OILThe 1989 oil spill from the grou

OIL
The 1989 oil spill from the grounding of the oil tanker Exxon Valdez, still the largest such spill in U.S. history, is infamous for the devastation it caused to the fragile marine wildlife in Alaska’s Prince William Sound. The tanker spilled approximately 11 million gallons of its 53-million-gallon cargo of crude oil, killing an estimated 900 bald eagles, 250,000 seabirds, 2,800 sea otters, 300 harbor seals and uncounted fish and invertebrates. Massive cleanup efforts removed much of the visible crude oil within a year, but the slow release of the remaining oil has continued to affect populations of local marine
plants and animals to this day. Although alternative energy sources are being pursued,oil is expected to remain the dominant fuel for at least the next couple of decades. Energy demands continue to rise as population increases and the developing world becomes more industrialized. Worldwide petroleum
consumption is projected to rise sharply over the next few decades, with the largest rate of growth in China,India, and other developing Asian nations.


The National Research Council report Oil in the Sea III:Inputs, Fates, and Effects (2003) developed a new methodology for estimating petroleum inputs to the sea from both natural and human sources (see figure at right). Oil inputs from human activities are categorized as those that originate from: petroleum extraction, exploration, and production activities; petroleum transportation,including tanker spills and petroleum use,including runoff from highways and discharges from recreational vehicles.
Although people often associate oil in the ocean with tanker accidents, natural seeps are the largest single
source of oil in the sea, accounting for about 60 percent of the total in North American waters and 45 percemt worldwide. Seeps form when crude oil oozes into the water from geologic formations beneath the seafloor. Oil and gas extraction activities are often concentrated inregions where seeps form.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

น้ำมัน
1989 น้ำมันหกจากจากดินของบรรทุกน้ำมัน Exxon วาลเดซมิ ยังใหญ่ดังกล่าวรั่วไหลในประวัติศาสตร์อเมริกา อับอายในภายหลังจากที่มันเกิดจากสัตว์ป่าทางทะเลเปราะบางในอลาสก้าของเจ้าชาย William เสียง บรรทุกที่หกสินค้า 53 ล้านแกลลอนน้ำมันดิบ ฆ่าตัวประมาณ 900 หัวโล้นอีเกิลแลนดิง seabirds 250000, 2800 นากทะเล ประมาณ 11 ล้านแกลลอน 300 ท่าแมวน้ำ และปลา uncounted และ invertebrates พยายามล้างใหญ่เอามากน้ำมันดิบสามารถมองเห็นได้ภายในปี แต่ออกช้าของน้ำมันเหลือได้อย่างต่อเนื่องจะส่งผลกระทบต่อประชากรของท้องถิ่นทะเล
พืชและสัตว์นี้ แม้ว่าจะถูกติดตามแหล่งพลังงานทดแทน น้ำมันคาดว่าจะยังคง เชื้อเพลิงหลักสำหรับน้อยคู่ถัดไปของทศวรรษที่ผ่านมา ต่อความต้องการพลังงานจะเพิ่มขึ้นเป็นการเพิ่มขึ้นของประชากร และประเทศกำลังพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น ปิโตรเลียมทั่วโลก
การใช้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถัดไปไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา มีอัตราการเจริญเติบโตในประเทศจีน อินเดีย และอื่น ๆ พัฒนาประเทศเอเชียที่ใหญ่ที่สุด


สภาวิจัยแห่งชาติรายงานน้ำมันในทะเล III:Inputs, Fates และผลกระทบ (2003) พัฒนาวิธีใหม่สำหรับการประเมินอินพุตปิโตรเลียมในทะเลจากแหล่งธรรมชาติ และมนุษย์ (ดูรูปขวา) จัดประเภทน้ำมันอินพุตจากกิจกรรมที่มนุษย์เป็นผู้ที่มาจาก: สกัดน้ำมัน สำรวจ และ กิจกรรมการผลิต ขนส่งน้ำมัน บรรทุกหกรั่วไหลและใช้น้ำมันจากทางหลวงและปล่อยจากรถยนต์อเนกประสงค์
ถึงแม้ว่าคนมักจะเชื่อมโยงน้ำมันในมหาสมุทรกับอุบัติเหตุบรรทุก seeps ธรรมชาติเดียวที่ใหญ่ที่สุด
แหล่งน้ำมันในทะเล บัญชีประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ของผลรวมในอเมริกาเหนือน้ำทะเลและ 45 percemt ทั่วโลก Seeps แบบฟอร์มเมื่อน้ำมันดิบ oozes น้ำจากก่อตัวธรณีวิทยาใต้ seafloor กิจกรรมการสกัดน้ำมันและก๊าซธรรมชาติมักเข้มข้น inregions ที่ seeps แบบฟอร์ม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

น้ำมัน
รั่วไหลของน้ำมันจาก 1,989 ดินของเรือบรรทุกน้ำมันเอ็กซอนวาลเดซยังคงรั่วไหลดังกล่าวที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของอเมริกาเป็นที่น่าอับอายสำหรับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับสัตว์ป่าทะเลที่เปราะบางในอลาสกาของเจ้าชายวิลเลี่ยมเสียง เรือบรรทุกน้ำมันที่รั่วไหลประมาณ 11 ล้านแกลลอนของสินค้า 53 ล้านแกลลอนของน้ำมันดิบฆ่าประมาณ 900 ล้านอินทรี 250,000 นกทะเล, 2,800 นากทะเล, 300 อ่าวแมวน้ำและปลาไม่ได้นับและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง ความพยายามในการทำความสะอาดใหญ่ออกมากน้ำมันดิบที่มองเห็นภายในปี แต่การเปิดตัวช้าของน้ำมันที่เหลือยังคงส่งผลกระทบต่อประชากรของทางทะเลในท้องถิ่น
พืชและสัตว์มาจนถึงทุกวันนี้ แม้ว่าแหล่งพลังงานทางเลือกมีการติดตามน้ำมันที่คาดว่าจะยังคงเป็นเชื้อเพลิงที่โดดเด่นเป็นเวลาอย่างน้อยอีกสองสามทศวรรษที่ผ่านมา ความต้องการพลังงานยังคงเพิ่มขึ้นในขณะที่การเพิ่มขึ้นของประชากรและการพัฒนาทั่วโลกจะกลายเป็นอุตสาหกรรมมากขึ้น ปิโตรเลียมทั่วโลก
การบริโภคคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมาต่อไปและมีอัตราการที่ใหญ่ที่สุดของการเจริญเติบโตในประเทศจีน, อินเดีย, และอื่น ๆ ที่พัฒนาประเทศในเอเชียน้ำมันรายงานสภาวิจัยแห่งชาติในทะเล iii: ปัจจัยการผลิต, ชะตากรรมและผล (2003 ) พัฒนาวิธีการใหม่สำหรับการประเมินปัจจัยการผลิตปิโตรเลียมในทะเลจากทั้งสองแหล่งธรรมชาติและมนุษย์ (ดูรูปขวา) ปัจจัยการผลิตน้ำมันจากกิจกรรมของมนุษย์มีการแบ่งประเภทเป็นผู้ที่มาจากการสกัดน้ำมันปิโตรเลียมสำรวจและกิจกรรมการผลิต; การขนส่งปิโตรเลียมรวมทั้งการรั่วไหลของน้ำมันและการใช้น้ำมันรวมทั้งไหลบ่ามาจากทางหลวงและการปล่อยของเสียจากยานพาหนะที่พักผ่อนหย่อนใจแม้ว่าผู้คนมักจะเชื่อมโยงน้ำมันในมหาสมุทรกับการเกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกน้ำมันที่โชยธรรมชาติเดียวที่ใหญ่ที่สุดแหล่งที่มาของน้ำมันในทะเลบัญชีประมาณ 60 เปอร์เซ็นต์ จากทั้งหมดในน่านน้ำอเมริกาเหนือและ 45 percemt ทั่วโลก ซึมรูปแบบเมื่อน้ำมันดิบ oozes ลงไปในน้ำจากแร่ก่อตัวอยู่ใต้ก้นทะเล กิจกรรมน้ำมันและก๊าซมักจะมีความเข้มข้น inregions ที่ซึมรูปแบบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

น้ำมัน
1989 น้ำมันรั่วไหลจากเรือบรรทุกดินของน้ำมันเอ็กซอนวาลเดซรั่วไหลดังกล่าวยังคงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา เป็นที่น่าอับอายสำหรับความเสียหายที่เกิดกับสัตว์ป่าทางทะเลที่เปราะบางในอลาสก้า เจ้าชายวิลเลี่ยมเสียง น้ำมันรั่วไหลประมาณ 11 ล้านแกลลอนของ 53 ล้านแกลลอนของน้ำมันดิบสินค้าฆ่าประมาณ 900 นกอินทรีหัวล้าน , 250 , 000 นกทะเล ) ทะเลนากแมวน้ำท่าเรือไม่ได้นับ 300 และปลาและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง . ความพยายามล้างใหญ่เอาออกมากของน้ำมันดิบที่มองเห็นได้ภายในหนึ่งปี แต่ช้าปล่อยน้ำมันที่เหลือยังคงส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรของพืชท้องถิ่นและสัตว์ทะเล
วันนี้ แม้ว่าแหล่งพลังงานทางเลือกจะถูกตามล่า น้ำมันที่คาดว่าจะยังคงเป็นเชื้อเพลิงเด่นอย่างน้อยในอีกสองทศวรรษที่ผ่านมาความต้องการใช้พลังงานยังคงเพิ่มขึ้นตามการเพิ่มของประชากร และการพัฒนาของโลกกลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมมากขึ้น การบริโภคปิโตรเลียม
ทั่วโลกคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา มีอัตราการขยายตัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน อินเดีย และประเทศในเอเชียอื่น ๆการพัฒนา


รายงานสภาวิจัยแห่งชาติน้ำมันในทะเล 3 : ปัจจัยการผลิต , โชคชะตาและผลกระทบ ( 2003 ) ได้พัฒนาวิธีการใหม่ในการประมาณค่าปิโตรเลียมในทะเลทั้งจากแหล่งธรรมชาติและมนุษย์ ( ดูรูปขวา ) น้ำมันนำเข้าจากกิจกรรมของมนุษย์เป็นหลัก เช่นผู้ที่มาจากการสกัด , การสำรวจปิโตรเลียม และกิจกรรมการผลิต การขนส่งปิโตรเลียม รวมทั้งน้ำมันรั่วไหลและการใช้ปิโตรเลียมรวมทั้งไหลบ่าจากทางหลวงและการปล่อยจากยานนันทนาการ .
ถึงแม้ว่าผู้คนมักจะเชื่อมโยงกับการเกิดอุบัติเหตุเรือบรรทุกน้ำมันในทะเล , ธรรมชาติ seeps เป็นที่ใหญ่ที่สุดเดียว
แหล่งน้ำมันในทะเลคิดเป็น 60 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมดในน่านน้ำของอเมริกาเหนือ และ 45 percemt ทั่วโลก ส่องฟอร์มเมื่อน้ำมัน oozes ลงไปในน้ำจากหินใต้พื้นน้ำน้ำมันสกัดเข้มข้น inregions มักจะเป็นกิจกรรมที่ seeps

แบบฟอร์ม