1.ช่างจะทำการดูห้องที่ต้องการติดตั้

1.ช่างจะทำการดูห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์เพื่อดูความเหมาะสมสำหรับติดตั้งคอยล์เย็นหรือเครื่องแอร์ซึ่งอยู่ในตัวบ้าน และคอยล์ร้อนหรือคอมเพรสเซอร์แอร์ที่จะต้องตั้งอยู่นอกห้อง
2.เมื่อได้ตำแหน่งที่แน่นอนแล้วช่างจะทำการเคลียร์พื้นที่เพื่อให้สามารถติดแอร์ได้สะดวก
3.วิธีติดแอร์บ้านแบบติดผนังหรือ Wall Type ช่างจะทำการฝังพุ๊กที่ผนังแล้วยึดแผ่นเพลตด้วยน๊อตเกลียว เพราะแผ่นเพลตจะมีหน้าที่รับน้ำหนักชุดคอยล์เย็นทั้งหมด จึงต้องทำให้แน่นหนาไว้ก่อน
4.สำหรับการสอดท่อน้ำยา ท่อน้ำทิ้งและสายไฟที่เชื่อมระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน วิธีติดแอร์บ้านในขั้นตอนนี้ช่างจะใช้ Hole Saw ในการเจาะรูที่ผนังเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว ซึ่งทั่วไปแล้วจะไม่ใช้การเจาะกระแทกเพราะจะทำให้ผนังเกิดรอยร้าว ช่างที่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่จะใช้ฟังก์ชั่นเจาะเหล็กแทน
5.ต่อสายไฟฟ้าและพันท่อแอร์รวมกันแล้วต่อสายไฟระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ซึ่งขั้นตอนนี้ช่างควรอ่านคู่มือการติดตั้งอย่างละเอียดเสมอ
6.ติดรางครอบท่อและท่อน้ำยาแอร์สำหรับงานภายใน แล้วไปติดตั้งรางครอบและท่อต่าง ๆ ที่ด้านนอก จากนั้นจึงแขวนคอยล์เย็นเข้ากับแผ่นเพลต ก็เสร็จสิ้นวิธีติดแอร์บ้านในส่วนภายในห้อง
7.เดินท่อน้ำยาแอร์ซึ่งท่อจะทำมาจากทองแดง วิธีติดแอร์บ้านตรงจุดนี้ต้องระวังไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แอร์เสียได้ในภายหน้า
8.ติดตั้งขาแขวนคอยล์ร้อนแล้วนำคอยล์ร้อนตั้งบนขาแขวน หรือถ้าไม่ใช้ขาแขวนอาจตั้งกับพื้นก็ได้ เพราะมีขายางรองคอยล์ร้อนติดมาอยู่แล้ว
9.เชื่อมท่อทองแดงและบานแฟล ซึ่งวิธีการติดแอร์บ้านแบบเก่าจำเป็นต้องใช้แก๊สเชื่อม แต่ในปัจจุบันไม่ต้องแล้ว
10.ช่างทำการทดสอบรอยรั่วและทำสูญญากาศด้วยการทำ Vacuum ประมาณ 15 – 30 นาที แล้วจึงไปเก็บงานในส่วนอื่นต่อ
11.จ่ายไฟเดินเครื่อง เปิดเครื่องปรับอากาศ วัดแรงดันน้ำยา R-22 ตรวจสอบความปกติของเครื่องปรับอากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

1.ช่างจะทำการดูห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์เพื่อดูความเหมาะสมสำหรับติดตั้งคอยล์เย็นหรือเครื่องแอร์ซึ่งอยู่ในตัวบ้าน และคอยล์ร้อนหรือคอมเพรสเซอร์แอร์ที่จะต้องตั้งอยู่นอกห้อง2.เมื่อได้ตำแหน่งที่แน่นอนแล้วช่างจะทำการเคลียร์พื้นที่เพื่อให้สามารถติดแอร์ได้สะดวก3.วิธีติดแอร์บ้านแบบติดผนังหรือ ผนังชนิดช่างจะทำการฝังพุ๊กที่ผนังแล้วยึดแผ่นเพลตด้วยน๊อตเกลียวเพราะแผ่นเพลตจะมีหน้าที่รับน้ำหนักชุดคอยล์เย็นทั้งหมดจึงต้องทำให้แน่นหนาไว้ก่อน4.สำหรับการสอดท่อน้ำยา ท่อน้ำทิ้งและสายไฟที่เชื่อมระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนวิธีติดแอร์บ้านในขั้นตอนนี้ช่างจะใช้หลุมเห็นในการเจาะรูที่ผนังเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้วซึ่งทั่วไปแล้วจะไม่ใช้การเจาะกระแทกเพราะจะทำให้ผนังเกิดรอยร้าวช่างที่มีประสบการณ์ส่วนใหญ่จะใช้ฟังก์ชั่นเจาะเหล็กแทน5.ต่อสายไฟฟ้าและพันท่อแอร์รวมกันแล้วต่อสายไฟระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อน ซึ่งขั้นตอนนี้ช่างควรอ่านคู่มือการติดตั้งอย่างละเอียดเสมอ6.ติดรางครอบท่อและท่อน้ำยาแอร์สำหรับงานภายใน แล้วไปติดตั้งรางครอบและท่อต่างๆ ที่ด้านนอกจากนั้นจึงแขวนคอยล์เย็นเข้ากับแผ่นเพลตก็เสร็จสิ้นวิธีติดแอร์บ้านในส่วนภายในห้อง7.เดินท่อน้ำยาแอร์ซึ่งท่อจะทำมาจากทองแดง วิธีติดแอร์บ้านตรงจุดนี้ต้องระวังไม่ให้ฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อซึ่งเป็นสาเหตุทำให้แอร์เสียได้ในภายหน้า8.ติดตั้งขาแขวนคอยล์ร้อนแล้วนำคอยล์ร้อนตั้งบนขาแขวน หรือถ้าไม่ใช้ขาแขวนอาจตั้งกับพื้นก็ได้เพราะมีขายางรองคอยล์ร้อนติดมาอยู่แล้ว9.เชื่อมท่อทองแดงและบานแฟล ซึ่งวิธีการติดแอร์บ้านแบบเก่าจำเป็นต้องใช้แก๊สเชื่อมแต่ในปัจจุบันไม่ต้องแล้ว10.ช่างทำการทดสอบรอยรั่วและทำสูญญากาศด้วยการทำ ดูดประมาณ 15 – 30 นาทีแล้วจึงไปเก็บงานในส่วนอื่นต่อ11.จ่ายไฟเดินเครื่อง ตรวจสอบความปกติของเครื่องปรับอากาศเปิดเครื่องปรับอากาศวัดแรงดันน้ำยา R-22

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประเภทกำแพง เห็นหลุม 2 นิ้ว แล้วไปติดตั้งรางครอบและท่อต่าง ๆ ที่ด้านนอก สูญญากาศประมาณ 15-30 นาที เปิดเครื่องปรับอากาศวัดแรงดันน้ำยา R-22

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

1 . ช่างจะทำการดูห้องที่ต้องการติดตั้งแอร์เพื่อดูความเหมาะสมสำหรับติดตั้งคอยล์เย็นหรือเครื่องแอร์ซึ่งอยู่ในตัวบ้านและคอยล์ร้อนหรือคอมเพรสเซอร์แอร์ที่จะต้องตั้งอยู่นอกห้อง
2เมื่อได้ตำแหน่งที่แน่นอนแล้วช่างจะทำการเคลียร์พื้นที่เพื่อให้สามารถติดแอร์ได้สะดวก
3วิธีติดแอร์บ้านแบบติดผนังหรือแบบติดผนัง ช่างจะทำการฝังพุ๊กที่ผนังแล้วยึดแผ่นเพลตด้วยน๊อตเกลียวเพราะแผ่นเพลตจะมีหน้าที่รับน้ำหนักชุดคอยล์เย็นทั้งหมดจึงต้องทำให้แน่นหนาไว้ก่อน
4สำหรับการสอดท่อน้ำยาท่อน้ำทิ้งและสายไฟที่เชื่อมระหว่างคอยล์เย็นและคอยล์ร้อนวิธีติดแอร์บ้านในขั้นตอนนี้ช่างจะใช้รูเห็นในการเจาะรูที่ผนังเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว