Shell Puget Sound Refinery, Anacort

Shell Puget Sound Refinery, Anacortes, Washington, was fined $291,000 from 2006 to 2010 for violations of the Clean Air Act making it the second most-fined violator in thePacific Northwest. As of 2011, it was listed as "high priority violator" since 2008.[9][10]
In 2008, a lawsuit was filed against Shell Oil Company for alleged Clean Air Act violation. Shell Deer Park facility, 20 miles east of Houston, was the nation's eighth-largest oil refinery and one of the world's largest petrochemical producers. The facility was also the second largest source of air pollution in Harris County, which ranked among the lowest in the nation in several measures of air quality.[News 1] According to Sierra Club and Environment Texas, analysis of Shell's reports to the Texas Commission on Environmental Quality, air pollutants released at Deer Park since 2003 exceeded the EPA's emissions limits.[11]
Will Oremus from Slate magazine states, "The company's business depends on being able to anticipate and respond quickly to seismic shifts in the energy market. So it employs a team of big-thinking futurists, called scenario planners, to keep it a step ahead. In 2008 the company released a fresh pair of scenarios for how the world might respond to climate change over the coming decades. Both were predicated on what the company called 'three hard truths': that global energy demand is rising, that the supply of conventional energy will not be able to keep up, and that climate change is both real and dangerous." [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรงกลั่นแห่ง Puget Sound เชลล์ อนาคอร์เทส วอชิงตัน ถูกปรับ $291,000 จาก 2006 2010 สำหรับการละเมิดกฎหมายอากาศสะอาดทำ violator ปรับส่วนใหญ่สองใน thePacific ตะวันตกเฉียงเหนือ ปี 2011 จะถูกแสดงเป็น "ลำดับความสำคัญสูง violator" ตั้งแต่ 2008 [9] [10]ใน 2008 คดีถูกเก็บกับ บริษัทน้ำมัน Shell สำหรับละเมิดกฎหมายอากาศสะอาดถูกกล่าวหา โรงงานเดียร์พาร์คเชลล์ 20 ไมล์ทางตะวันออกของฮูสตัน เป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่เป็นอันดับแปดของประเทศและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลก สถานที่เป็นแหล่งใหญ่ของมลพิษทางอากาศในเขตแฮร์ริส ซึ่งอันดับต่ำที่สุดในประเทศในหลายวัดของคุณภาพอากาศ ด้วย [ข่าว 1] ตามคลับเซียร์และเท็กซัสแวดล้อม การวิเคราะห์รายงานของเชลล์ที่เท็กซัสคณะคุณภาพสิ่งแวดล้อม มลพิษทางอากาศที่นำออกใช้ที่สวนกวางตั้งแต่ 2003 เกินขีดจำกัดการปล่อยของ EPA [11]จะ Oremus จากอเมริกานิตยสารนวล "การทำธุรกิจขึ้นอยู่กับความสามารถในการคาดการณ์ และตอบสนองได้อย่างรวดเร็วกะแผ่นดินไหวในตลาดพลังงาน เพื่อให้มีทีมใหญ่คิด futurists เรียกสถานการณ์วางแผน ให้ก้าวไปข้างหน้า ในปี 2008 บริษัทออกคู่สดสถานการณ์สำหรับวิธีโลกอาจตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหลายทศวรรษต่อมา ทั้งสองถูก predicated ในสิ่งบริษัทที่เรียกว่า 'ความจริงยากที่สาม': ที่ต้องการพลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น ที่อุปทานของพลังงานแบบดั้งเดิมจะไม่สามารถรักษา และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศมีทั้งจริง และอันตราย " [12]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชลล์ Puget Sound โรงกลั่นนาควอชิงตันถูกปรับ 291,000 $ 2,006-2,010 สำหรับการละเมิดของพระราชบัญญัติอากาศบริสุทธิ์ทำให้มันเป็นที่สองฝ่าฝืนปรับมากที่สุดในภาคตะวันตกเฉียงเหนือสมรภูมิวีรบุรุษ ในฐานะที่เป็นของปี 2011 ก็ถูกระบุว่าเป็น "ผู้ฝ่าฝืนมีความสำคัญสูง" ตั้งแต่ปี 2008 [9] [10]
ในปี 2008 คดีถูกฟ้อง บริษัท น้ำมันเชลล์ถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระราชบัญญัติอากาศสะอาด เชลล์สวนกวางสิ่งอำนวยความสะดวก 20 ไมล์ทางตะวันออกของฮุสตันเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่แปดใหญ่ที่สุดของประเทศและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปิโตรเคมีที่ใหญ่ที่สุดในโลก สิ่งอำนวยความสะดวกยังเป็นแหล่งที่ใหญ่เป็นอันดับสองของมลพิษทางอากาศในแฮร์ริสเคาน์ตี้ซึ่งอยู่ในอันดับต่ำที่สุดในหมู่ประเทศในหลายมาตรการคุณภาพอากาศ. [ข่าว 1] ตามที่เซียร่าคลับและสิ่งแวดล้อมเท็กซัส, การวิเคราะห์รายงานของเชลล์ที่คณะกรรมาธิการเท็กซัส ที่มีต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมมลพิษทางอากาศที่ปล่อยออกมาสวนกวางตั้งแต่ปี 2003 เกินของ EPA ข้อ จำกัด การปล่อยก๊าซ. [11]
จะ Oremus จากชนวนรัฐนิตยสาร "ธุรกิจของ บริษัท ขึ้นอยู่กับความสามารถในการคาดการณ์และตอบสนองได้อย่างรวดเร็วเพื่อกะแผ่นดินไหวในตลาดพลังงาน. ดังนั้น พนักงานทีมงานของลัทธิใหญ่คิดที่เรียกว่าวางแผนสถานการณ์เพื่อให้มันก้าวไปข้างหน้า. ในปี 2008 บริษัท ปล่อยสดทุกคู่สถานการณ์ว่าโลกอาจจะตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา. ทั้งสองถูกบอกกล่าวกับสิ่งที่ บริษัท ที่เรียกว่า 'สามจริงยาก': ว่ามีความต้องการพลังงานทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นที่อุปทานของพลังงานแบบดั้งเดิมจะไม่สามารถที่จะให้ขึ้นและว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีทั้งจริงและอันตราย ". [12]