The Superiority Theory states that

The Superiority Theory states that we laugh at people who are at a disadvantage or suffer a small misfortune. This occurs, for instance, when a person gets a pie thrown in his or her face. We laugh, too, at mistakes people make. Mispronouncing a word or exchanging the first sounds of two words. for example, saying "i'll sew you to your sheet" instead of "i'll show you to your seat" will often bring about laughter. According to this theory, the reason why we laugh at the misfortunes or mistakes of others is that the make us feel superior.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีความเหนือกว่าแจ้งว่า เราหัวเราะที่ผู้ที่เป็นรอง หรือประสบโชคร้ายมีขนาดเล็ก ปัญหานี้เกิดขึ้น เช่น เมื่อคนพายในใบหน้าของเขา หรือเธอ เราหัวเราะ เกินไป คนทำความผิดพลาด Mispronouncing คำ หรือการแลกเปลี่ยนเสียงแรกของคำสองคำ เช่น พูดว่า "ฉันจะเย็บคุณการแผ่นงานของคุณ" แทน "ฉันจะแสดงที่นั่งของคุณ" มักจะนำมาเกี่ยวกับเสียงหัวเราะ ตามทฤษฎีนี้ เหตุผลที่ทำไมเราหัวเราะในความโชคร้ายหรือความผิดพลาดของผู้อื่นเป็นการทำให้เรารู้สึกว่า เหนือกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เหนือกว่าทฤษฎีกล่าวว่าเราหัวเราะเยาะคนที่มีความเสียเปรียบหรือประสบโชคร้ายขนาดเล็ก นี้เกิดขึ้นเช่นเมื่อคนได้รับพายโยนในใบหน้าของเขาหรือเธอ เราหัวเราะมากเกินไปที่คนทำผิดพลาด ออกเสียงคำหรือแลกเปลี่ยนเสียงแรกของคำสองคำ เช่นบอกว่า "ฉันจะให้คุณเย็บแผ่นของคุณ" แทน "ฉันจะแสดงในที่นั่งของคุณ" มักจะนำมาซึ่งเสียงหัวเราะ ตามทฤษฎีนี้เหตุผลที่ว่าทำไมเราหัวเราะเยาะความโชคร้ายหรือความผิดพลาดของคนอื่น ๆ คือการที่ทำให้เรารู้สึกดีกว่า

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความเหนือกว่าทฤษฎีระบุว่า เราหัวเราะ คนที่เสียเปรียบ หรือประสบเหตุร้ายเล็ก ๆ ปัญหานี้เกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคนเราพายโยนในใบหน้าของเขา หรือเธอ เราหัวเราะด้วยในความผิดพลาดคนทำ mispronouncing คำหรือการแลกเปลี่ยนเสียงแรกของทั้งสองคำ ตัวอย่างเช่น พูดว่า " ฉันจะเย็บให้แผ่นของคุณ " แทน " ผมจะพาคุณไปนั่ง " ของคุณมักจะนำมาซึ่งเสียงหัวเราะ ตามทฤษฎีนี้ สาเหตุที่เราหัวเราะในความโชคร้าย หรือความผิดพลาดของผู้อื่นที่ทำให้เรารู้สึกเหนือกว่า