Albert Einstein was a German-born t

Albert Einstein was a German-born theoretical physicist. He developed the general theory of relativity, one of the two pillars of modern physics.Einstein's work is also known for its influence on the philosophy of science. He received the 1921 Nobel Prize in Physics for his "services to theoretical physics", in particular his discovery of the law of the photoelectric effect, a pivotal step in the evolution of quantum theory.
Near the beginning of his career, Einstein thought that Newtonian mechanics was no longer enough to reconcile the laws of classical mechanics with the laws of the electromagnetic field. This led to the development of his special theory of relativity. He realized, however, that the principle of relativity could also be extended to gravitational fields, and with his subsequent theory of gravitation in 1916, he published a paper on general relativity. He continued to deal with problems of statistical mechanics and quantum theory, which led to his explanations of particle theory and the motion of molecules. He also investigated the thermal properties of light which laid the foundation of the photon theory of light. In 1917, Einstein applied the general theory of relativity to model the large-scale structure of the universe.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อัลเบิร์ตไอน์สไตน์เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีที่เกิด เขาได้พัฒนาทฤษฎีทั่วไปของทฤษฎีสัมพัทธภาพ เสาสองของฟิสิกส์สมัยใหม่อย่างใดอย่างหนึ่ง งานของไอน์สไตน์เป็นที่รู้จักกันสำหรับอิทธิพลปรัชญาของวิทยาศาสตร์ เขาได้รับรางวัลโนเบลค.ศ. 1921 ฟิสิกส์สำหรับเขา "แก่ฟิสิกส์ทฤษฎี" โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นพบของเขากฎหมายของโฟ ขั้นตอนสำคัญในวิวัฒนาการของทฤษฎีควอนตัม ใกล้จุดเริ่มต้นของอาชีพของเขา ไอน์สไตน์คิดว่า Newtonian กลศาสตร์ได้ไม่เพียงพอที่จะกระทบยอดกฎหมายของกลศาสตร์คลาสสิกกับกฎหมายของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า นี้นำไปสู่การพัฒนาของเขาทฤษฎีพิเศษสัมพันธ์ เขาตระหนักว่า อย่างไรก็ตาม ว่า ยังสามารถขยายหลักการของทฤษฎีสัมพัทธภาพกับสนามแรงโน้มถ่วง และ ด้วยทฤษฎีความโน้มถ่วงในปี 1916 เขาตามมา เขาตีพิมพ์กระดาษในทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป เขายังคงจัดการกับปัญหาของกลศาสตร์ทางสถิติและทฤษฎีควอนตัม ซึ่งนำไปสู่คำอธิบายของเขาของทฤษฎีอนุภาคและการเคลื่อนที่ของโมเลกุล นอกจากนี้เขายังตรวจสอบคุณสมบัติทางความร้อนของแสงซึ่งวางรากฐานทฤษฎีโฟตอนของแสง ในปีค.ศ. 1917 ไอน์สไตน์ใช้ทฤษฎีทั่วไปของความสัมพันธ์แบบโครงสร้างขนาดใหญ่ของจักรวาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Albert Einstein เป็นนักฟิสิกส์ทฤษฎีชาวเยอรมัน เขาได้พัฒนาทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของหนึ่งในสองเสาหลักของการทำงานที่ทันสมัย physics.Einstein ยังเป็นที่รู้จักสำหรับอิทธิพลที่มีต่อปรัชญาวิทยาศาสตร์ เขาได้รับรางวัลโนเบล 1921 ในสาขาฟิสิกส์สำหรับ "บริการให้กับฟิสิกส์ทฤษฎี" ของเขาโดยเฉพาะการค้นพบของกฎหมายของผลตาแมวที่มีขั้นตอนสำคัญในการวิวัฒนาการของทฤษฎีควอนตัมได้.
ใกล้จุดเริ่มต้นของอาชีพของเขา Einstein คิดว่านิวตัน กลศาสตร์ก็ไม่มากพอที่จะคืนดีกฎหมายของกลศาสตร์คลาสสิกกับกฎหมายของสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่ นี้นำไปสู่การพัฒนาทฤษฎีพิเศษของสัมพัทธภาพ เขาตระหนักอย่างไรว่าหลักการของทฤษฎีสัมพัทธอาจจะมีการขยายไปยังสนามแรงโน้มถ่วงและกับทฤษฎีของเขาที่ตามมาของแรงโน้มถ่วงในปี 1916 เขาได้รับการตีพิมพ์บนกระดาษมพัทธภาพทั่วไป เขายังคงจัดการกับปัญหาของกลศาสตร์สถิติและทฤษฎีควอนตัมซึ่งนำไปสู่คำอธิบายของเขาทฤษฎีอนุภาคและการเคลื่อนที่ของโมเลกุล นอกจากนี้เขายังตรวจสอบสมบัติทางความร้อนของแสงซึ่งวางรากฐานของทฤษฎีโฟตอนของแสง ในปี 1917, ไอน์สไตนำไปประยุกต์ใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไปของการจำลองโครงสร้างขนาดใหญ่ของจักรวาล

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์เป็นคนเยอรมันเกิดทฤษฎี นักฟิสิกส์ เขาได้พัฒนาทฤษฎีทั่วไปของความสัมพันธ์หนึ่ง สองเสาหลักของฟิสิกส์สมัยใหม่ ไอน์สไตน์ งานที่เป็นที่รู้จักกันสำหรับอิทธิพลต่อปรัชญาของวิทยาศาสตร์ 2464 เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์สำหรับบริการของเขา " ฟิสิกส์ " ทางทฤษฎี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้นพบของเขาของกฎหมายของปรากฏการณ์โฟโตอิเล็กทริก ขั้นตอนสำคัญในการวิวัฒนาการของทฤษฎีควอนตัมใกล้จุดเริ่มต้นของอาชีพของเขา ไอน์สไตน์คิดว่ากลศาสตร์ของนิวตันคือไม่เพียงพอที่จะยอมรับกฎของกลศาสตร์คลาสสิกกับกฎหมายของเขตข้อมูลแม่เหล็กไฟฟ้า นี้นำไปสู่การพัฒนาทฤษฎีพิเศษของความสัมพันธ์ เขาตระหนัก , อย่างไรก็ตาม , ที่หลักการของสัมพัทธภาพอาจจะมีการขยายสนามแรงโน้มถ่วงและทฤษฎีของเขาตามมาของความโน้มถ่วงใน 1916 เขาเผยแพร่กระดาษในทฤษฎีสัมพันธภาพทั่วไป เขายังคงจัดการกับปัญหาของกลศาสตร์สถิติและทฤษฎีควอนตัม ซึ่งทำให้เขาอธิบายทฤษฎีอนุภาค และการเคลื่อนที่ของโมเลกุล นอกจากนี้เขายังได้ศึกษาคุณสมบัติทางความร้อนของแสงซึ่งวางรากฐานทฤษฎีโฟตอนของแสง ในปี 1917 ไอน์สไตน์ได้ใช้ทฤษฎีทั่วไปของความสัมพันธ์แบบโครงสร้างขนาดใหญ่ของจักรวาล