมริกาและเกือบทุกครอบครัวเดี่ยวสัมผัสกับมันและมันก็ไม่มีอะไรที่จะต้องอายเกี่ยวกับ คนชุมนุมรอบ ๆ ตัวคุณและต้องการที่จะให้คุณทุกการสนับสนุนที่เป็นไปได้. "
สำหรับเหตุผลที่เธอยังคงทำงานของสามีของเธอในการสร้างความตระหนักในการเกิดโรคในขณะที่เขาไม่สามารถ.
คิมพูดกับข่าวเอบีซีร่วมกับ "ฉลองความหวัง" เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ได้รับการสนับสนุนโดยสมาคมอัลไซเมคอนเนตทิคับทที่ริชาร์ดกรีนนิช คิมจะแบ่งปันเรื่องราวของเธอและแรงบันดาลใจคนอื่น ๆ ที่มาร่วมงานซึ่งเริ่มต้นที่ 06:30
ในครอบครัวแคมป์เบลเพียงแค่ฉลองวันเกิด 79 ของเกลนในวันที่ 22 เมษายนและคิมกล่าวว่า "มันเป็นวันที่ดีจริงๆ."
"เด็กและฉันไป [ ที่จะเห็นเขา] "เธอกล่าว "เขาเป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ง่วงนอนในตอนแรก แต่เรานำเขาเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอดอาหารที่ชื่นชอบของเขา. เมื่อเขาลุกขึ้นและเดินไปรอบ ๆ เขาก็แค่มีวันที่ดี."
แคมป์เบลไม่สามารถสื่อสารมากกว่าเพียงแค่ไม่กี่สั้น ประโยค แต่ไม่ได้หยุดเขาจากการแตกเรื่องตลก.
"เขาได้รับการสื่อสารที่ดีกว่าผมเคยเห็นเขาในระยะเวลานานในวันนั้น" เธอกล่าว "เรากำลังนั่งอยู่ที่นั่นกินเค้กไอศครีมและเขาบอกสายหมัดหนึ่งของเรื่องตลกของเขา. แล้วผมบอกตั้งขึ้นสำหรับมัน. เขาก็หัวเราะและหัวเราะและหัวเราะ."
เธอยังคง "เขายังคงมีกระพริบตาของเขาเหมือนกัน ในสายตาของเขา ... เขาก็มีปัญหาในการสื่อสารในขณะนี้และแน่นอนความทรงจำ. เรามีวันที่ดีที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะความรักและกอด ... คุณจะต้องทำมากที่สุดของแต่ละช่วงเวลาที่คุณมีกับเขา. "
ด้วย แคมป์เบลในขณะนี้สิ่งอำนวยความสะดวกการดูแลระยะยาวตั้งแต่เดือนมีนาคมปีที่ผ่านมาชุมชนการสนับสนุนได้ช่วยคิมชี้แจงเช่นเดียวกับสามีของเธอ.
"มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากที่จะสูญเสียคนที่คุณรักทุกวันหยดโดยหยดมีอะไร คุณสามารถทำอะไรกับมันแม้ว่า. ฉันไปนอนมีความสุขผมตื่นขึ้นมาหดหู่ แต่คุณต้องบอกตัวเอง 'ฉันมีมากที่จะขอบคุณสำหรับ. ... ฉันจะไปเยือนเกลนในชีวิตประจำวันในชุมชนสนับสนุนหน่วยความจำที่ฉันรู้ทุกผู้ป่วยอื่น ๆ และครอบครัวของพวกเราเป็นชุมชนและฉันพยายามที่จะเป็นพระพรให้กับพวกเขาในชีวิตประจำวันมากเกินไป. "
เธอกล่าวต่อว่า "ฉันได้รับความสุข ด้วยเช่นครอบครัวที่ดี ... เมื่อแพทย์แนะนำให้ผมเกลนจริงๆจะได้รับประโยชน์จากการอยู่ในชุมชนการสนับสนุนสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับความรู้ความเข้าใจที่ผมพยายามที่มันออกมาและมันจะทำให้ความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่สำหรับความสุขของเขาและความเป็นอยู่ของเขา. เราสามารถ 'ทีทำอะไรเกี่ยวกับโรค แต่เราสามารถพยายามและทำให้ชีวิตดีเท่าที่เป็นไปได้. มันช่วยให้ฉันเกินไปกับ mydepression เพราะตอนนี้ทีมสนับสนุนของฉันคือที่ยิ่งใหญ่. ที่ให้ฉันชิ้นส่วนของจิตใจที่จะสามารถที่จะออกไปและ พูดเกี่ยวกับมัน. "

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เกลนแคมป์เบลล์เป็นแกรมมี่ชนะไอคอนดนตรี แต่ภรรยาของเขาคิมแคมป์เบลล์กล่าวว่า หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ตำนานได้กระทำในชีวิตของเขา คือ " ช่วยลบมลทินของโรค . "
เกลนได้รับการวินิจฉัยกับโรคใน 2011 , ไปสาธารณะและเริ่มทัวร์อำลากับครอบครัวของเขา รวมถึงภรรยาและลูกสาม . . . แคลแชนน่อน และ แอชลีย์ ซึ่งสิ้นสุดลงในปี 2012 คิม บอกว่า ประสบการณ์การท่องเที่ยวกับบิดาเพียงนำครอบครัวใกล้ชิดกัน และก็หลั่งแสงในโรค .
" ฉันภูมิใจในตัวลูก และเวลาที่เราได้บนท้องถนนในระหว่างลาทัวร์ " เธอบอก " ข่าวเอบีซี มันเป็นเช่นของขวัญที่เราสามารถที่จะเฉลิมฉลองชีวิตของเขา พวกเขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเขา . . . . . . .ไม่เพียง แต่เป็นนักดนตรี แต่เป็นมนุษย์ . "
ทัวร์แนะนำในสารคดี " เกล็นแคมป์เบล . . . ฉันจะเป็นฉัน " คิมกล่าวว่าแอชลีย์ " ลูกสาวของเธอเขียนเพลงสำหรับพ่อ ในเอกสารที่เรียกว่า ' จำ ' ฉันหวังว่าในฤดูร้อน ก็จะถูกเล่นบน วิทยุ ดังนั้นเราจะตื่นเต้นเกี่ยวกับว่า สารคดีนี้สูง และบวก "
ข้อความบอกว่าคิมต้องการกระจาย
." หลายคนจะกลัวสมองเสื่อมเพราะในเรื่องมันกำลังจะตกต่ำมาก " เธอกล่าว มันเป็นสิ่งที่มีคนเก็บไว้ภายใต้ครอบคลุมและรู้สึกเหมือนต้องการจะแบ่งแยกเรื่อง แต่เป็นโรคที่มีผลต่อ 5.4 ล้านคนในสหรัฐอเมริกา และเกือบทุกครอบครัวจะได้สัมผัสกับมัน และมันก็ไม่มีอะไรที่ต้องอายคนชุมนุมรอบ ๆตัวคุณและอยากให้คุณการสนับสนุนทั้งหมดที่เป็นไปได้ . "
เหตุผลที่เธอมีต่อสามีของเธอทำงานของการสร้างความตระหนักของโรค ในขณะที่เขาไม่สามารถ .
คิมพูดกับ ABC News ร่วมกับ " ฉลองหวัง " เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคืนนี้ ซึ่งสนับสนุนโดย สมาคม Connecticut ริชาร์ดของบท ที่กรีนวิชคิมจะแบ่งปันเรื่องราวของเธอ และเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นในเหตุการณ์ , ซึ่งเริ่มเวลา 18.30 น.
ครอบครัว แคมป์เบลล์ เพิ่งจะฉลองวันเกิด Glen ) เมื่อวันที่ 22 เมษายน และ คิม กล่าวว่า " มันเป็นวันที่ดีจริงๆ "
" เด็กและฉันก็เห็นเขา [ ] , " เธอกล่าว เขาง่วงนอนเล็กน้อยในตอนแรก แต่เราพาเขาเบอร์เกอร์และมันฝรั่งทอด อาหารโปรดของเขา เมื่อเขาลุกขึ้นและย้ายไปรอบ ๆ เขาก็มีวันที่ดี"
แคมป์เบลเป็นไม่สามารถที่จะสื่อสารมากกว่าเพียงแค่ไม่กี่ประโยคสั้นๆ แต่นั่นไม่ได้หยุดเขาจากเรื่องตลก .
" เขามีการสื่อสารที่ดีกว่า ผมเคยเห็นในเวลานาน วันนั้น " เธอกล่าว เรากำลังนั่งกินเค้ก ไอศกรีม และเขาบอกหมัดสายหนึ่งของเรื่องตลกของเขา งั้นผมบอกไว้ให้เลย เขาหัวเราะและหัวเราะ "
เธอต่อไป" เขายังคงมีประกายเดียวกันของเขาในสายตาของเขา . . . . . . . เขากำลังมีปัญหาการติดต่อสื่อสารในขณะนี้และแน่นอนความจำของเขา เราสนุกมาก เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ความรัก และ กอด . . . . . . . คุณต้องให้มากที่สุดของแต่ละช่วงเวลาที่คุณมีกับเขา "
กับแคมป์เบลล์ในขณะนี้สถานดูแลระยะยาวตั้งแต่มีนาคมปีที่แล้ว สนับสนุนชุมชนได้ช่วยคิมชี้แจงเช่นเดียวกับสามีของเธอ
" มันเศร้าที่จะต้องสูญเสียคนที่คุณรัก วัน โดยหยด , หยด , ไม่มีอะไรที่เธอทำได้หรอก ฉันไปที่เตียงหดหู่ ฉันตื่นมาเศร้า , แต่คุณต้องบอกตัวเองว่า ' ฉันมีมากที่จะขอบคุณสำหรับ . . . . . . . ฉันไปที่หุบเขาทุกวันในหน่วยความจำสนับสนุนชุมชน ฉันรู้ทั้งหมดอื่น ๆ ผู้ป่วยและครอบครัวเราเป็นชุมชนและฉันพยายามที่จะเป็นพระพรให้กับพวกเขาทุกวันเหมือนกัน "
เธอพูดต่อ " ฉันได้รับความสุข ด้วยเช่นครอบครัวที่ดี . . . . . . . เมื่อแพทย์แนะนำให้ฉันเกล็นจริงๆจะได้รับประโยชน์จากการในชุมชน สนับสนุนให้ผู้ที่มีปัญหาทางด้านสติปัญญา ฉันพยายามมันและมันทำให้ความแตกต่างใหญ่เพื่อความสุขของเขาและความเป็นอยู่ของเขา เราไม่สามารถทำอะไรเกี่ยวกับโรคแต่เราสามารถลองและทำให้ชีวิตดีเท่าที่จะเป็นไปได้ มันช่วยให้ฉันด้วย mydepression เพราะตอนนี้ทีมสนับสนุนของฉันใหญ่ ที่ให้ฉันชิ้นส่วนของจิตใจที่สามารถออกไปและพูดกับมัน "
.