The balance of power is one of the

The balance of power is one of the oldest and most fundamental concepts in international relations theory. Although there are many variations of balance of power theory and interpretations of the concept, all are premised on the minimum of a tendency and the maximum of a lawlike recurrent equilibrium model. According to this model, imbalances and concentrations in military and material capabilities among the great powers are checked, and the equilibrium is restored in order to ensure the survival of the major powers in the international system. The great powers have several mechanisms to restore the balance, including internal military buildup where economic wealth is converted into military power, the formation of counterbalancing alliances, passing the buck of balancing to another state, partition and compensation in postwar peace settlements, and emulation. In contrast, many scholars find that secondary and tertiary states are more likely to bandwagon or join with the more powerful state or coalition of states rather than balance against it. Based on structural realism as advanced by Kenneth Waltz in Theory of International Politics (New York: Random House, 1979), the self-help anarchic system and shifts in the relative distribution of capabilities mean that balances of power recurrently form in the international system. How states balance will depend on the distribution of capabilities among the greater powers. In bipolar distributions of power (two great powers) states will balance through internal military buildup. In multipolar distributions of power (three or more) states will balance through the formation of counterbalancing alliances. Finally, according to John Mearsheimer, in balanced multipolar distributions of power (three or more equally powerful states), great powers are likely to pass the buck of balancing or “buck pass” to a “buck catcher” the responsibility of balancing. In the current unipolar distribution of power, a number of scholars contend that states are engaging in soft balancing and leash slipping rather than traditional hard balancing. Others contend that no balancing is occurring and the imbalanced or unipolar distribution is both durable and stable.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมดุลของพลังงานเป็นแนวคิดที่เก่าแก่ที่สุด และพื้นฐานที่สุดในทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างใดอย่างหนึ่ง แม้ว่าจะมีหลายรูปแบบของทฤษฎีความสมดุลของพลังงานและการตีความแนวคิด ทั้งหมดจะ premised ในขั้นต่ำของแนวโน้มและสูงสุดของแบบจำลองสมดุลเกิดขึ้น lawlike ตามนี้ รุ่น ความไม่สมดุล และความเข้มข้นในทหาร และวัสดุระหว่างอำนาจมีการตรวจสอบ และมีการคืนค่าความสมดุลเพื่อความอยู่รอดของอำนาจที่สำคัญในระบบนานาชาติ อำนาจมีหลายกลไกการคืนความสมดุล รวมทั้งทหารภายในที่สุดเศรษฐกิจจะถูกแปลงเป็นอำนาจทางทหาร การก่อตัวของ counterbalancing พันธมิตร ผ่านบัคของดุลที่รัฐอื่น พาร์ติชัน และค่าตอบแทนในการชำระเงินสมัยหลังสงครามสงบ และการจำลอง คมชัด นักวิชาการหลายคนพบว่ารอง และระดับมหาวิทยาลัยรัฐมีแนวโน้ม bandwagon ได้หรือร่วมกับมีประสิทธิภาพรัฐหรือรัฐบาลของอเมริกามากกว่าสมดุลกับมัน ตามโครงสร้างจริงเป็นขั้นสูงโดย Kenneth Waltz ในทฤษฎีการเมืองระหว่างประเทศ (นิวยอร์ก: แรนดอมเฮาส์ 1979), ระบบช่วยเหลือตนเองเกี่ยวกับอนาธิปไตยและกะในการกระจายสัมพัทธ์ของความสามารถหมายความ ว่า บ่อยแบบดุลอำนาจในระบบระหว่างประเทศ วิธีดุลอเมริกาจะขึ้นอยู่กับการกระจายของความสามารถระหว่างอำนาจมากขึ้น ในการกระจายสองขั้วอำนาจ (อำนาจสอง) ของอเมริกาจะยอดผ่านทหารภายใน ในหลายการกระจายอำนาจของ อเมริกา (สาม หรือมากกว่า) จะสมดุลการก่อตัวของ counterbalancing พันธมิตร ในที่สุด ตาม John Mearsheimer ในการกระจายหลายสมดุลของพลังงาน (สาม หรือมากกว่ามีประสิทธิภาพเท่าเทียมกันอเมริกา), อำนาจจะผ่านบัคของสมดุลหรือ "บัคผ่าน" ไป "จับเจ้า" ชอบสมดุลอยู่ ในปัจจุบันวงจรกระจายพลังงาน จำนวนของนักศึกษาแข่งที่ อเมริการ่วมในสมดุลนุ่ม และลื่นมากกว่าสมดุลยากแบบบังคับ คนอื่น ๆ ต่อสู้ว่า ไม่สมดุลเกิดขึ้น และการขาดดุล หรือวงจรกระจายทั้งทนทาน และมั่นคง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความสมดุลของพลังงานเป็นหนึ่งในแนวคิดที่เก่าแก่ที่สุดและพื้นฐานที่สุดในทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ว่าจะมีหลายรูปแบบของความสมดุลของทฤษฎีอำนาจและการตีความของแนวคิดทั้งหมดจะ premised ในขั้นต่ำของแนวโน้มและสูงสุดของรูปแบบสมดุล lawlike กำเริบได้ ตามรูปแบบนี้ไม่สมดุลและความเข้มข้นในความสามารถของทหารและวัสดุในหมู่อำนาจที่ดีมีการตรวจสอบและสมดุลมีการเรียกคืนเพื่อให้อยู่รอดของประเทศมหาอำนาจในระบบระหว่างประเทศ อำนาจที่ดีมีหลายกลไกในการเรียกคืนความสมดุลรวมทั้งพลทหารภายในที่มั่งคั่งทางเศรษฐกิจจะถูกแปลงเป็นอำนาจทางทหาร, การก่อตัวของพันธมิตรถ่วงดุลที่ผ่านเจ้าชู้ของสมดุลเพื่อให้รัฐอื่นพาร์ทิชันและค่าตอบแทนในการชำระหนี้สันติภาพหลังสงครามและการจำลอง ในทางตรงกันข้ามนักวิชาการหลายคนพบว่ามัธยมศึกษาและอุดมศึกษารัฐมีแนวโน้มที่จะ bandwagon หรือเข้าร่วมกับรัฐที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือพันธมิตรของสหรัฐอเมริกามากกว่าสมดุลกับมัน อยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมชาติที่มีโครงสร้างเป็นขั้นสูงโดยเคนเน ธ Waltz ในทฤษฎีการเมืองระหว่างประเทศ (นิวยอร์ก: สุ่มบ้าน 1979) ที่ช่วยเหลือตนเองระบบอนาธิปไตยและการเปลี่ยนแปลงในการจัดจำหน่ายญาติของความสามารถในการหมายความว่ายอดคงเหลือของอำนาจเกิดขึ้นอีกในรูปแบบระบบระหว่างประเทศ วิธีสมดุลรัฐจะขึ้นอยู่กับการกระจายของความสามารถในหมู่ผู้ที่มีอำนาจมากขึ้น ในการกระจายสองขั้วของการใช้พลังงาน (สองมหาอำนาจ) รัฐจะสมดุลผ่านพลทหารภายใน ในการกระจาย Multipolar ของอำนาจ (สามหรือมากกว่า) รัฐจะสมดุลผ่านการก่อตัวของพันธมิตรถ่วงดุล สุดท้ายตามที่จอห์น Mearsheimer ในการกระจาย Multipolar สมดุลของการใช้พลังงาน (สามหรือมากกว่าอย่างเท่าเทียมกันรัฐที่มีประสิทธิภาพ), อำนาจที่ดีมีแนวโน้มที่จะปัดสวะของสมดุลหรือ "เจ้าชู้ผ่าน" ไปยัง "เจ้าชู้จับ" ความรับผิดชอบของสมดุล ในการจัดจำหน่าย unipolar ปัจจุบันของการใช้พลังงานเป็นจำนวนของนักวิชาการยืนยันว่ารัฐจะมีส่วนร่วมในการปรับสมดุลนุ่มและลื่นไถลข่มมากกว่าสมดุลยากแบบดั้งเดิม อื่น ๆ ยืนยันว่าไม่มีความสมดุลที่เกิดขึ้นและการกระจายไม่สมดุลหรือ unipolar เป็นทั้งทนทานและมีเสถียรภาพ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความสมดุลของพลังงานเป็นหนึ่งในแนวคิดที่เก่าแก่ที่สุดและพื้นฐานที่สุดในทฤษฎีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แม้ว่าจะมีหลายรูปแบบของทฤษฎีดุลแห่งอำนาจและการตีความของความคิดทั้งหมดที่มี premised บนอย่างน้อย 2 และสูงสุดของแบบจำลองสมดุลซ้ำ lawlike . ตามรูปแบบนี้ ไม่สมดุลและความเข้มข้นในความสามารถของทหารและวัสดุระหว่างพลังอันยิ่งใหญ่จะถูกตรวจสอบและความสมดุลถูกเรียกคืนเพื่อให้แน่ใจว่าการอยู่รอดของประเทศมหาอำนาจในระบบระหว่างประเทศ พลังอันยิ่งใหญ่มีหลายกลไก เพื่อคืนความสมดุล รวมทั้งทหารภายในที่สะสมความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจจะถูกแปลงเป็นพลังงานทหาร , การก่อตัวของพันธมิตรผ่านเจ้าชู้ counterbalancing , สมดุลของรัฐอื่น พาร์ติชัน และค่าตอบแทนในการตั้งถิ่นฐานหลังสงคราม สันติภาพ และการแข่งขัน . ในทางตรงกันข้าม นักวิชาการหลายคนพบว่ามัธยมและอุดมศึกษารัฐมีแนวโน้มที่จะเข้าร่วม bandwagon หรือมีมีประสิทธิภาพมากขึ้น รัฐ หรือรัฐบาลของรัฐมากกว่าสมดุลกับมัน ตามแบบโครงสร้างเป็นขั้นสูงโดย Kenneth วอลทซ์ในทฤษฎีของการเมืองระหว่างประเทศ ( นิวยอร์ก : สุ่มบ้าน , 1979 ) , ช่วยเหลือตนเองและการเปลี่ยนแปลงในการกระจายระบบอนาธิปไตยกับความสามารถหมายความว่ายอดดุลของอำนาจ recurrently แบบฟอร์มในระบบระหว่างประเทศ วิธีสมดุลของรัฐจะขึ้นอยู่กับการกระจายของความสามารถระหว่างพลังที่ยิ่งใหญ่ ในการแจกแจงพลังงาน ( สองขั้วมหาอำนาจ ) รัฐจะสมดุลผ่าน buildup ทหารภายใน ซึ่งมีมากกว่าสองขั้วอำนาจในการแจกแจง ( สามหรือมากกว่า ) รัฐจะสมดุลผ่านการก่อตัวของ counterbalancing พันธมิตร สุดท้าย ตาม จอห์น mearsheimer ในการกระจายสมดุลซึ่งมีมากกว่าสองขั้วอำนาจ ( สามหรือมากกว่ารัฐที่มีประสิทธิภาพเท่าเทียมกัน ) พลังที่ยิ่งใหญ่มักจะปัดสวะความสมดุล หรือ " บัคผ่าน " ที่จะ " จับ " บัคความรับผิดชอบของสมดุล ในปัจจุบัน ขั้วต่อการกระจายตัวของพลังงาน , จํานวนของนักวิชาการโต้แย้งว่ามีส่วนร่วมในการหยุดยั้งลื่นมากกว่านุ่มและสมดุลยากแบบดั้งเดิม คนอื่นสู้ที่ไม่สมดุลและไม่สมดุลเกิดขึ้น หรือการกระจาย unipolar ทั้งทนทานและมั่นคง