ndonesia is planning to boost its p

ndonesia is planning to boost its petrochemical industry and start exporting by 2016 thanks to two upstream petrochemical centers that will be constructed over the next couple of years, according to the Jakarta Post.

So far the country has mainly imported petrochemical products but the government is set to change this with the new industrial centers. They are planned to be located in Muara Enim, South Sumatra and Bintuni Bay, West Papua, the Industry Ministry's director general for manufacturing-based industry Panggah Susanto announced. The first center will focus on production of methanol and ammonia by processing natural gas and coal, whereas the second one will use natural gas to make methanol, polypropylene, polyethylene and ammonia, he explained. Each refinery is likely to cost between $4 billion and $5 billion, according to the Jakarta Post, and the government is determined to find investors by providing various incentives, including tax allowances and tax holidays.
However, plans for boosting Indonesia's petrochemical industry do not end there. The government also intends to support the development of oil refineries that could supply raw material for the upstream petrochemical centers in Cilegon, Banten; Tuban, East Java; and Bontang, East Kalimantan. The centre in Cilegon is currently using imported naphtha for its production, whereas the one in Tuban relies on imports of condensate.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ndonesia กำลังวางแผนที่จะเพิ่มการอุตสาหกรรมปิโตรเคมี และเริ่มการส่งออก โดย 2016 ด้วยสองขั้นต้นน้ำปิโตรเคมีศูนย์ที่จะสร้างเหนือคู่ต่อไปของปี ตามหนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์จนประเทศมีผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่นำเข้าปิโตรเคมี แต่รัฐบาลถูกตั้งค่าการเปลี่ยนแปลงนี้กับศูนย์อุตสาหกรรมใหม่ พวกเขาวางแผนจะอยู่ สุมาตราใต้ Muara Enim และ อ่าว Bintuni ปาปัวตะวันตก ผู้อำนวยการทั่วไปสำหรับอุตสาหกรรมการผลิต Panggah Susanto ประกาศของกระทรวงอุตสาหกรรม ตัวแรกจะเน้นการผลิตเมทานอลและแอมโมเนีย โดยก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน การประมวลผลในขณะที่สองจะใช้ก๊าซธรรมชาติเพื่อทำให้เมทานอล โพรพิลีน เอทิลีน และแอมโมเนีย เขาอธิบาย แต่ละโรงกลั่นมีแนวโน้มต้นทุนระหว่าง $4 พันล้านและ $5 ล้าน ตามหนังสือพิมพ์จาการ์ตาโพสต์ และรัฐบาลจะกำหนดหานักลงทุน โดยการให้สิ่งจูงใจต่าง ๆ รวมทั้งวันหยุดภาษีและหักภาษีอย่างไรก็ตาม แผนส่งเสริมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของอินโดนีเซียไม่สิ้นสุดมีการ รัฐบาลยังมีแผนการสนับสนุนการพัฒนาของผนังที่สามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับศูนย์ปิโตรเคมีขั้นต้นน้ำใน Cilegon บานเทน ทุก ชวาตะวันออก และ Bontang กาลิมันตันตะวันออก ศูนย์ Cilegon กำลังใช้แนฟทาที่นำเข้าสำหรับผลิต ในขณะที่หนึ่งในทุกอาศัยนำคอนเดนเสท

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ndonesia กำลังวางแผนที่จะเพิ่มการอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเริ่มต้นการส่งออกปี 2016 ขอบคุณสองศูนย์ปิโตรเคมีขั้นต้นที่จะถูกสร้างขึ้นในช่วงสองสามปีข้างหน้าตามที่จาการ์ต้าโพสต์. จนถึงขณะนี้ประเทศได้นำเข้าส่วนใหญ่ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี แต่รัฐบาลมีการตั้งค่า การเปลี่ยนแปลงนี้กับศูนย์อุตสาหกรรมใหม่ พวกเขามีการวางแผนที่จะตั้งอยู่ใน Muara Enim ใต้ของเกาะสุมาตราและ Bintuni อ่าวปาปัวตะวันตกที่ผู้อำนวยการทั่วไปของกระทรวงอุตสาหกรรมสำหรับอุตสาหกรรมการผลิตตาม Panggah Susanto ประกาศ ศูนย์แรกจะมุ่งเน้นไปที่การผลิตเมทานอลและแอมโมเนียโดยการประมวลผลก๊าซธรรมชาติและถ่านหินในขณะที่คนที่สองจะใช้ก๊าซธรรมชาติที่จะทำให้เมทานอลโพรพิลีเอทิลีนและแอมโมเนียเขาอธิบาย โรงกลั่นน้ำมันของแต่ละคนมีโอกาสที่จะเสียค่าใช้จ่ายระหว่าง $ 4000000000 และ 5000000000 $ ตามที่จาการ์ต้าโพสต์และรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะหานักลงทุนโดยการให้แรงจูงใจต่าง ๆ รวมทั้งค่าใช้จ่ายภาษีและวันหยุดภาษี. แต่แผนสำหรับการส่งเสริมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีของประเทศอินโดนีเซียไม่สิ้นสุด ที่นั่น รัฐบาลยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาของโรงกลั่นน้ำมันที่สามารถจัดหาวัตถุดิบสำหรับศูนย์ปิโตรเคมีขั้นต้นใน Cilegon, Banten; Tuban ในชวาตะวันออก; และบอนตัง, กาลิมันตันตะวันออก ศูนย์ Cilegon ในปัจจุบันคือการใช้แนฟทาที่นำเข้าสำหรับการผลิตในขณะที่หนึ่งใน Tuban อาศัยการนำเข้าคอนเดนเสท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ndonesia วางแผนเพื่อเพิ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมีและเริ่มส่งออกโดย 2016 ขอบคุณสองต้นปิโตรเคมีศูนย์จะถูกสร้างขึ้นกว่าสองสามปีถัดไป , ตามจาการ์ตาโพสต์

จนประเทศส่วนใหญ่มีการนำเข้าผลิตภัณฑ์ ปิโตรเคมี แต่รัฐบาลชุดนี้เปลี่ยนกับอุตสาหกรรมใหม่ที่ศูนย์ พวกเขาวางแผนที่จะตั้งอยู่ใน Muara ให้ ,ใต้เกาะสุมาตราและ bintuni อ่าวเวสต์ปาปัว , ผู้อำนวยการทั่วไปของกระทรวงอุตสาหกรรมตามการผลิตอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ panggah ) ศูนย์แรกจะมุ่งเน้นในการผลิตเมทานอลและแอมโมเนีย โดยการประมวลผลก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน ในขณะที่หนึ่งที่สองจะใช้ก๊าซธรรมชาติให้เมทานอล , โพรพิลีน , พลาสติกและแอมโมเนีย เขาอธิบายแต่ละโรงกลั่นมีแนวโน้มที่จะเสียค่าใช้จ่ายระหว่าง $ 4 พันล้านและ $ 5 พันล้าน , ตามที่โพสต์จาการ์ตา และรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะหานักลงทุนโดยการให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ รวมทั้งเงินภาษีและวันหยุดภาษี .
แต่แผนเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีในอินโดนีเซียไม่สิ้นมีรัฐบาลยังมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการพัฒนาของโรงกลั่นน้ำมันที่สามารถจัดหาวัตถุดิบปิโตรเคมีต้นน้ำและ cilegon สมัยวิกตอเรีย ; , ที่ชวาตะวันออก และจำนวน ตะวันออกกาลิมันตัน . ศูนย์ใน cilegon ปัจจุบันการใช้แนฟทาที่นำเข้าเพื่อผลิต ส่วน หนึ่ง ใน ตูบัน ต้องอาศัยการนำเข้า ) .