Maruzen Foods (Thailand), a joint v

Maruzen Foods (Thailand), a joint venture between Boonrawd Brewery and Japan's Maruzen Tea, will spend 450 million baht to expand its green tea production capacity in Chiang Rai over the next three years to serve export markets.

A second green tea production plant will be built on a 10-rai plot at Singha Park in Chiang Rai owned by Boonrawd Brewery subsidiary Boon Rawd Farm Co.

The second plant will have annual production capacity of 300 tonnes, bringing the total to 500 tonnes, Maruzen Foods managing director Pongrat Luangthamrongcharoen said.

The move will enable the company to export Maruzen green tea, while Maruzen Tea of Japan will shift its focus to producing and marketing premium green tea.

Maruzen Tea owns 49% of Maruzen Foods (Thailand) and Boon Rawd Farm 51%. The joint venture will launch its Maruzen matcha green tea drink in Thai modern trade channels this week.

It expects 150 million baht in sales in the first year of operation. The first plant with annual capacity of 200 tonnes is also in Singha Park, where there is a green tea plantation.

Green tea leaves in Thailand are used to produce green tea drinks for the local market at the 140-million-baht plant. Some 80% of the first plant's production capacity is being used.

"This is the first time Maruzen Tea has transferred its green tea processing know-how for matcha outside of Japan," Mr Pongrat said.

Maruzen is based in Shizuoka prefecture, with more than 60 years' experience producing and selling tea in Japan.

Some 70% of Maruzen matcha green tea drinks and other products will be sold in retail shops and modern trade stores nationwide, with 30% serving industrial uses as green tea demand from beverage and bakery producers continues to grow.

The company will market its products abroad via the network of Boon Rawd Trading's international business unit and Singha beer agents who have networks in overseas markets.

Maruzen has been contacted by US, British and Australian companies about distributing its green tea in both teabag and powdered forms.

It will spend 15 million baht to promote matcha domestically next year.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Maruzen ฟู้ดส์ (ประเทศไทย), บริษัทร่วมทุนระหว่างบุญรอดบิณฑสันต์จะเบียร์และชา Maruzen ของญี่ปุ่น จะใช้ 450 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตชาเขียวในจังหวัดเชียงรายกว่า 3 ปีเพื่อรองรับตลาดส่งออกโรงงานผลิตชาเขียวสองจะถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่ 10 ไร่ ณสิงห์ปาร์คเชียงรายเป็นเจ้าของโรงเบียร์บุญรอดบิณฑสันต์จะบริษัทบุญรอดบริวเวอรี่ฟาร์ม จำกัดโรงงานจะมีกำลังการผลิตรายปี 300 ตัน นำรวม 500 ตัน อาหาร Maruzen Pongrat Luangthamrongcharoen กรรมการผู้จัดการกล่าวการย้ายจะทำให้บริษัทที่ส่งออกชาเขียว Maruzen ในขณะที่ Maruzen ชาของญี่ปุ่นจะเปลี่ยนเน้นการผลิต และการตลาดชาเขียวMaruzen ชาเป็นเจ้าของ 49% ของ Maruzen ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) และฟาร์มบุญรอดบริวเวอรี่ 51% ร่วมทุนจะเปิดตัวเครื่องดื่มชาเขียวมัทฉะ Maruzen ในช่องทางโมเดิร์นเทรดไทยสัปดาห์นี้คาดว่า 150 ล้านบาทในการขายในปีแรกของการดำเนินงาน นอกจากนี้อาคารแรก มีกำลังการผลิต 200 ตันประจำปียังเป็นสิงห์ปาร์ค มีไร่ชาเขียวใบชาเขียวในประเทศไทยจะใช้ในการผลิตเครื่องดื่มชาเขียวสำหรับตลาดท้องถิ่นที่โรงงาน 140 ล้านบาท บางคน 80% ของกำลังการผลิตของโรงงานแห่งแรกมีการใช้"นี่เป็นครั้งแรกที่มีการโอนย้ายของชาเขียวที่ประมวลผลความรู้สำหรับชาเขียวนอกประเทศญี่ปุ่น Maruzen ชา นาย Pongrat กล่าวMaruzen ตั้งอยู่ในจังหวัดชิสึโอกะ มีมากกว่า 60 ปีประสบการณ์ผลิต และจำหน่ายชาในญี่ปุ่นบาง 70% ของ Maruzen มัทฉะชาเขียวเครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จะขายในร้านค้าปลีก และโมเดิร์นเทรดสาขาทั่วประเทศ บริการอุตสาหกรรม 30% ใช้เป็นชาเขียวต้องจากผู้ผลิตเครื่องดื่มและเบเกอรี่ยังคงเติบโตบริษัทจะทำตลาดผลิตภัณฑ์ของต่างประเทศผ่านเครือข่ายของบุญรอดบริวเวอรี่ซื้อขายของหน่วยธุรกิจและตัวแทนเบียร์สิงห์ที่มีเครือข่ายในต่างประเทศได้รับการติดต่อ Maruzen บริษัทสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และออสเตรเลียเกี่ยวกับการกระจายของชาเขียวใน teabag และแบบผงมันจะใช้เวลา 15 ล้านบาทเพื่อส่งเสริมชาเขียวในปีถัดไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Maruzen ฟูดส์ (ประเทศไทย) ซึ่งเป็น บริษัท ร่วมทุนระหว่าง บริษัท บุญรอดบริวเวอรี จำกัด และชา Maruzen ของญี่ปุ่นจะใช้จ่าย 450 ล้านบาทเพื่อขยายกำลังการผลิตชาเขียวในจังหวัดเชียงรายในช่วงสามปีข้างหน้าเพื่อรองรับตลาดส่งออก. เป็นครั้งที่สองโรงงานผลิตชาเขียวจะเป็น สร้างขึ้นบนเนื้อที่ 10 ไร่ที่สิงห์ปาร์คเชียงรายเป็นเจ้าของโดย บริษัท ในเครือบุญรอดบริวเว บริษัท บุญรอดฟาร์ม จำกัดโรงงานที่สองจะมีกำลังการผลิตปีละ 300 ตันรวมทั้งสิ้นถึง 500 ตันกรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟู้ดส์ Maruzen Pongrat Luangthamrongcharoen กล่าวว่าย้ายจะทำให้ บริษัท สามารถส่งออก Maruzen ชาเขียวในขณะที่ Maruzen ชาของญี่ปุ่นจะเปลี่ยนโฟกัสในการผลิตและการตลาดพรีเมี่ยมชาเขียว. Maruzen ชาเป็นเจ้าของ 49% ของ Maruzen ฟูดส์ (ประเทศไทย) และ บริษัท บุญรอดฟาร์ม 51% กิจการร่วมค้าจะเปิด Maruzen Matcha ดื่มชาเขียวในช่องทางค้าปลีกสมัยใหม่ของไทยในสัปดาห์นี้. คาดว่า 150 ล้านบาทในการขายในปีแรกของการดำเนินงาน โรงงานแรกที่มีกำลังการผลิตปีละ 200 ตันยังอยู่ในสิงห์ปาร์คที่มีไร่ชาเขียว. ชาเขียวใบในประเทศไทยมีการใช้ในการผลิตเครื่องดื่มชาเขียวสำหรับตลาดท้องถิ่นที่โรงงาน 140 ล้านบาท บางคน 80% ของกำลังการผลิตโรงงานแรกจะถูกนำมาใช้. "นี่เป็นครั้งแรกที่ Maruzen ชาได้โอนของการประมวลผลชาเขียวรู้นอก Matcha ญี่ปุ่น" นาย Pongrat กล่าว. Maruzen อยู่ใน Shizuoka จังหวัดที่มีมากขึ้น ประสบการณ์กว่า 60 ปีที่ผ่านมาการผลิตและจำหน่ายกาแฟในญี่ปุ่น. บาง 70% ของ Maruzen Matcha เครื่องดื่มชาเขียวและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ จะขายในร้านค้าปลีกและร้านค้าปลีกสมัยใหม่ทั่วประเทศที่มีให้บริการในอุตสาหกรรมที่ใช้ตามความต้องการของชาเขียวจากเครื่องดื่มและเบเกอรี่ 30% ผู้ผลิตยังคงเติบโต. บริษัท จะทำการตลาดผลิตภัณฑ์ของ บริษัท ในต่างประเทศผ่านเครือข่ายของหน่วยธุรกิจและสิงห์ตัวแทนเบียร์ต่างประเทศ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้งของผู้ที่มีเครือข่ายในตลาดต่างประเทศ. Maruzen ได้รับการติดต่อจากสหรัฐอังกฤษและ บริษัท ออสเตรเลียเกี่ยวกับการกระจายชาเขียวใน ทั้งถุงชาและรูปแบบผง. มันจะใช้จ่าย 15 ล้านบาทเพื่อส่งเสริม Matcha ในประเทศในปีถัดไป