Fig. 11 shows the rut-resistance of

Fig. 11 shows the rut-resistance of all test series. In this figure, the effects of amorphous metallic fibers and asphalt binder contents on the rut-resistance of AC are demonstrated. For this, the specimens were subjected to repeated passes of a loaded wheel (2500 load cycles), with the wheel speed set at 42 passes per minute. The greatest resistance to rutting by the repeated passage of a loaded wheel was obtained in the AC specimen (smallest plastic deformation). The specimens containing 1% amorphous metallic fibers exhibited higher plastic deformation than that in the specimen without fibers (AC). This is evidence that the use of amorphous metallic fibers in asphalt concrete mixtures provides adverse effects in improving the rut-resistance of AC. As compared with ordinary AC used in the present study, the use of stone mastic asphalt, developed in the 1960s, can be a solution to overcome the drawback (i.e., increased plastic deformation) of using amorphous metallic fiber, since it contains a large amount of coarse aggregate, leading to a decrease of binder content, and exhibits high rut- resistance. Therefore, a further study on the rut-resistance of stone mastic asphalt with amorphous metallic fiber is required to

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

รูปที่ 11 แสดงความต้านทานรูดของชุดทดสอบทั้งหมด ในรูปนี้ ผลกระทบของเส้นใยโลหะสัณฐานและ asphalt binder เนื้อหาความต้านทานรูดของ AC จะแสดงให้เห็น สำหรับนี้ ตัวอย่างถูกต้องไปซ้ำผ่านล้อโหลด (โหลด 2500 รอบ), ความเร็วล้อชุดที่ 42 ครั้งต่อนาที ความต้านทานต่อบรรดา rutting โดยเนื้อเรื่องซ้ำล้อโหลดมาในชิ้นงาน AC (เสียรูปพลาสติกขนาดเล็กที่สุด) ตัวอย่างที่ประกอบด้วยเส้นใยโลหะไป 1% แสดงเปลี่ยนรูปแบบพลาสติกสูงกว่าในตัวอย่างโดยไม่มีเส้นใย (AC) นี่คือหลักฐานว่า การใช้เส้นใยโลหะไปในส่วนผสมคอนกรีตยางมะตอยให้ผลกระทบในการปรับปรุงความต้านทานรูดของ AC เมื่อเทียบกับ AC ธรรมดาที่ใช้ในการศึกษา การใช้สีโพหินยางมะตอย ในปี สามารถเป็นโซลูชันเพื่อเอาชนะอุปสรรค (เช่น เพิ่มเปลี่ยนรูปแบบพลาสติก) ของการใช้เส้นใยโลหะไป เนื่องจากมันประกอบด้วยขนาดใหญ่รวมหยาบ นำไปสู่การลดลงของเนื้อหา binder และรูดทนการจัดแสดงนิทรรศการ ดังนั้น ความต้านทานรูดสีโพหินยางมะตอยด้วยใยโลหะไปศึกษาเพิ่มเติมจะต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มะเดื่อ. 11 แสดงให้เห็นร่องความต้านทานของชุดทดสอบทั้งหมด ในรูปนี้ผลกระทบของเส้นใยโลหะอสัณฐานและเนื้อหาเครื่องผูกยางมะตอยบนร่องความต้านทานของ AC ที่มีการแสดงให้เห็นถึง สำหรับเรื่องนี้เป็นตัวอย่างที่ถูกยัดเยียดให้ผ่านซ้ำของล้อโหลด (2500 รอบโหลด) ด้วยความเร็วล้อที่ตั้งไว้ที่ 42 ที่ผ่านมาต่อนาที ความต้านทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะเป็นร่องโดยเนื้อเรื่องซ้ำของล้อโหลดได้ในชิ้นงาน AC (เปลี่ยนรูปแบบพลาสติกขนาดเล็กที่สุด) ตัวอย่างที่มี 1% เส้นใยโลหะอสัณฐานแสดงเปลี่ยนรูปแบบพลาสติกสูงกว่าในงานโดยไม่ต้องเส้นใย (AC) นี่คือหลักฐานที่แสดงว่าการใช้เส้นใยโลหะอสัณฐานผสมแอสฟัลต์คอนกรีตให้เกิดผลข้างเคียงในการปรับปรุงร่องความต้านทานของ AC เมื่อเทียบกับ AC สามัญใช้ในการศึกษาปัจจุบันที่ใช้หินยางมะตอยสีเหลืองอ่อนที่พัฒนาขึ้นในปี 1960 สามารถแก้ปัญหาที่จะเอาชนะอุปสรรค (เช่นเพิ่มการเปลี่ยนรูปพลาสติก) ของการใช้เส้นใยโลหะอสัณฐานเพราะมันมีจำนวนมาก ของมวลรวมหยาบที่นำไปสู่การลดลงของสารยึดเกาะและการจัดแสดงนิทรรศการต้านทาน rut- สูง ดังนั้นการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับร่องความต้านทานของหินยางมะตอยสีเหลืองอ่อนที่มีเส้นใยโลหะอสัณฐานจะต้อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

รูปที่ 11 แสดงร่องต้านทานของชุดทดสอบทั้งหมด ในรูปนี้ ผลของโลหะอสัณฐานเส้นใยและเนื้อหาวัสดุยางมะตอยบนร่องต้านทานของ AC จะแสดงให้เห็นถึง นี้ ทำการงานซ้ำผ่านของโหลดล้อ ( รอบ 2500 โหลด ) มีล้อ ความเร็วตั้งไว้ที่ 42 ครั้งต่อนาที ความต้านทานที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่จะทิ้งร่องรอยไว้ตามทางเดินของโหลดซ้ำได้ในตัวอย่างล้อ AC ( เล็กพลาสติกเสียรูป ) ตัวอย่างที่ประกอบด้วย 1% เส้นใยโลหะอสัณฐานมีสูงกว่าพลาสติกเสียรูปมากกว่านั้นในตัวโดยไม่ใย ( AC ) นี่คือหลักฐานการใช้โลหะอสัณฐานเส้นใยในแอสฟัลต์คอนกรีตให้ปรปักษ์ในการปรับปรุงร่องความต้านทานของกระแสสลับเมื่อเทียบกับ AC ธรรมดาที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ใช้หินยางมะตอยยางเรซิน ที่พัฒนาในทศวรรษที่ 1960 , สามารถแก้ปัญหาเพื่อเอาชนะอุปสรรค์ เช่น การเพิ่มขึ้นของการใช้พลาสติก เส้นใยโลหะอสัณฐาน , เนื่องจากมันมีเป็นจำนวนมากของมวลรวมหยาบที่นำไปสู่การลดลงของปริมาณวัสดุประสาน และนิทรรศการร่อง - ความต้านทานสูง ดังนั้น ศึกษาเพิ่มเติมในร่องหินยางมะตอยยางเรซินไฟเบอร์ความต้านทานของโลหะอสัณฐานเป็นต้อง