The OSCE traces its origins to the

The OSCE traces its origins to the détente phase of the early 1970s, when the Conference on Security and Co-operation in Europe (CSCE) was created to serve as a multilateral forum for dialogue and negotiation between East and West. Meeting over two years in Helsinki and Geneva, the CSCE reached agreement on the Helsinki Final Act, which was signed on 1 August 1975. This document contained a number of key commitments on polito-military, economic and environmental and human rights issues that became central to the so-called 'Helsinki process'. It also established ten fundamental principles (the 'Decalogue') governing the behaviour of States towards their citizens, as well as towards each other.

Until 1990, the CSCE functioned mainly as a series of meetings and conferences that built on and extended the participating States' commitments, while periodically reviewing their implementation. However, with the end of the Cold War, the Paris Summit of November 1990 set the CSCE on a new course. In the Charter of Paris for a New Europe, the CSCE was called upon to play its part in managing the historic change taking place in Europe and responding to the new challenges of the post-Cold War period, which led to its acquiring permanent institutions and operational capabilities.

As part of this institutionalization process, the name was changed from the CSCE to the OSCE by a decision of the Budapest Summit of Heads of State or Government in December 1994.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โอเอสร่องรอยต้นกำเนิดไปยังเฟสdétenteของต้นปี 1970, เมื่อการประชุมด้านความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (CSCE) ถูกสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นเวทีพหุภาคีสำหรับการสนทนาและการเจรจาต่อรองระหว่างตะวันตกและตะวันออก การประชุมนานกว่าสองปีในเฮลซิงกิและเจนีวา, CSCE บรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับเฮลซิงกิสุดท้ายกระทำซึ่งลงนามเมื่อ 1 สิงหาคม 1975เอกสารนี้มีจำนวนของภาระผูกพันที่สำคัญใน Polito การทหารเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมและประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนที่กลายมาเป็นศูนย์กลางในการที่เรียกว่า 'กระบวนการเฮลซิงกิ' มันยังได้ก่อตั้งสิบหลักการพื้นฐาน ('บัญญัติสิบประการ') กำกับดูแลพฤติกรรมของรัฐที่มีต่อประชาชนของพวกเขาเช่นเดียวกับที่มีต่อแต่ละอื่น ๆ .

จนกระทั่งปี 1990CSCE ทำหน้าที่ส่วนใหญ่เป็นชุดของการประชุมและการประชุมที่สร้างขึ้นบนและขยายภาระผูกพันรัฐที่เข้าร่วมในขณะที่ระยะการทบทวนการดำเนินงานของพวกเขา แต่ด้วยการสิ้นสุดของสงครามเย็น, ปารีสยอดพฤศจิกายน 1990 ตั้ง CSCE ในหลักสูตรใหม่ ในกฎบัตรจาก paris ใหม่ยุโรปCSCE ถูกเรียกตัวไปเล่นเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในยุโรปและการตอบสนองต่อความท้าทายใหม่ ๆ ของระยะเวลาหลังสงครามเย็นซึ่งนำไปสู่​​การแสวงหาสถาบันที่ถาวรและความสามารถในการดำเนินงาน.

เป็นส่วนหนึ่งของสถ​​าบันนี้ กระบวนการเป็นชื่อที่เปลี่ยนจาก CSCE เพื่อโอเอสโดยการตัดสินใจของการประชุมสุดยอดบูดาเปสต์ของประมุขแห่งรัฐหรือรัฐบาลในธันวาคม 1994.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

OSCE การสืบค้นกลับกำเนิดระยะ détente ของทศวรรษ 1970 ก่อน เมื่อการประชุมความปลอดภัยและความร่วมมือในยุโรป (CSCE) สร้างขึ้นเพื่อเป็นเวทีพหุภาคีในการเจรจาและการเจรจาต่อรองระหว่างตะวันออกและตะวันตก การประชุมสองปีในเฮลซิงกิและเจนีวา CSCE ที่ถึงข้อตกลงในเฮลซิงกิสุดท้ายบัญญัติ การลงทะเบียนบน 1 1975 สิงหาคม เอกสารนี้ประกอบด้วยจำนวนภาระผูกพันที่สำคัญ polito การทหาร เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมและปัญหาสิทธิมนุษยชนที่เป็นศูนย์กลางเรียกว่า 'เฮลซิงกิกระบวนการ' ต่อสิบหลักการพื้นฐาน (' Decalogue') ควบคุมพฤติกรรมของรัฐ ต่อประชาชน และ ต่อกัน

จนถึงปี 1990 CSCE ที่แยกเป็นชุดของการประชุมและสัมมนาที่เน้น และขยายของอเมริกาเข้าร่วมผูกพัน ขณะที่ทบทวนการปฏิบัติการเป็นระยะ ๆ อย่างไรก็ตาม กับการสิ้นสุดของสงครามเย็น ยอดปารีส 1990 พฤศจิกายนได้ CSCE ในหลักสูตรใหม่ ในกฎบัตรของปารีสในยุโรปใหม่ CSCE ถูกเรียกเมื่อการเล่นเป็นส่วนหนึ่งในการจัดการการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ขึ้นยุโรปและตอบสนองความท้าทายใหม่ของช่วงสงครามเย็นหลัง ซึ่งนำไปสู่การหาถาวรสถาบันและความสามารถในการดำเนินงาน

เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้ institutionalization ชื่อถูกเปลี่ยนจาก CSCE OSCE การ โดยการตัดสินใจของบูดาเปสต์ซัมมิทของหัวของรัฐหรือรัฐบาลในเดือนธันวาคมปี 1994

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

osce

ที่ลายวงจรขาดต้นกำเนิดของโรงแรมในช่วงการผ่อนคลายความตึงเครียดระหว่างประเทศในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 s ที่เมื่อการประชุมในการรักษาความ ปลอดภัย และความร่วมมือในยุโรป( csce )ได้รับการจัดทำเพื่อเป็นแบบพหุ ภาคี เพื่อเป็นเวทีสำหรับการเจรจาต่อรองและโต้ตอบระหว่างตะวันออกและตะวันตก การประชุมผ่านไปสองปีใน Helsinki และเจนีวา csce ได้บรรลุข้อตกลงใน Helsinki สุดท้ายการกระทำที่ได้เซ็นสัญญาในวันที่ 1 สิงหาคม 1975เอกสารนี้มีอยู่จำนวนหนึ่งของข้อผูกพันในกระบวนการทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมและปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่กลายเป็นศูนย์กลางที่เรียกว่า' Helsinki polito - ทหาร' รวมทั้งมีสิบหลักการพื้นฐาน(' decalogue ')ซึ่งควบคุมการทำงานของรัฐไปสู่ประชาชนของตนและเข้าหากัน.

จนกว่า 1990csce ที่เต็มไปด้วยประโยชน์ใช้สอยเป็นหลักเป็นชุดของการประชุมและการประชุมที่สร้างขึ้นบนและขยายข้อผูกพันของรัฐที่เข้าร่วมในการตรวจสอบการนำไปใช้งานของตนเป็นระยะๆ แต่ถึงอย่างไรก็ตามยังพร้อมด้วยปลายที่เย็นของสงครามที่ Paris สุดยอดของเดือนพฤศจิกายน 1990 ตั้งค่า csce ในหลักสูตรใหม่ ในกฎบัตรของ Paris สำหรับยุโรปที่csce ที่ได้รับการเรียกว่าจะเล่นเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ในการบริหารจัดการการเปลี่ยนแปลงทางประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นในยุโรปและการตอบสนองความท้าทายใหม่ของช่วงหลัง - เย็นสงครามซึ่งนำไปสู่การซื้อของความสามารถในการทำงานและการกำกับสถาบันการเงินอย่างถาวร.

เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขบวนการนี้ชื่อที่ได้รับการเปลี่ยนแปลงจาก csce เพื่อ osce โดยการตัดสินใจของ Budapest สุดยอดของหัวโกนของรัฐหรือของรัฐบาลในเดือนธันวาคม 1994 ..