It is clear from the above section

It is clear from the above section that the increase of the reaction side pressure has a significant role in the improvement of the performance of the CFFBMR. We have so far the best performance of the CFFBMR at a reaction side pressure of 30.0 bar. In this part of the investigation we are seeking further enhancement of the performance of the CFFBMR at a reaction side pressure of 30.0 bar by testing the influence of the number of hydrogen membrane tubes.

Fig. 12 shows the heptane conversion at various number of hydrogen membrane tubes (NH2 = 30, 40, 50) and a reaction side pressure of 30.0 bar. The effect of the number of hydrogen membrane tubes on heptane conversion is insignificant due to the fact that the reaction (1) is very rapid at these conditions and completed in a very small portion of the dimensionless reactor length. The corresponding hydrogen yield is shown in Fig. 13. The increase of the number of hydrogen membrane tubes from 30 to 50 gives further increase in heptane conversion of about 8.13%. The total increase in the exit hydrogen yield obtained by implementing a high reaction side pressure (30.0 bar) coupled with a high number of hydrogen membrane tubes (50 tubes) compared to that obtained at a reaction side pressure of 20.0 bar and a number of hydrogen membrane tubes of 30 as shown in Fig. 3c3 and Fig. 8 is about 41.43% and about 496.94% compared to the value obtained without hydrogen membrane as shown in Fig. 3c3. Further decrease in the H2/CO ratio to a good value of 1.15 is achieved by increasing the number of hydrogen membrane tubes to 50 as shown in Fig. 14. The increase of the number of hydrogen membrane tubes has a limited effect in decreasing the methane yield and a little effect in increasing the carbon dioxide yield as shown in Figure 15 and Figure 16, respectively.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

มีความชัดเจนจากส่วนด้านบนว่า การเพิ่มขึ้นของความดันด้านปฏิกิริยามีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของการ CFFBMR เรามีอยู่ประสิทธิภาพของ CFFBMR การที่แรงดันด้านปฏิกิริยา 30.0 บาร์ ในส่วนของการสืบสวนนี้ เรากำลังเพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของ CFFBMR ที่ความดันด้านปฏิกิริยาของแถบ 30.0 โดยทดสอบอิทธิพลของจำนวนหลอดไฮโดรเจนเมมเบรนรูป 12 แสดงการแปลง heptane ที่จำนวนไฮโดรเจนต่าง ๆ ท่อเมมเบรน (NH2 = 30, 40, 50) และแรงดันด้านปฏิกิริยา 30.0 บาร์ ผลของจำนวนหลอดไฮโดรเจนเยื่อ heptane แปลงเป็นสำคัญเนื่องจากความจริงที่ว่าปฏิกิริยา (1) มากขึ้นอย่างรวดเร็วที่เงื่อนไขเหล่านี้ และในส่วนเล็ก ๆ ของความยาวของเครื่องปฏิกรณ์ dimensionless ผลผลิตไฮโดรเจนที่สอดคล้องกันจะแสดงในรูปที่ 13 การเพิ่มจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจนจาก 30 เป็น 50 ให้เพิ่มเติมในแปลง heptane ประมาณเท่ากบั 8.13% เพิ่มรวมผลตอบแทนไฮโดรเจนออกได้ โดยการใช้ความดันด้านสูงปฏิกิริยา (30.0 บาร์) ควบคู่ ด้วยหมายเลขสูงของไฮโดรเจนเยื่อหลอด (50 หลอด) เมื่อเทียบกับที่ได้ที่ปฏิกิริยาที่ ความดันด้าน 20.0 และจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจน 30 ดังแสดงในรูป 3 c 3 และ 8 รูปเป็นประมาณ 41.43% และประมาณ 496.94% เมื่อเทียบกับค่าที่ได้มา โดยไม่มีเยื่อหุ้มเซลล์ไฮโดรเจนดังแสดงในรูป 3 c 3 ลดลงอีกอัตราส่วน H2/CO ค่า 1.15 เป็นดีจะทำได้ โดยการเพิ่มจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจน 50 ดังแสดงในรูป 14 การเพิ่มจำนวนของหลอดไฮโดรเจนเมมเบรนมีผลจำกัดในการลดผลผลิตมีเทนและผลเล็กน้อยในการเพิ่มผลผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดังแสดงในรูปที่ 15 และ 16 รูป ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันเป็นที่ชัดเจนจากส่วนดังกล่าวข้างต้นว่าการเพิ่มขึ้นของความดันด้านปฏิกิริยามีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานของ CFFBMR ที่ เรามีเพื่อให้ห่างไกลประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ CFFBMR ที่ความดันด้านปฏิกิริยาของ 30.0 บาร์ ในส่วนของการสอบสวนนี้เรากำลังมองหาการเพิ่มประสิทธิภาพต่อการปฏิบัติงานของ CFFBMR ที่ความดันด้านปฏิกิริยาของ 30.0 บาร์โดยการทดสอบอิทธิพลของจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจน.

รูป 12 แสดงให้เห็นถึงการแปลง heptane ที่บ้านเลขที่ต่างๆของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจน (NH2 = 30, 40, 50) และแรงกดดันด้านปฏิกิริยาของ 30.0 บาร์ ผลของจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจนในการแปลง heptane คือไม่มีนัยสำคัญเนื่องจากความจริงที่ว่าปฏิกิริยา (1) เป็นไปอย่างรวดเร็วมากในเงื่อนไขเหล่านี้และเสร็จสมบูรณ์ในส่วนเล็ก ๆ ของความยาวของเครื่องปฏิกรณ์ขนาด ผลผลิตไฮโดรเจนที่สอดคล้องกันจะแสดงในรูป 13. การเพิ่มขึ้นของจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจน 30-50 ให้เพิ่มขึ้นอีกในการแปลง heptane ประมาณ 8.13% การเพิ่มขึ้นทั้งหมดในผลผลิตออกจากไฮโดรเจนที่ได้รับโดยการใช้แรงดันปฏิกิริยาสูงด้าน (30.0 บาร์) ควบคู่ไปกับจำนวนที่สูงของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจน (50 หลอด) เมื่อเทียบกับที่ได้รับที่ความดันด้านปฏิกิริยาของ 20.0 บาร์และจำนวนของไฮโดรเจน หลอดเมมเบรนที่ 30 ดังแสดงในรูป 3c3 มะเดื่อ 8 เป็นเรื่องเกี่ยวกับ 41.43% และประมาณ 496.94% เมื่อเทียบกับมูลค่าที่ได้รับโดยไม่ต้องเมมเบรนไฮโดรเจนดังแสดงในรูป 3c3 ลดลงต่อไปใน H2 / อัตราส่วน CO เป็นค่าที่ดีของ 1.15 จะทำได้โดยการเพิ่มจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจน 50 ดังแสดงในรูป 14. การเพิ่มขึ้นของจำนวนของหลอดเมมเบรนไฮโดรเจนมีผลกระทบ จำกัด ในการลดผลผลิตก๊าซมีเทนและผลเพียงเล็กน้อยในการเพิ่มผลผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ดังแสดงในรูปที่ 15 และรูปที่ 16 ตามลำดับ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ก็เป็นที่ชัดเจนจากด้านบน ส่วนที่เพิ่มขึ้นของปฏิกิริยาข้างเคียงที่ดันมีบทบาทสำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของ cffbmr . เรามีเพื่อให้ห่างไกลประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ cffbmr ในปฏิกิริยาด้านความดัน 30.0 Bar ในส่วนของการสอบสวน เรากำลังมองหาการเพิ่มประสิทธิภาพต่อการปฏิบัติงานของ cffbmr ในปฏิกิริยาด้านความดัน 30.0 บาร์โดยการทดสอบอิทธิพลของหมายเลขของเยื่อหุ้มหลอดไฮโดรเจนรูปที่ 12 แสดงการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆของหลอดเบอร์เฮปเทนในเยื่อ ไฮโดรเจน ( nh2 = 30 , 40 , 50 ) และปฏิกิริยาด้านความดัน 30.0 Bar ผลของจำนวนหลอดไฮโดรเจนเยื่อแปลงเฮปเทนเป็นสำคัญเนื่องจากว่าปฏิกิริยา ( 1 ) เป็นอย่างรวดเร็วมากในเงื่อนไขเหล่านี้ และเสร็จสมบูรณ์ในส่วนขนาดเล็กมากของความยาวถังปฏิกรณ์ไร้ . ที่แสดงในรูปไฮโดรเจนต่อ 13 การเพิ่มขึ้นของจำนวนหลอดเยื่อไฮโดรเจนจาก 30 ถึง 50 ให้เพิ่มในเฮปเทนแปลงประมาณ 8.13 % ที่เพิ่มขึ้นทั้งหมดในทางออกไฮโดรเจนผลผลิตโดยการใช้ปฏิกิริยาด้านความดันสูง ( 30.0 บาร์ ) คู่กับ ตัวเลขที่สูงของหลอดชนิดไฮโดรเจน ( 50 หลอด ) เมื่อเทียบกับที่ได้รับปฏิกิริยาด้านความดัน 20.0 บาร์และหมายเลขของเยื่อหุ้มหลอดไฮโดรเจน 30 ดังแสดงในรูปที่ 3c3 และภาพที่ 8 คือ เกี่ยวกับ 41.43 % และ 496.94 % เทียบกับมูลค่าที่ปราศจากไฮโดรเจนเยื่อดังแสดงในรูปที่ 3c3 . ลดใน H2 / Co ) เป็นค่าของจุดได้ โดยเพิ่มจำนวนหลอด 50 แผ่นไฮโดรเจนดังแสดงในรูปที่ 14 . การเพิ่มขึ้นของจำนวนหลอดเยื่อไฮโดรเจนมีผล จำกัด ในการลดอัตราการผลิตก๊าซมีเทน และผลเล็ก ๆน้อย ๆในการเพิ่มปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ดังแสดงในรูปที่ 5 และรูปที่ 16 )