Restriction Endonuclease Analysis (

Restriction Endonuclease Analysis (REA) was used to identify C. difficilebaseline isolates in the BI group, isolates associated with increasing rates and severity of CDAD in the US in the years prior to the clinical trials. Similar rates of clinical response at the end of treatment and proven or suspected CDAD during the follow-up period were seen in fidaxomicin-treated and vancomycin-treated patients infected with a BI isolate. However, DIFICID did not demonstrate superiority in sustained clinical response when compared with vancomycin (Table 6).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การวิเคราะห์ข้อ จำกัด endonuclease (เรีย) ถูกนำมาใช้ในการระบุค difficilebaseline แยกที่อยู่ในกลุ่มที่สองที่แยกความสัมพันธ์กับอัตราการเพิ่มขึ้นและความรุนแรงของ Cdad ในเราในปีที่ผ่านมาก่อนที่จะมีการทดลองทางคลินิกอัตราที่คล้ายกันของการตอบสนองทางคลินิกที่ส่วนท้ายของการรักษาและ Cdad พิสูจน์หรือสงสัยว่าในช่วงระยะเวลาการติดตามผลที่เห็นในผู้ป่วยที่รับการรักษา fidaxomicin และ vancomycin รับการรักษาติดเชื้อแยกสอง แต่ dificid ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความเหนือกว่าในการตอบสนองทางคลินิกอย่างยั่งยืนเมื่อเทียบกับ vancomycin (ตารางที่ 6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สวทช Endonuclease จำกัดวิเคราะห์ (.) ถูกใช้เพื่อระบุ C. difficilebaseline isolates ในกลุ่ม BI, isolates ที่สัมพันธ์กับการเพิ่มอัตราและความรุนแรงของ CDAD ในสหรัฐอเมริกาในปีก่อนที่การทดลองทางคลินิก อัตราการตอบสนองทางคลินิกที่สิ้นสุดของการรักษาและ CDAD พิสูจน์ หรือสงสัยช่วงติดตามผลคล้ายที่เห็นในถือ ว่า fidaxomicin และ vancomycin รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อ BI isolate อย่างไรก็ตาม DIFICID ได้ไม่สาธิตปมในการตอบสนองทางคลินิก sustained เมื่อเปรียบเทียบกับ vancomycin (ตาราง 6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การจำกัดการวิเคราะห์ endonuclease (ก็พร้อมที่จะพัฒนาต่อไป)ใช้ในการระบุ difficilebaseline C .แยกในกลุ่ม BI ที่แยกที่เกี่ยวข้องกับการเพิ่มระดับความรุนแรงและมีอัตราค่าบริการของ cdad ในสหรัฐฯในปีก่อนเพื่อการทดลองทางคลินิกได้อัตราความเหมือนของการตอบสนองทางการแพทย์ในช่วงปลาย cdad หรือได้รับการพิสูจน์แล้วและการบำบัดในระหว่างช่วงเวลาทำตามที่ได้เห็นในผู้ป่วย fidaxomicin - ได้รับการปฏิบัติและ vancomycin - ได้รับการปฏิบัติที่ติดกับ BI ที่แยกต่างหาก แต่ถึงอย่างไรก็ตาม dificid ไม่ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการตอบสนองทางการแพทย์อย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับ vancomycin (โต๊ะ 6 )