Artificial rain is produced by spra

Artificial rain is produced by spraying clouds with substances like Silver Iodide (costly) or cheaper ones like solid carbon dioxide (dry ice) or even finely powdered Sodium Chloride. The process is called seeding.

Often there are clouds, but no rain. This is because of a phenomenon called supercooling. The temperature of the cloud might be close to zero and there might even be crystals of ice in it.

The water vapour in the cloud does not condense to liquid water. The super cooling gets disturbed by spraying the cloud with the chemicals mentioned above, using a small aeroplane for the purpose.

The `super' phenomena (cooling, heating, saturation etc.) are perverse in a sense. Very pure water when heated in a clean vessel, often does not start boiling when expected. Crystals of the photographer's hypo (Sodium thiosulphate) easily dissolve in a little water when heated. But on cooling, crystals do not separate out.

If the vessel is shaken vigorously, or if a small crystal of hypo is freshly added, then crystallization starts immediately.

Making artificial rain is a similar way of intervening in the super cooling phenomenon.

The process involved in artificial rain-making involves three easy-to-understand stages. The first stage is agitation. That is using chemicals to stimulate the air mass upwind of the target area to rise and form rain clouds.

The chemicals used during this stage are calcium chloride calcium carbide, calcium oxide, a compound of salt and urea, or a compound of urea and ammonium nitrate. These compounds are capable of absorbing water vapour from the air mass, thus stimulating the condensation process.

The second stage is called building-up stage. Here the cloud mass is built up using chemicals such as kitchen salt, the T.1 formula, urea, ammonium nitrate, dry ice, and occasionally also calcium chloride to increase nuclei which also increase the density of the clouds. In the third stage of bombardment chemicals such as super-cool agents: silver iodide and dry ice are used to reach the most unbalanced status which builds up large beads of water (Nuclei) and makes them fall down as raindrops.

In planning every stage a high degree of expertise and experience is required, in selecting the types and amounts of chemicals to be used, while taking into consideration weather conditions, topographical conditions, wind direction and velocity as well as the location or delimitation of the area for chemical seeding. Several other ideas are also involved in rain making. Rockets containing rain-making chemicals can be fired into the clouds either from the ground or from aircraft.

A jet of rain-making chemicals is shot from a highly pressurised cannister directly into the cloud base, so as to coerce clouds which normally hang above mountain tops to cluster up and rain on the mountain or their slopes.

Rain-making chemicals are added to super-cooled clouds, i.e., those at altitudes above 18,000 metres, to stimulate the formation of ice crystals in the cloud or cloud cluster.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฝนเทียมผลิตพ่นเมฆด้วยสารเช่นซิลเวอร์ไอโอไดด์ (ราคาแพง) หรือคนที่ถูกกว่าเช่นคาร์บอนไดออกไซด์แข็ง (น้ำแข็งแห้ง) หรือแม้แต่ละเอียดโซเดียมคลอไรด์ เรียกกระบวนการปลูก มักจะมีเมฆ แต่ฝนไม่ นี้เป็น เพราะปรากฏการณ์ที่เรียกว่า supercooling อุณหภูมิของเมฆอาจอยู่ใกล้กับศูนย์ และอาจจะมีผลึกของน้ำแข็งใน ไอน้ำในเมฆไม่บีบน้ำของเหลว ซูเปอร์เย็นได้รับการรบกวน โดย cloud ฉีดพ่นด้วยสารเคมีดังกล่าวข้างต้น ใช้เครื่องบินขนาดเล็กของวัตถุประสงค์ 'ซุปเปอร์' ปรากฏการณ์ (ทำความเย็น ความร้อน ความเข้มฯลฯ) มี perverse ในความรู้สึก น้ำบริสุทธิ์มากเมื่อความร้อนในเรือสะอาด มักจะเริ่มเดือดเมื่อคาดว่าอยู่ ผลึกของของช่างภาพสำหรับผู้เป็นภูมิ (โซเดียม thiosulphate) ได้ละลายในน้ำได้เล็กน้อยเมื่อผ่านความร้อน แต่ในการทำความเย็น ผลึกไม่แยกออก ถ้าเขย่าเรือดั่ง หรือ ถ้าสดจะเพิ่มคริสตัลขนาดเล็กของ hypo ภูมิ แล้วตกผลึกเริ่มต้นทันที ทำฝนเทียมเป็นวิธีคล้ายกันของอยู่ระหว่างกลางในปรากฏการณ์ซูเปอร์ระบายความร้อน กระบวนการที่เกี่ยวข้องในการทำฝนเทียมเกี่ยวข้องกับสามขั้นตอนให้เข้าใจง่าย ระยะแรกมีอาการกังวลต่อ ที่ใช้สารเคมีไปกระตุ้นมวลอากาศเหนือลมของพื้นที่เป้าหมาย การขึ้นเป็นเมฆฝน สารเคมีที่ใช้ในระหว่างขั้นตอนนี้เป็นแคลเซียมไฮไดรด์แคลเซียมคลอไรด์ แคลเซียมออกไซด์ สารประกอบของเกลือและยูเรีย หรือผสมยูเรียและแอมโมเนีย สารเหล่านี้มีความสามารถในการดูดไอน้ำจากมวลอากาศ กระตุ้นกระบวนการควบแน่นดังนั้น ขั้นตอนสองคือขั้นสร้างขึ้น นี่เมฆมวลถูกสร้างขึ้นโดยใช้สารเคมีเกลือครัว T.1 สูตร ยูเรีย แอมโมเนีย น้ำแข็งแห้ง และบางครั้งยังแคลเซียมคลอไรด์เพิ่มแอลฟาซึ่งยัง เพิ่มความหนาแน่นของเมฆ ในขั้นตอนที่ 3 ระดมยิงสารเคมีเช่นตัวแทนเตอร์รุ่นเย็น: ซิลเวอร์ไอโอไดด์และน้ำแข็งแห้งใช้ถึงสถานะสมดุลมากที่สุดซึ่งสร้างเม็ดใหญ่น้ำ (แอลฟา) และทำให้พวกเขาลดลงเป็นฝน ในการวางแผนทุกขั้นตอนระดับสูงของความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เป็นสิ่งจำเป็น ในการเลือกชนิดและจำนวนสารเคมีที่จะใช้ ในขณะที่พิจารณาพิจารณาสภาพ เงื่อนไข topographical ลมทิศทาง และความเร็วเป็นที่ตั้ง หรือกำหนดเขตของพื้นที่สำหรับปลูกเคมี หลายความคิดอื่น ๆ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องในการทำฝน สามารถจะยิงจรวดที่ประกอบด้วยสารเคมีทำฝนในก้อนเมฆ จากพื้นดิน หรือ จากเครื่องบิน เจ็ทของสารเคมีทำฝนจะยิงจาก cannister pressurised สูงฐานเมฆ เพื่อบังคับเมฆซึ่งปกติวางบนภูเขาการคลัสเตอร์ค่าฝนบนภูเขาหรือการลาด ลง สารเคมีทำฝนบวกกับเมฆเย็น ๆ เตอร์รุ่น เช่น ผู้ที่ระดับความสูงเหนือ 18000 เมตร กระตุ้นการก่อตัวของผลึกน้ำแข็งในเมฆหรือเมฆคลัสเตอร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฝนเทียมที่ผลิตโดยการฉีดพ่นด้วยสารซิลเวอร์ไอโอไดด์ เหมือนเมฆ ( แพง ) หรือถูกกว่า เช่น คาร์บอนไดออกไซด์แข็ง ( น้ำแข็งแห้ง ) หรือผงละเอียด โซเดียม คลอไรด์ กระบวนการนี้เรียกว่าการเพาะ .

มักจะมีเมฆฝน แต่ไม่มีฝน นี้เป็นเพราะเป็นปรากฏการณ์ ซุปเปอร์คูลลิง .อุณหภูมิของเมฆอาจจะเข้าใกล้ศูนย์ และคงจะผลึกน้ำแข็งใน

น้ำไอในเมฆไม่รวมตัวกับน้ำ ของเหลว เย็นสุดถูกรบกวนโดยการฉีดพ่นเมฆด้วยสารเคมีที่กล่าวข้างต้น การใช้เครื่องบินขนาดเล็กสำหรับวัตถุประสงค์

' ' ( Super ปรากฏการณ์ความเย็น , ความร้อน , ความอิ่มตัว ฯลฯ ) เป็นหนึ่งในความรู้สึกน้ำเมื่อได้รับความร้อนในภาชนะสะอาดบริสุทธิ์มาก มักจะไม่ได้เริ่มเดือดเมื่อคาดว่า ผลึกของใต้ของช่างภาพ ( โซเดียมไทโอซัลเฟต ) ละลายในน้ำเล็กน้อยได้ง่ายเมื่อถูกความร้อน แต่ในเย็น , คริสตัลไม่ได้แยกออก

ถ้าเรือถูกเขย่าอย่างแรง หรือถ้าเป็นคริสตัลเล็กๆใต้เพิ่มสดๆร้อนๆ แล้วตกผลึกเริ่มทันที

สร้างฝนเทียมคือลักษณะของการแทรกแซงในปรากฏการณ์ความเย็นสุด

กระบวนการที่เกี่ยวข้องในการเกี่ยวข้องกับฝนเทียม 3 ง่ายที่จะเข้าใจขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือการกวน นั่นคือการใช้สารเคมีกระตุ้นให้มวลอากาศเหนือลมของพื้นที่เป้าหมายที่จะเพิ่มขึ้นและรูปแบบเมฆฝน

และสารเคมีที่ใช้ในขั้นตอนนี้เป็นแคลเซียม คลอไรด์ แคลเซียม คาร์ไบด์ ,แคลเซียม ออกไซด์ สารประกอบของเกลือและยูเรีย หรือผสมปุ๋ยยูเรียและแอมโมเนียไนเตรท . สารเหล่านี้มีความสามารถในการดูดซับไอน้ำจากอากาศ ดังนั้นการกระตุ้นกระบวนการควบแน่น

ช่วงที่สอง เรียกว่า สร้างเวที ที่นี่เมฆขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้สารเคมี เช่น เกลือห้องครัว t.1 สูตรยูเรีย แอมโมเนียไนเตรต , น้ำแข็งแห้งและบางครั้งยังเพิ่มแคลเซียม คลอไรด์กับนิวเคลียสซึ่งยังเพิ่มความหนาแน่นของเมฆ ในขั้นตอนที่ 3 โจมตี สารเคมี เช่น ตัวแทนซูเปอร์เย็น : ซิลเวอร์ไอโอไดด์ และน้ำแข็งแห้งที่ใช้ถึงสมดุลที่สุดสถานะซึ่งสร้างขนาดใหญ่ลูกปัดน้ำ ( นิวเคลียส ) และทำให้พวกเขาตกลงมาเป็นหยดน้ำฝน

ในการวางแผนทุกขั้นตอนระดับสูงของความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่ถูกต้อง ในการเลือกชนิดและปริมาณของสารเคมีที่จะใช้ ในขณะที่การพิจารณาเงื่อนไขในเงื่อนไขที่ สภาพอากาศ ภูมิประเทศ ทิศทางและความเร็วของลม ตลอดจนสถานที่ หรือจำนวนของพื้นที่ทางเคมีเมล็ด . ความคิดอื่น ๆหลายที่เกี่ยวข้องในฝนทำจรวดที่มีสารเคมีฝนหลวงสามารถยิงเข้าไปในเมฆทั้งจากพื้นดินหรือจากอากาศยาน

เจ็ทของสารเคมีที่ทำให้ฝนมียิงจากเครื่องบินเข้าไปในเมฆสูง cannister ฐาน เพื่อบีบบังคับให้เมฆซึ่งโดยปกติแขวนเหนือยอดภูเขากลุ่มขึ้น และฝนตกบนภูเขาหรือเนินเขาของพวกเขา

ฝนหลวงสารเคมีที่มีการเพิ่มซูเปอร์เย็นเมฆ .อี พวก ที่ระดับความสูงเหนือ 9 , 000 เมตร เพื่อกระตุ้นการสร้างผลึกน้ำแข็งในเมฆหรือกลุ่มเมฆ