3.4 Accounting Period or Periodicit

3.4 Accounting Period or Periodicity Assumption (PA) believes that the continuum of time can be subdivided
into a number of discrete time periods (accounting periods) (British Institute of Management Information (BIMI,
1984). According to Keynes (1980), in the long run we are all "dead", implies that the net income of a firm
prepared under this assumption (discrete time period), may not after all be realistic because of the presence of
inflation and changes in price level. He asserts that the net profit usually has the components of unrealized profit
or uncollectible realized revenue that may eventually go bad in the form of bad debts. The provision for losses
may however not cover the total debtors during the accounting period. Similarly, the fundamental problem, be it
in the short or long run, is the method of stock valuation. Stock valuation could be based on full cost or marginal
cost, straight-line or declining method, especially when the firm is operating either at full-capacity or undercapacity.
Where there is under-capacity utilization the absorption rate is likely to be high if the depreciable
amount is always high, it reduces the profit figure in the financial statements, vice-versa.
3.5 Operating conventions are classified into five as indicated below:
3.5.1 Historical cost Convention (HCC): Forms the basis of valuation used in the preparation of published
financial statements. That is, all assets are shown in the accounts at the cost of acquisition. The word 'cost', said
Horngren and George, (1990), is intricate, complex and confusing. This is because cost may mean different
things to different people at different time, place and event. They assert that cost is intricate when referred to as
expired or futuristic, production cost or period cost, direct or indirect cost. It is complex when referred to as
variable cost, fixed cost, semi variable cost, semi fixed cost, marginal cost, absorption cost, sunk cost,
conversion cost and opportunity cost. Confusion may arise when certain cost attributes are not or are to be
capitalized for purpose of assets valuation. They added that if asset was acquired under a given scenario, two
different accountants may arrive at different value judgment about the asset as follows: (Pyle et al, 1988).
$
Purchase cost x
Agreement fee x
Installation charges x
Improvement cost x
Development cost x
Total cost x
Since assets are valued at historical cost, for purpose of income determination, the confusion may arise if
purchase cost or part therein or total cost is regarded as historical cost. The net book value arrived at as a result
of deducting depreciation charges based on different depreciation methods may be different, hence the
difference in net profit, (Okoye, 1997).
3.5.2 Realization Convention (RC): It suggests that it is when contractual relationship between the buyer and
the seller was completed that the amount of revenue is recognized and recorded in the books of accounts but not
necessarily when cash is collected. Turpin and Stein, (1986) assert that accounting period imposes serious
problem to realization principle as the entity needs to have recognized the transactions during the accounting
period but not when contractual relationship was completed. The problem was further stressed by American
Accounting Association (1965) as thus: an entity produced motor van in year one for $30,000, stores it through
in second year, sells it in third year for $60,000 and collected cash in the fourth year. Realization convention
argued that the revenue and profit element of $60,000 and $30,000 respectively are realized in the third year
when the contract of sale was completed, but not in the accounting period - year one. Confusion may arise when
revenue is realized on production basis rather than when goods may have been sold or service discharged,
especially as in the case of government contracts. Sometimes, contracts may last over and above the accounting
period and revenue may be recognized on the basis of the extent of work done or production, Hylton, (1965).
3.5.3 Matching Convention (MC_): Leads to the matching of entity's revenue generated with the expenses
incurred. The matching process also deals with the allocation of capital costs between periods. The combination
of the matching principles with that of realization gives rise to the accruals system of accounting, Hylton (1965).
This means that profit will be recorded at the point of sales, whether cash is received or not. Similarly, the
matching principle leads to the association of an expense with the revenue that it generated, irrespective of cash
payment connected with the expense. Profit or net income is however reported in the financial statements, when
costs consumed or incurred during the accounting period are matched with revenue realized either on cash or
accrual basis during the same accounting period.
3.5.4 Duality Convention (DC_): This is associated with the system of Double Entry Book-keeping

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3.4 บัญชีรอบระยะเวลาหรืออัสสัมชัญประจำงวด (PA) เชื่อว่า ความต่อเนื่องของเวลาสามารถปฐมภูมิเป็นระยะเวลาไม่ต่อเนื่อง (รอบระยะเวลาบัญชี) (ภาษาอังกฤษสถาบันการจัดการสารสนเทศ (BIMI1984) ตามคีย์เนส (1980), ในระยะยาวเราทั้งหมด "ตาย" หมายถึงการที่กำไรสุทธิของบริษัทจัดทำ (ระยะเวลาไม่ต่อเนื่อง) อัสสัมชัญนี้ หลังจากทั้งหมดไม่จริงเนื่องจากสถานะของอัตราเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงในระดับราคา เขายืนยันว่า กำไรสุทธิจะมีส่วนประกอบของกำไรที่ไม่เกิดขึ้นจริงหรือไม่สามารถเรียกเก็บรายได้จริงที่อาจในที่สุดไปไม่ดีในแบบของสูญ ส่วนสำรองสำหรับการขาดทุนอาจแต่ไม่ครอบคลุมลูกหนี้รวมในรอบระยะเวลาบัญชี ในทำนองเดียวกัน พื้นฐานปัญหา ไม่ว่าจะเป็นในการใช้งานสั้น หรือยาว เป็นวิธีการประเมินค่าสินค้าคงคลัง สามารถใช้ประเมินค่าสินค้าคงคลังต้นทุนเต็ม หรือกำไรต้นทุน เส้นตรง หรือลดลงวิธี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อบริษัทดำเนินงานอย่างเต็มกำลังหรือ undercapacityมีกำลังการผลิตน้อยใช้ อัตราการดูดซึมมีแนวโน้มที่จะสูงหากการคิดค่าเสื่อมราคายอดจะสูง ตัวเลขกำไรในงบการเงิน ลดกลับ3.5 แผนปฏิบัติจะแบ่งเป็นห้าตามที่ระบุด้านล่าง:3.5.1 ประวัติศาสตร์ทุนประชุม (คาร์โล): แบบฟอร์มข้อมูลพื้นฐานของค่าที่ใช้ในการจัดทำเผยแพร่งบการเงิน นั่นคือ สินทรัพย์ทั้งหมดจะแสดงในบัญชีค่าซื้อ กล่าวว่า คำว่า 'ต้นทุน'จอร์จ และ Horngren (1990), ไม่ซับซ้อน ซับซ้อน และสับสน ทั้งนี้เนื่องจากต้นทุนอาจหมายถึงแตกต่างกันสิ่งที่คนอื่นที่เวลาต่าง ๆ สถานที่ และเหตุการณ์ พวกเขายืนยันรูปว่า ทุนซับซ้อนเมื่อเรียกว่าต้นทุนการผลิตหมดอายุ หรือ อนาคต หรือคำนวณ ต้นทุนทางตรง หรือทางอ้อม มันมีความซับซ้อนเมื่อเรียกว่าต้นทุนผันแปร คงต้นทุน ต้นทุนกึ่งผันแปร ต้นทุนกึ่งคงที่ ต้นทุนกำไร ต้น ทุน การดูดซึมจมทุนการแปลงต้นทุนและต้นทุนของโอกาส ความสับสนที่อาจเกิดขึ้น เมื่อแอตทริบิวต์ต้นทุนบางอย่างไม่ต้องบันทึกสำหรับวัตถุประสงค์ของการประเมินค่าสินทรัพย์ พวกเขาเพิ่มที่ถ้าซื้อสินทรัพย์ภายใต้สถานการณ์ที่กำหนด สองผู้จัดทำบัญชีที่แตกต่างกันอาจมาพิพากษาค่าต่าง ๆ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดังนี้: (พีย์ et al, 1988) ได้ $ซื้อต้นทุน xข้อตกลงการให้ค่า xค่าธรรมเนียมการติดตั้ง xปรับปรุงค่าใช้จ่าย xการพัฒนาต้นทุน xต้นทุนรวม xเนื่องจากสินทรัพย์มีการประเมินต้นทุนในอดีต วัตถุประสงค์ของการกำหนดรายได้ ความสับสนที่อาจเกิดขึ้นถ้าต้นทุนซื้อ หรือส่วน therein รวมต้นทุนถือเป็นต้นทุนในอดีต มูลค่าตามบัญชีสุทธิถึงเป็นผลของการหักค่าเสื่อมราคา ค่าธรรมเนียมขึ้นอยู่กับวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาแตกต่างกันอาจจะแตกต่าง ดังนั้นการความแตกต่างในกำไรสุทธิ, (Okoye, 1997)3.5.2 ภาพกระทั่งประชุม (RC): แนะนำว่า เป็นเมื่อความสัมพันธ์ตามสัญญาระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายเสร็จว่า จำนวนของรายได้ที่รับรู้ และบันทึกไว้ในสมุดบัญชี แต่ไม่จำเป็นเมื่อเงินสดมีเก็บ สไตน์, (1986) และ Turpin ยืนยันรูปกำหนดรอบระยะเวลาบัญชีที่ร้ายแรงปัญหาหลักการรับรู้เป็นเอนทิตีต้องได้รับรู้ธุรกรรมระหว่างบัญชีที่รอบระยะเวลาแต่ไม่เมื่อความสัมพันธ์ตามสัญญาเสร็จ ปัญหาถูกเน้นเพิ่มเติมจากสหรัฐอเมริกาบัญชีสมาคม (1965) เป็นดัง: แวนมอเตอร์เป็นเอนทิตีที่ผลิตในปีหนึ่งสำหรับ $30000 เก็บไว้ผ่านทางในปีที่สอง ขายมันในปีที่สามสำหรับ $60000 และรวบรวมเงินสดในปีที่ 4 แผนการรับรู้โต้เถียงว่า องค์ประกอบรายได้และกำไรของ $60000 และ $30000 ตามลำดับจะรับรู้ในปีที่สามเมื่อสัญญาซื้อขายเสร็จสมบูรณ์ แต่ไม่ได้อยู่ในรอบระยะเวลาบัญชี - ปีหนึ่ง ความสับสนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อรายได้ที่เป็นจริง บนพื้นฐานการผลิต มากกว่าเมื่อสินค้าอาจมีการขาย หรือบริการ ออกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสัญญาภาครัฐ บางครั้ง สัญญาอาจสุดท้าย over and above การบัญชีรอบระยะเวลาและรายได้อาจได้รับการรับรองตามขอบเขตของงานที่ทำหรือผลิต Hylton, (1965)3.5.3 ตรงประชุม (MC_): ลูกค้าเป้าหมายตรงกันของเอนทิตีของรายได้กับค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น การจับคู่ยังเกี่ยวข้องกับการปันส่วนต้นทุนเงินทุนระหว่างรอบระยะเวลา การรวมกันหลักการจับคู่ด้วยของจริง ให้เพิ่มขึ้นเป็นระบบการรับรู้การบัญชี Hylton (1965)หมายความ ว่า กำไรจะถูกบันทึกในการขาย หน้าร้านว่ารับเงินสด หรือไม่ ในทำนองเดียวกัน การหลักการจับคู่นำไปสู่ความสัมพันธ์ของค่าใช้จ่ายกับรายได้ที่สร้างขึ้น ไม่ว่าเงินสดชำระเงินที่เชื่อมโยงกับค่าใช้จ่าย กำไรหรือรายได้สุทธิอย่างไรก็ตามรายงานในงบการเงิน เมื่อต้นทุนการบริโภค หรือเกิดขึ้นในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีตรงกับรายได้ที่เกิดขึ้นจริงทั้งเงินสด หรือเกณฑ์ค้างรับค้างจ่ายในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกัน3.5.4 ประชุมทวิภาวะ (DC_): นี่คือความเชื่อมโยงกับระบบการเก็บรักษารายการของห้องสมุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3.4 รอบระยะเวลาบัญชีหรือ Periodicity สัมชัญ (PA)
เชื่อว่าความต่อเนื่องของเวลาที่สามารถแบ่งเป็นหลายช่วงเวลาที่ไม่ต่อเนื่อง(ที่รอบระยะเวลาบัญชี) (อังกฤษสถาบันสารสนเทศเพื่อการจัดการ (Bimi,
1984). ตามที่คีนส์ (1980) ใน ระยะยาวเราทุกคน "ตาย" หมายความว่ารายได้สุทธิของ บริษัท
ที่จัดทำขึ้นภายใต้สมมติฐานนี้(ช่วงเวลาที่ไม่ต่อเนื่อง)
อาจไม่หลังจากทั้งหมดจะเป็นจริงเพราะการปรากฏตัวของอัตราเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงในระดับราคา. เขาอ้างว่าสุทธิ
กำไรมักจะมีส่วนประกอบของกำไรที่ยังไม่เกิดหรือรายได้ตระหนักเรียกเก็บเงินไม่ว่าในที่สุดอาจจะไปไม่ดีในรูปแบบของหนี้ที่ไม่ดี. บทบัญญัติสำหรับความสูญเสียที่อาจจะ แต่ไม่ครอบคลุมลูกหนี้รวมในช่วงรอบระยะเวลาบัญชี. ในทำนองเดียวกันปัญหาพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นในสั้นหรือระยะยาวเป็นวิธีการของการประเมินมูลค่าหุ้น. ประเมินราคาหุ้นอาจจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือส่วนเพิ่มค่าใช้จ่ายเส้นตรงหรือวิธีการที่ลดลงโดยเฉพาะเมื่อบริษัท มีการดำเนินงานอย่างใดอย่างหนึ่งที่มีความจุเต็มหรือ undercapacity. ในกรณีที่มีความเข้าใจ ใช้กำลังการผลิตอัตราการดูดซึมที่มีแนวโน้มที่จะสูงถ้าเสื่อมราคาจำนวนเงินที่สูงอยู่เสมอจะช่วยลดตัวเลขกำไรในงบการเงินในทางกลับกัน. 3.5 การประชุมการดำเนินงานจะแบ่งออกเป็นห้าตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้3.5.1 ราคาทุนเดิม ( HCC): รูปแบบพื้นฐานของการประเมินมูลค่าที่ใช้ในการเตรียมความพร้อมของการตีพิมพ์ในงบการเงิน นั่นคือสินทรัพย์ทั้งหมดที่แสดงในบัญชีค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการ คำว่า 'ค่าใช้จ่าย' กล่าวว่าHorngren และจอร์จ (1990) เป็นที่ซับซ้อนซับซ้อนและสับสน นี้เป็นเพราะค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันอาจหมายถึงสิ่งที่ผู้คนที่แตกต่างกันในเวลาที่แตกต่างกันสถานที่และเหตุการณ์ พวกเขาอ้างว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ซับซ้อนเมื่อเรียกว่าหมดอายุหรืออนาคตต้นทุนการผลิตหรือค่าใช้จ่ายในรอบระยะเวลาทางตรงหรือทางอ้อมค่าใช้จ่าย มันมีความซับซ้อนเมื่อเรียกว่าต้นทุนผันแปรต้นทุนคงที่ต้นทุนผันแปรกึ่งต้นทุนคงที่กึ่งต้นทุนค่าใช้จ่ายในการดูดซึมต้นทุนจมค่าใช้จ่ายในการแปลงและต้นทุนค่าเสียโอกาส ความสับสนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อค่าใช้จ่ายคุณลักษณะบางอย่างไม่ได้หรือจะได้รับทุนเพื่อวัตถุประสงค์ในการประเมินมูลค่าสินทรัพย์ เขาเสริมว่าถ้าสินทรัพย์ที่ได้มาภายใต้สถานการณ์ที่กำหนดให้ทั้งสองบัญชีที่แตกต่างกันอาจจะประสบความสำเร็จในการตัดสินค่าที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสินทรัพย์ดังนี้ (พีเล, et al, 1988). $ ค่าใช้จ่ายในการซื้อ x ค่าข้อตกลง x ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง x ปรับปรุงค่าใช้จ่าย x ค่าใช้จ่ายในการพัฒนา x รวมค่าใช้จ่าย x เนื่องจากสินทรัพย์มีมูลค่าราคาทุนเดิมเพื่อวัตถุประสงค์ในการกำหนดรายได้ที่อาจเกิดความสับสนเกิดขึ้นหากค่าใช้จ่ายในการซื้อหรือการเป็นส่วนหนึ่งในนั้นหรือค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะถือเป็นค่าใช้จ่ายทางประวัติศาสตร์ มูลค่าตามบัญชีสุทธิมาถึงที่เป็นผลมาจากการหักค่าเสื่อมราคาค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับวิธีการคิดค่าเสื่อมราคาที่แตกต่างกันอาจจะแตกต่างดังนั้นความแตกต่างของกำไรสุทธิ(Okoye, 1997). 3.5.2 การประชุมสำนึก (RC): มันแสดงให้เห็นว่ามันคือเมื่อ ความสัมพันธ์ตามสัญญาระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าปริมาณของรายได้ที่ได้รับการยอมรับและบันทึกไว้ในสมุดบัญชีแต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเงินสดเมื่อมีการเก็บรวบรวม Turpin และสไตน์ (1986) ยืนยันรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการกำหนดอย่างจริงจังปัญหาในการก่อให้เกิดหลักการที่เป็นนิติบุคคลจะต้องได้รับการยอมรับการทำธุรกรรมระหว่างบัญชีที่ระยะเวลาแต่ไม่เมื่อความสัมพันธ์ตามสัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ต่อไปโดยเน้นอเมริกันบัญชีสมาคม (1965) เป็นดังนี้: กิจการผลิตรถยนต์ในหนึ่งปีราคา $ 30,000 มันผ่านร้านค้าในปีที่สอง, ขายมันในปีที่สามสำหรับ $ 60,000 และรวบรวมเงินสดในปีที่สี่ ก่อให้เกิดการประชุมที่ถกเถียงกันอยู่ว่าองค์ประกอบที่รายได้และกำไรของ $ 60,000 $ 30,000 ตามลำดับจะตระหนักในปีที่สามเมื่อสัญญาของการขายเสร็จสมบูรณ์แต่ไม่ได้อยู่ในรอบระยะเวลาบัญชี - หนึ่งปี ความสับสนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อรายได้ที่จะรู้เกี่ยวกับพื้นฐานการผลิตมากกว่าเมื่อสินค้าอาจมีการขายหรือบริการที่ปล่อยออกมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสัญญารัฐบาล บางครั้งการทำสัญญาอาจจะเหนือกว่าและการบัญชีระยะเวลาและรายได้อาจจะได้รับการยอมรับบนพื้นฐานของขอบเขตของงานที่ทำหรือการผลิตที่ฮิลตัน (1965). 3.5.3 การจับคู่การประชุม (MC_) นำไปสู่การจับคู่ของรายได้ของกิจการ สร้างขึ้นด้วยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ขั้นตอนการจับคู่ยังเกี่ยวข้องกับการจัดสรรค่าใช้จ่ายทุนระหว่างงวด การรวมกันของหลักการที่ตรงกันกับที่ก่อให้เกิดการก่อให้เกิดระบบการคงค้างของบัญชีฮิลตัน (1965). ซึ่งหมายความว่ากำไรจะถูกบันทึกไว้ที่จุดของการขายไม่ว่าจะเป็นเงินสดจะได้รับหรือไม่ ในทำนองเดียวกันหลักการจับคู่นำไปสู่ความสัมพันธ์ของค่าใช้จ่ายกับรายได้ที่จะสร้างขึ้นได้โดยไม่คำนึงถึงเงินสดชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย กำไรหรือรายได้สุทธิมีรายงาน แต่ในงบการเงินเมื่อค่าใช้จ่ายในการบริโภคหรือเกิดขึ้นในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการจับคู่กับรายได้ตระหนักทั้งในเงินสดหรือเกณฑ์คงค้างในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกัน. 3.5.4 การประชุมคู่ (DC_): นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้อง ด้วยระบบการทำงานของคู่รายการหนังสือการเก็บรักษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3.4 บัญชีระยะเวลา หรืออย่าง อัสสัมชัญ ( PA ) เชื่อว่าความต่อเนื่องของเวลาสามารถแบ่งออกเป็นจำนวน ช่วงเวลาที่ไม่ต่อเนื่อง ( รอบระยะเวลาบัญชี ) ( สถาบันการจัดการข้อมูล ( bimi อังกฤษ ,1984 ) ตามเคนส์ ( 1980 ) , ในที่ยาวเรียกเรา " ตาย " พบว่า รายได้สุทธิของบริษัทเป็นเตรียมภายใต้สมมติฐานนี้ ( ระยะเวลาไม่ต่อเนื่อง ) อาจไม่หลังจากทั้งหมดเป็นมีเหตุผลเพราะการแสดงตนของอัตราเงินเฟ้อและการเปลี่ยนแปลงของระดับราคา เขายืนยันว่ากำไรมักจะมีองค์ประกอบของกำไรต่อไปหรือ uncollectible รับรู้รายได้ที่อาจจะไม่ดีไปในรูปแบบของหนี้สูญ การจัดการกับการสูญเสียอาจจะไม่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ลูกหนี้ในระหว่างรอบระยะเวลาบัญชี ส่วนปัญหาพื้นฐาน ไม่ว่าจะเป็นในระยะสั้น หรือ ยาว เป็นวิธีการของมูลค่าหุ้น มูลค่าหุ้นอาจจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายเต็มหรือร่อแร่ลายทางหรือวิธีต้นทุนลดลง โดยเฉพาะเมื่อ บริษัท มีการดำเนินงานให้เต็มหรือ undercapacity .ที่ไหนมีภายใต้การใช้กำลังการผลิตอัตราการดูดซึมอาจจะสูงถ้าจ่ายเงินมักสูง จะช่วยลด กำไร ตัวเลขในงบการเงิน , ในทางกลับกัน3.5 การดำเนินงานการประชุมแบ่งออกเป็น 5 ตามที่ระบุไว้ด้านล่าง :ที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ค่าใช้จ่ายการประชุม ( HCC ) : รูปแบบพื้นฐานของมูลค่าที่ใช้ในการตีพิมพ์งบการเงิน นั่นคือ ทรัพย์สินทั้งหมดจะแสดงในบัญชีค่าใช้จ่ายของการซื้อกิจการ คำว่า ' ต้นทุน ' กล่าวว่าhorngren และจอร์จ ( 1990 ) , ประณีต , ซับซ้อนและสับสน นี้เป็นเพราะค่าใช้จ่ายต่างกัน อาจหมายถึงสิ่งที่ผู้คนที่แตกต่างกันในเวลาที่แตกต่างกัน สถานที่ และเหตุการณ์ พวกเขาอ้างว่ามีต้นทุนที่ซับซ้อนเมื่อเรียกว่าหมดอายุ หรือ อนาคต ต้นทุนการผลิตหรือต้นทุน ระยะเวลา ต้นทุนทางตรงหรือทางอ้อม มันเป็นความซับซ้อนที่เรียกว่าต้นทุนแปรผัน ต้นทุนคงที่ และต้นทุนผันแปรกึ่ง กึ่งถาวร ต้นทุน ต้นทุน ต้นทุน ต้นทุน ดูดจมลงไป ,ต้นทุนการแปลงสภาพ และค่าเสียโอกาส ความสับสนที่อาจเกิดขึ้นเมื่อคุณลักษณะค่าใช้จ่ายบางอย่างไม่ได้ หรือจะเป็นทุนเพื่อวัตถุประสงค์ของการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน พวกเขากล่าวว่าหากสินทรัพย์ที่ได้มาภายใต้สถานการณ์ที่กำหนด สองบัญชีที่แตกต่างกันอาจถึงตัดสินคุณค่าที่แตกต่างกันเกี่ยวกับสินทรัพย์ดังนี้ ( Pyle et al , 1988 )$ซื้อต้นทุน xสัญญาค่าธรรมเนียม xการติดตั้งค่า xการปรับปรุงต้นทุน xค่าใช้จ่ายของการพัฒนาเค่าใช้จ่ายทั้งหมด xเนื่องจากสินทรัพย์มีมูลค่าต้นทุนเดิม สำหรับวัตถุประสงค์ของการกำหนดรายได้ประชาชาติ ความสับสนที่อาจเกิดขึ้นหากซื้อ ต้นทุน หรือ ส่วนหนึ่งในนั้นหรือค่าใช้จ่ายทั้งหมดถือเป็นต้นทุนทางประวัติศาสตร์ มูลค่าตามบัญชีสุทธิถึงผลหักค่าใช้จ่ายของค่าเสื่อมราคาตามวิธีการที่แตกต่างกันอาจจะแตกต่างกัน ดังนั้นความแตกต่างในกำไร ( okoye , 1997 )3.5.2 การการประชุม ( RC ) : มันแสดงให้เห็นว่ามันคือเมื่อสัญญาความสัมพันธ์ระหว่างผู้ซื้อ และผู้ขายแล้วเสร็จว่า ปริมาณของรายได้ที่ได้รับการยอมรับและการบันทึกในหนังสือของบัญชี แต่ไม่จําเป็นต้องเมื่อเงินสดจะถูกเก็บรวบรวม เทอร์ปินและสไตน์ ( 1986 ) ยืนยันว่าระยะเวลาบัญชีเรียกเก็บจริงจังปัญหาหลัก การเป็นนิติบุคคล ต้องได้รับการยอมรับการทำธุรกรรมในบัญชีระยะเวลา แต่เมื่อความสัมพันธ์ตามสัญญาแล้วเสร็จ ปัญหายังตรึงเครียด โดยอเมริกันสมาคมการบัญชี ( 1965 ) เป็นดังนี้ กิจการผลิตรถยนต์รถตู้ในหนึ่งปีสำหรับ $ 30 , 000 , ร้านมันผ่านในปีที่สองจะขายในปีที่สามสำหรับ $ 60 , 000 และรวบรวมเงินในชั้นปีที่ 4 รับรู้การประชุมถกเถียงกันอยู่ว่า รายได้และกำไรของ $ 60 , 000 และ $ 30 , 000 องค์ประกอบตามลำดับจะรับรู้ในปีที่สามเมื่อสัญญาของการขายเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 1 ความสับสนที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อรายได้คือตระหนักในพื้นฐานการผลิตมากกว่าเมื่อสินค้าหรือบริการอาจจะถูกขายออกจากโรงพยาบาลโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีของสัญญารัฐบาล บางครั้งสัญญาอาจสุดท้ายที่มากกว่าและเหนือ .ระยะเวลาและรายได้อาจจะได้รับการยอมรับบนพื้นฐานของขอบเขตของงานที่ทำหรือผลิต ฮิลเติ้น ( 1965 )3.5.3 ตรงกับการประชุม ( mc_ ) : นำไปสู่การจับคู่ของกิจการของรายได้กับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น การจับคู่ยังเกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดสรรทุนค่าใช้จ่ายระหว่างคาบ รวมกันของการจับคู่หลักด้วยสำนึก ให้สูงขึ้นในระบบด้านบัญชี , ฮิลเติ้น ( 1965 )ซึ่งหมายความว่ากำไรจะถูกบันทึกไว้ที่จุดของการขายว่า เงินสดที่ได้รับหรือไม่ ในทํานองเดียวกันตรงกับหลักการ ไปสู่สมาคมค่าใช้จ่ายกับรายได้ที่สร้างขึ้น ไม่ว่าจะสดการชำระเงินที่เกี่ยวข้องกับค่าใช้จ่าย กำไรหรือรายได้ แต่ที่รายงานในงบการเงิน เมื่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในระหว่างงวดบัญชีที่ใช้ หรือจะจับคู่กับสรรพากรได้ทั้งเงินสด หรือเกณฑ์คงค้างในรอบระยะเวลาบัญชีเดียวกัน3.5.4 ทวิภาวะการประชุม ( dc_ ) : นี้เกี่ยวข้องกับระบบของการรักษาหนังสือคู่