UNICEF began its mission in 1946 as

UNICEF began its mission in 1946 as a relief organization for children after World War II. Its mandate soon expanded to helping children whose lives were at risk in developing countries. Almost 60 years later, UNICEF is more than 7,000 people in 157 countries and territories around the world. Nine of 10 staff members work closely with national and local governments and other partners around the world.
Throughout, UNICEF’s priorities have been realizing the intrinsic rights of children to a basic quality of life, rights world leaders further defined in the Convention on the Rights of the Child. UNICEF bases its actions on up-to-date substantial research and experience on what works to help give children the best start in life, to survive and thrive -- especially in emergencies -- and to go to school.
This work correlates closely with the Millennium Development Goals set by United Nations States in 2000 – and is central to meeting them. Of the 48 indicators of progress toward the Goals, UNICEF is chiefly responsible for progress in 13.
UNICEF’s Priorities are Essential for Development
UNICEF’s work can be grouped into five main strategic areas. They are all interrelated; progress in any one leads to progress in the others.
Together, they make a difference for children by supporting implementation of the Millennium Summit Declaration and the world’s work toward the Goals.
They also ensure that UNICEF contributes effectively to reducing poverty, through advocacy and partnerships that create sustained investments in children’s survival, development and protection.
These strategic areas are:
Young Child Survival and Development: In support of Millennium Goal 4 – reducing child mortality – and Goal 6, malaria control, among others, UNICEF works toward comprehensive child health care in the earliest years, including the antenatal period before birth.
Toward helping young children survive and have a healthy, productive future, UNICEF advocates for and gives financial and technical support to national- and community-based education and intervention programmes on health care and nutrition. Priority areas include immunization, preventing and controlling malaria, controlling and treating diarrhoeal and respiratory diseases, eradicating guinea worm and preventing anaemia.
Health programmes ideally include antenatal care of pregnant women, and neonatal care in the first four weeks after birth, including promoting breastfeeding. UNICEF also shares advocacy, social mobilization, and research work in a supporting role to help other agencies provide emergency obstetrics.
Building upon a decades-long commitment on health, UNICEF provides vaccines to 40 per cent of children in developing countries, and provides technical support on the complicated process of delivering them. Millions are protected from diseases like measles, polio, diphtheria and tuberculosis with vaccines that cost an average of only 50 cents per child. Vaccination programs ideally include supplements of vitamin A and micronutrients that further boost immunity and help prevent malnutrition-related disorders.
UNICEF is also often first on the ground in declared emergencies to deliver these and other life-saving interventions, like fresh water and basic medical supplies.
Along with the World Health Organization (WHO), UNICEF supports local programmes that improve access to basic water and sanitation, which are in turn vital for health, development and education initiatives.
Basic Education and Gender Equality: In support of MDG 2 and 3, UNICEF collaborates with countries, donor governments and other UN agencies to promote, fund and facilitate universal primary education and gender equality.
This includes improving children’s developmental readiness for school, especially for excluded children and among disadvantaged groups, via community-sponsored childhood education and health initiatives.
In all stages of this process, through advocacy and local programmes, UNICEF works to reduce the gender gap and other disparities in access to, participation in and completion of basic schooling. This includes` supporting water, sanitation and hygiene improvement in schools to create a child-friendly environment for learning.
Using practical demonstrations and evidence-based advocacy, UNICEF seeks to help national and local governments and groups improve educational quality and retention.
Finally, UNICEF also delivers school supplies and tents in emergencies as part of its Back-to-School programme, helping children return to a more normal, safe environment and protecting their right to basic education.
HIV/AIDS and Children: This disease crisis brings poverty and social devastation along with death. To combat it – which helps reach MDG 6 -- UNICEF works with nations, non-profit organizations and religious groups, youth organizations and many other partners to organize gender-sensitive prevention education, skills and service campaigns aimed particularly at adolescents.
UN

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

องค์การยูนิเซฟเริ่มพันธกิจในปี 1946 เป็นองค์กรบรรเทาทุกข์สำหรับเด็กหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง อาณัติของเร็วขึ้นช่วยให้เด็กดำรงชีวิตอยู่ในความเสี่ยงในประเทศกำลังพัฒนา เกือบ 60 ปี ยูนิเซฟได้มากกว่า 7,000 คนใน 157 ประเทศและอาณาเขตทั่วโลก เก้าของพนักงาน 10 คนทำงานใกล้ชิดกับรัฐบาลท้องถิ่น และชาติอื่น ๆ ทั่วโลกระดับความสำคัญขององค์การยูนิเซฟมีการตระหนักถึงสิทธิลักษณะของเด็กให้มีคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐาน สิทธิต่อผู้นำโลกที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของเด็ก องค์การยูนิเซฟฐานดำเนินวิจัยพบล่าสุดและประสบการณ์ในสิ่งที่ทำงาน เพื่อช่วยให้เด็กเริ่มต้นที่ดีที่สุดในชีวิต การอยู่รอด และเจริญเติบ โต - ในกรณีฉุกเฉิน - และไปโรงเรียนงานนี้คู่กับวรรษตั้ง โดยสหประชาชาติอเมริกาใน 2000 – อย่างใกล้ชิด และเป็นศูนย์กลางการประชุมนั้น ของตัวบ่งชี้ที่ 48 ของก้าวหน้าเป้าหมาย องค์การยูนิเซฟส่วนใหญ่เป็นผู้รับผิดชอบสำหรับความคืบหน้าใน 13สำคัญขององค์การยูนิเซฟคือ จำเป็นสำหรับการพัฒนาจัดงานของ UNICEF เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์หลักห้า มี interrelated ทั้งหมด ความคืบหน้าในการนำไปสู่ความก้าวหน้าในอื่น ๆกัน พวกเขาสร้างความแตกต่างสำหรับเด็ก โดยการสนับสนุนการดำเนินงานของการประกาศประชุมสุดยอดสหัสวรรษและของโลกต่อเป้าหมายนอกจากนี้พวกเขายังมั่นใจว่า UNICEF ก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการลดความยากจน ผ่านการสนับสนุนและความร่วมมือที่สร้างเงินลงทุนที่ยั่งยืนในการอยู่รอดของเด็ก พัฒนา และการป้องกันพื้นที่ยุทธศาสตร์เหล่านี้คือ:รอดชีวิตของเด็กหนุ่มและพัฒนา: เพื่อสนับสนุนมิลเลนเนียมเป้าหมาย 4-ลดอัตราการตายเด็ก – และเป้าหมาย 6 มาลาเรียควบคุม อื่น ๆ องค์การยูนิเซฟทำงานต่อการดูแลสุขภาพครอบคลุมเด็กในปีแรก รวมระยะครรภ์ก่อนคลอดช่วยเด็กเอาตัวรอด และมีอนาคตดีต่อสุขภาพ การผลิต UNICEF สำหรับสนับสนุน และให้การสนับสนุนทางการเงิน และทางเทคนิคโดยชาติ และชุมชนศึกษาและแทรกแซงโปรแกรมดูแลสุขภาพและโภชนาการ พื้นที่สำคัญรวมถึงการได้รับวัคซีน การป้องกัน และควบคุมโรคมาลาเรีย การควบคุม และรักษาจำนวน และทางเดินหายใจโรค กำจัดหนอนนิวกินี และป้องกันโรคโลหิตจางแผนสุขภาพระดับรวมครรภ์ดูแลครรภ์ การดูแลทารกแรกเกิดในสี่สัปดาห์แรกหลังคลอด รวมทั้งส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนม องค์การยูนิเซฟร่วมรณรงค์ เคลื่อนไหวทางสังคม และทำการวิจัยในบทบาทการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานอื่น ๆ ให้สูติศาสตร์ฉุกเฉินกันเมื่อความมุ่งมั่นยาวนานหลายทศวรรษสุขภาพ องค์การยูนิเซฟให้วัคซีนถึงร้อยละ 40 ของเด็กในประเทศกำลังพัฒนา และให้การสนับสนุนทางเทคนิคในกระบวนการซับซ้อนของการส่ง ล้านมีป้องกันจากโรคเช่นโรคหัด โรคโปลิโอ คอตีบ และวัณโรคกับวัคซีนที่ต้นทุนเฉลี่ยเพียง 50 เซนต์ ต่อเด็ก โปรแกรมวัคซีนแห่งรวมอาหารเสริมวิตามินเอ และเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันโรคขาดสารอาหารที่เกี่ยวข้อง องค์การยูนิเซฟได้ยังมักแรกในประกาศเหตุฉุกเฉินเหล่านี้และแทรกแซงชีวิตอื่น ๆ เช่นน้ำและวัสดุทางการแพทย์พื้นฐานพร้อมกับองค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การยูนิเซฟสนับสนุนโครงการท้องถิ่นที่ปรับพื้นฐานน้ำและสุขาภิบาล ซึ่งจะสำคัญสำหรับสุขภาพ การพัฒนา และการศึกษาการศึกษาขั้นพื้นฐานและความเสมอภาคหญิงชาย: สนับสนุน MDG 2 และ 3 องค์การยูนิเซฟร่วมกับประเทศ บริจาครัฐบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ของ UN ส่งเสริม กองทุน และอำนวยความสะดวกในการศึกษาและเพศที่หลักสากลเสมอภาคปรับปรุงความพร้อมพัฒนาเด็กสำหรับโรงเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับเด็กที่ถูกแยกออก และ ใน กลุ่มผู้ด้อยโอกาส การศึกษาเด็กที่สนับสนุนชุมชนและสุขภาพโครงการด้วยในทุกขั้นตอนของกระบวนการนี้ รณรงค์และโครงการท้องถิ่น องค์การยูนิเซฟทำงานเพื่อลดช่องว่างเพศและอื่น ๆ ความแตกต่างในการเข้าถึง การเข้าร่วมและความสมบูรณ์ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งรวมถึง ' สนับสนุนปรับปรุงน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัยในโรงเรียนสร้างสภาพแวดล้อมสำหรับเด็กเพื่อการเรียนรู้ใช้ปฏิบัติการสาธิตและรณรงค์ตามหลักฐาน องค์การยูนิเซฟพยายามช่วยชาติ และรัฐบาลท้องถิ่นและกลุ่มปรับปรุงคุณภาพการศึกษาและเก็บข้อมูลในที่สุด องค์การยูนิเซฟยังมอบอุปกรณ์การเรียนและเต็นท์ในกรณีฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมกลับไปโรงเรียน ช่วยเด็กกลับไปยังสภาพแวดล้อมปกติมากขึ้น ความปลอดภัย และปกป้องการการศึกษาขั้นพื้นฐานเอดส์และเด็ก: วิกฤตโรคนี้นำความยากจนและการทำลายล้างสังคมพร้อมกับความตาย เพื่อต่อสู้กับมัน –ซึ่งช่วยให้บรรลุ MDG 6 - ยูนิเซฟทำงานร่วมกับสหประชาชาติ องค์กรไม่แสวงหากำไรและกลุ่มศาสนา เยาวชนองค์กรและคู่ค้าอื่น ๆ จำนวนมากในการจัดระเบียบการป้องกันไวต่อเพศศึกษา ทักษะและส่งเสริมการขายบริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่นสหประชาชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ยูนิเซฟเริ่มภารกิจในปี 1946 เป็นองค์กรบรรเทาสำหรับเด็กหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง อาณัติของตนในเร็ว ๆ นี้การขยายตัวที่จะช่วยให้เด็กมีชีวิตที่มีความเสี่ยงในการพัฒนาประเทศ เกือบ 60 ปีต่อมาองค์การยูนิเซฟเป็นมากกว่า 7,000 คนใน 157 ประเทศและดินแดนทั่วโลก เก้า 10 พนักงานทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลชาติและระดับท้องถิ่นและคู่ค้าอื่น ๆ ทั่วโลก.
ตลอดลำดับความสำคัญของยูนิเซฟได้รับการตระหนักถึงสิทธิที่แท้จริงของเด็กที่จะมีคุณภาพพื้นฐานของชีวิตผู้นำสิทธิโลกที่กำหนดไว้ต่อไปในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิของ เด็ก. ยูนิเซฟฐานการกระทำของตนขึ้นไปวันที่การวิจัยที่สำคัญและประสบการณ์ในสิ่งที่ทำงานเพื่อช่วยให้เด็กเริ่มต้นที่ดีที่สุดในชีวิตเพื่อความอยู่รอดและเจริญเติบโต - โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีฉุกเฉิน -. และจะไปโรงเรียน
งานนี้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับ เป้าหมายการพัฒนาสหัสวรรษที่กำหนดโดยสหประชาชาติสหรัฐอเมริกาในปี 2000 - และเป็นศูนย์กลางในการประชุมพวกเขา 48 ตัวชี้วัดของความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายที่องค์การยูนิเซฟเป็นส่วนใหญ่มีความรับผิดชอบสำหรับความคืบหน้าใน 13.
ความคาดหวังของยูนิเซฟมีความจำเป็นสำหรับการพัฒนา
งานของยูนิเซฟสามารถแบ่งออกเป็นห้าพื้นที่ยุทธศาสตร์หลัก พวกเขามีความสัมพันธ์กันทั้งหมด ความคืบหน้าในคนใดคนหนึ่งจะนำไปสู่ความก้าวหน้าในคนอื่น ๆ .
ร่วมกันพวกเขาสร้างความแตกต่างสำหรับเด็กโดยการสนับสนุนการดำเนินงานของ Millennium Summit ประกาศและการทำงานของโลกไปสู่เป้าหมายได้.
พวกเขายังมั่นใจว่ายูนิเซฟก่อได้อย่างมีประสิทธิภาพในการลดความยากจนผ่านการสนับสนุนและความร่วมมือ ที่สร้างการลงทุนอย่างต่อเนื่องในการอยู่รอดของเด็ก, การพัฒนาและการป้องกัน.
พื้นที่ยุทธศาสตร์เหล่านี้คือ:
หนุ่มอยู่รอดของเด็กและการพัฒนาในการสนับสนุนของมิลเลนเนียมประตู 4 - ลดอัตราการตายของเด็ก - และเป้าหมาย 6 การควบคุมโรคมาลาเรียหมู่คนองค์การยูนิเซฟทำงานที่มีต่อสุขภาพของเด็กที่ครอบคลุม ดูแลในปีที่ผ่านมารวมทั้งระยะเวลาการตั้งครรภ์ก่อนคลอด.
ต่อการช่วยเด็กเล็กอยู่รอดและมีสุขภาพดีในอนาคตการผลิตสนับสนุนองค์การยูนิเซฟและให้การสนับสนุนทางการเงินและทางเทคนิคในการ national- และการศึกษาและการแทรกแซงโปรแกรมชุมชนบนพื้นฐานของการดูแลสุขภาพและ อาหารการกิน พื้นที่สำคัญ ได้แก่ การฉีดวัคซีนป้องกันและควบคุมโรคมาลาเรียการควบคุมและรักษาโรคอุจจาระร่วงและระบบทางเดินหายใจโรคกำจัดหนอนตะเภาและป้องกันโรคโลหิตจาง.
โปรแกรมสุขภาพนึกคิดรวมถึงการฝากครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์และการดูแลทารกแรกเกิดในสี่สัปดาห์แรกหลังคลอดรวมทั้งการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนม ยูนิเซฟหุ้นยังสนับสนุนการชุมนุมทางสังคมและงานวิจัยในบทบาทการสนับสนุนที่จะช่วยให้หน่วยงานอื่น ๆ ให้สูติศาสตร์ฉุกเฉิน.
สร้างความมุ่งมั่นนานหลายสิบปีต่อสุขภาพของยูนิเซฟให้วัคซีนร้อยละของเด็กละ 40 ในประเทศกำลังพัฒนาและให้การสนับสนุนทางเทคนิค ในกระบวนการที่ซับซ้อนในการส่งมอบให้พวกเขา ล้านได้รับความคุ้มครองจากโรคเช่นโรคหัดโรคโปลิโอคอตีบและวัณโรควัคซีนที่ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเพียง 50 เซ็นต์ต่อเด็กหนึ่งคน โปรแกรมการฉีดวัคซีนนึกคิด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารวิตามินและแร่ธาตุอาหารที่ยังเพิ่มภูมิคุ้มกันและช่วยป้องกันความผิดปกติของการขาดสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับ.
ยูนิเซฟก็มักจะเป็นครั้งแรกบนพื้นดินในกรณีฉุกเฉินประกาศจะส่งมอบเหล่านี้และการแทรกแซงช่วยชีวิตอื่น ๆ เช่นน้ำจืดและอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐาน .
พร้อมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) องค์การยูนิเซฟสนับสนุนโครงการท้องถิ่นที่ปรับปรุงการเข้าถึงน้ำขั้นพื้นฐานและสุขอนามัยซึ่งเป็นในทางกลับกันสิ่งสำคัญสำหรับสุขภาพการพัฒนาและการศึกษาความคิดริเริ่ม.
การศึกษาขั้นพื้นฐานและความเสมอภาคทางเพศ: ในการสนับสนุนของ MDG ที่ 2 และ 3 ยูนิเซฟร่วมมือกับประเทศในรัฐบาลของผู้บริจาคและหน่วยงานสหประชาชาติอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมกองทุนและอำนวยความสะดวกการศึกษาประถมศึกษาสากลและความเสมอภาคทางเพศ.
นี้รวมถึงการปรับปรุงความพร้อมในการพัฒนาเด็กสำหรับโรงเรียนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กได้รับการยกเว้นและในหมู่กลุ่มผู้ด้อยโอกาสผ่านทางชุมชนได้รับการสนับสนุนการศึกษาในวัยเด็กและ โครงการด้านสุขภาพ.
ในทุกขั้นตอนของกระบวนการนี้ผ่านการสนับสนุนและโปรแกรมท้องถิ่นยูนิเซฟทำงานเพื่อลดช่องว่างความไม่เสมอภาคทางเพศและอื่น ๆ ในการเข้าถึงการมีส่วนร่วมและความสำเร็จของการศึกษาขั้นพื้นฐาน includes` นี้สนับสนุนน้ำสุขาภิบาลและการปรับปรุงสุขอนามัยในโรงเรียนเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสำหรับเด็กสำหรับการเรียนรู้.
ใช้การสาธิตการปฏิบัติและการสนับสนุนตามหลักฐานยูนิเซฟพยายามที่จะช่วยให้รัฐบาลชาติและระดับท้องถิ่นและกลุ่มปรับปรุงคุณภาพการศึกษาและการเก็บรักษา.
สุดท้ายยูนิเซฟ ยังมอบอุปกรณ์การเรียนและเต็นท์ในกรณีฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมกลับไปโรงเรียนมันช่วยให้เด็กกลับสู่ปกติสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากขึ้นและการปกป้องสิทธิของตนเพื่อการศึกษาขั้นพื้นฐาน.
เอชไอวี / เอดส์และเด็ก: วิกฤตโรคนี้จะทำให้ความยากจนและสังคม การทำลายล้างพร้อมกับความตาย ที่จะต่อสู้กับมัน - ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึง MDG ที่ 6 -. องค์การยูนิเซฟทำงานกับประเทศองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรและกลุ่มศาสนาองค์กรเยาวชนและคู่ค้าอื่น ๆ อีกมากมายในการจัดระเบียบการศึกษาเพศที่ไวต่อการป้องกันทักษะและแคมเปญที่มุ่งให้บริการโดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น
สหประชาชาติ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยูนิเซฟเริ่มภารกิจใน 2489 เพื่อเป็นองค์การสงเคราะห์เด็กหลังสงครามโลกครั้งที่สอง การขยายอาณัติในไม่ช้าที่จะช่วยให้เด็กที่มีชีวิตอยู่ในความเสี่ยงในการพัฒนาประเทศ เกือบ 60 ปีต่อมายูนิเซฟเป็นมากกว่า 7 , 000 คน ใน 160 ประเทศและดินแดนทั่วโลก เก้าของ 10 พนักงานทำงานอย่างใกล้ชิดกับรัฐบาลทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น และคู่ค้าอื่น ๆ ทั่วโลกตลอด , UNICEF ได้ตระหนักถึงความสำคัญในสิทธิของเด็กที่จะมีคุณภาพขั้นพื้นฐานของชีวิต สิทธิผู้นำโลกต่อไปที่กำหนดไว้ในอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ยูนิเซฟฐานการกระทำของที่ทันสมัยมากและประสบการณ์ในการวิจัยสิ่งที่ทำงานเพื่อช่วยให้เด็กเริ่มต้นที่ดีที่สุดในชีวิต เพื่อให้ชีวิตอยู่รอดและเติบโต โดยเฉพาะในยามฉุกเฉิน . . . . และไปโรงเรียนงานนี้มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษโดยสหประชาชาติสหรัฐอเมริกาในปี 2000 ) และเป็นศูนย์กลางของการประชุมนั้น ของ 48 ตัวชี้วัดความคืบหน้าไปสู่เป้าหมาย ยูนิเซฟคือส่วนใหญ่รับผิดชอบสำหรับความคืบหน้าใน 13ยูนิเซฟลำดับความสำคัญที่จำเป็นสำหรับการพัฒนายูนิเซฟทำงานสามารถแบ่งออกเป็นห้ากลยุทธ์หลักด้าน พวกเขาทั้งหมดมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน ความก้าวหน้าในการใด ๆที่นำไปสู่ความก้าวหน้าในผู้อื่นร่วมกันพวกเขาสร้างความแตกต่างสำหรับเด็กโดยสนับสนุนการดำเนินงานของการประชุมสุดยอดสหัสวรรษปฏิญญาและการทำงานของโลกที่มีต่อเป้าหมายพวกเขายังให้แน่ใจว่ายูนิเซฟจัดสรรอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อลดความยากจน โดยสนับสนุนและความร่วมมือที่สร้างจากการลงทุนในการอยู่รอดของเด็ก การพัฒนา และการคุ้มครองพื้นที่ยุทธศาสตร์เหล่านี้คือ :การอยู่รอดของเด็กและการพัฒนาในการสนับสนุนเป้าหมายสหัสวรรษที่ 4 –การลดอัตราการตายของเด็ก และเพื่อเป้าหมาย 6 , การควบคุมมาลาเรียในหมู่คนอื่น ๆ ที่มีต่อเด็กยูนิเซฟทำงานครอบคลุมการดูแลสุขภาพ ในช่วงปี รวมถึงระยะเวลาการฝากครรภ์ก่อนคลอดสำหรับช่วยให้เด็กอยู่รอดและได้สุขภาพ มีประสิทธิภาพในอนาคต ยูนิเซฟสนับสนุนและช่วยทางการเงินและการสนับสนุนทางเทคนิคแก่ชาติและชุมชนการศึกษาและโปรแกรมการแทรกแซงในการดูแลสุขภาพและโภชนาการ พื้นที่ที่สำคัญ ได้แก่ วัคซีน ป้องกันและควบคุมโรคอุจจาระร่วง และ การควบคุมและรักษาโรคระบบทางเดินหายใจ การขจัดพยาธิตัวกลมและป้องกันภาวะโลหิตจาง .รายการสุขภาพซึ่งรวมถึงการฝากครรภ์ของหญิงตั้งครรภ์ และการดูแลทารกแรกเกิดในแรกสี่สัปดาห์หลังคลอด รวมทั้งการส่งเสริมการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ยูนิเซฟระดมหุ้นยังสนับสนุน สังคม และวิจัยในบทบาทที่สนับสนุนเพื่อให้หน่วยงานอื่น ๆให้สูติศาสตร์ฉุกเฉินสร้างเมื่อทศวรรษที่ผ่านมาสัญญายาวต่อสุขภาพ ยูนิเซฟให้วัคซีน 40 เปอร์เซ็นต์ของเด็กในประเทศกำลังพัฒนา และให้การสนับสนุนทางด้านเทคนิคในกระบวนการที่ซับซ้อนของการส่งพวกเขา ล้านป้องกันจากโรคต่างๆ เช่น โรคหัด โปลิโอ คอตีบ วัณโรค กับวัคซีนที่ต้นทุนเฉลี่ยเพียง 50 เซนต์ต่อเด็ก โปรแกรมการฉีดวัคซีนซึ่งรวมถึงข้อมูลเพิ่มเติมของวิตามินและสารอาหารรองที่เพิ่มภูมิคุ้มกัน และช่วยป้องกันภาวะขาดสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติยูนิเซฟยังมักจะแรกบนพื้นดินในประกาศภาวะฉุกเฉินเพื่อให้เหล่านี้และอื่น ๆ ในการแทรกแซง เหมือนน้ำที่สดใหม่และวัสดุทางการแพทย์พื้นฐานร่วมกับองค์การอนามัยโลก ( WHO ) , ยูนิเซฟสนับสนุนท้องถิ่นโปรแกรมที่ปรับปรุงการเข้าถึงน้ำและสุขอนามัยขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะสำคัญต่อสุขภาพ , การพัฒนาและริเริ่มการศึกษา .การศึกษาขั้นพื้นฐาน และความเท่าเทียมในการสนับสนุนของ MDG 2 และ 3 ) ร่วมมือกับประเทศผู้บริจาคและรัฐบาลหน่วยงานสหประชาชาติอื่นๆ เพื่อส่งเสริม และอำนวยความสะดวก กองทุนการศึกษาและความเสมอภาคทางเพศสากลหลักนี้รวมถึงการปรับปรุงพัฒนาการเด็กในโรงเรียน โดยเฉพาะไม่รวมเด็กและกลุ่มด้อยโอกาส ผ่านชุมชน สนับสนุนการริเริ่มการศึกษาปฐมวัย และสุขภาพในทุกขั้นตอนของกระบวนการนี้ผ่านสนับสนุนและท้องถิ่น โครงการขององค์การยูนิเซฟทำงานเพื่อลดช่องว่างทางเพศและความแตกต่างอื่น ๆในการเข้าถึง การมีส่วนร่วมและความสมบูรณ์ของการศึกษาขั้นพื้นฐาน นี้รวมถึง ` สนับสนุนน้ำ , สุขาภิบาลและสุขอนามัยในโรงเรียน การสร้างเด็กที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการเรียนรู้การใช้ประโยชน์ และการชุมนุมตามหลักฐาน ยูนิเซฟ พยายามช่วยรัฐบาลทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น และกลุ่มพัฒนาคุณภาพการศึกษา และการเก็บรักษาในที่สุด , ยูนิเซฟยังมอบอุปกรณ์การเรียน และเต็นท์ในภาวะฉุกเฉินเป็นส่วนหนึ่งของหลังโรงเรียน โครงการช่วยเด็กกลับมาเป็นปกติมากขึ้นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและการปกป้องสิทธิในการศึกษาขั้นพื้นฐานเอชไอวี / เอดส์และเด็ก : โรคนี้วิกฤตนำความยากจนและการทำลายล้างสังคมพร้อมกับความตาย การต่อสู้กับมัน และช่วยให้เข้าถึงซึ่ง MDG 6 -- ยูนิเซฟทำงานกับองค์การสหประชาชาติ , องค์กรไม่หวังผลกำไร และกลุ่มทางศาสนา องค์กรและคู่ค้าอื่น ๆอีกมากมายที่มีการป้องกันเยาวชนเพื่อจัดระเบียบ เพศ การศึกษา ทักษะ และแคมเปญบริการมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็น