The bound phenolic and flavonoid co

The bound phenolic and flavonoid content of mango peel
dietary fibre was determined and is shown in Table 3. The
bound phenolic content in mango peel dietary fibre was found
to be in the range of 8.12–29.52 mg/g, while that of bound flavonoids ranged from 0.101 to 0.392 mg/g and the contentsof these compounds are more in ripe mango peel than the raw mango peel. Earlier, it was reported that extractable phenolics were
more in raw peel compared to ripe peel (Ajila & Prasada Rao,
2008). However, in case of bound phenolics it was found to be
different. It indicates that during ripening these phenolics
may be involved in cross-linking of polysaccharides making
them insoluble during ripening, thereby increasing the insoluble dietary fibre content (Table 3).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผูกนฟีนอและ flavonoid เนื้อหาของเปลือกมะม่วงเส้นใยอาหารถูกกำหนด และแสดงในตารางที่ 3 การพบผูกฟีนอเนื้อหาในมะม่วงเปลือกเส้นใยอาหารในช่วงของ 8.12 – 29.52 mg/g ในขณะที่ฟลาผูกอยู่จาก 0.101 0.392 mg/g และ contentsof สารเหล่านี้มีในเปลือกมะม่วงสุกมากกว่าเปลือกมะม่วงดิบ ก่อนหน้านี้ เป็นรายงานที่ เตรียม phenolics ได้เพิ่มเติมในเปลือกดิบเทียบกับสุกเปลือก (Ajila & Rao สดาช่วย2008) . อย่างไรก็ตาม ในกรณีผูก phenolics จะพบว่ามีแตกต่างกัน แสดงว่า ในระหว่างการสุก phenolics เหล่านี้อาจเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงของแซ็กทำพวกเขาละลายระหว่างการสุก จึงช่วยเพิ่มเนื้อหาที่เส้นใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำ (ตารางที่ 3)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฟีนอลที่ถูกผูกไว้และเนื้อหา flavonoid ของมะม่วงเปลือก
ใยอาหารที่ถูกกำหนดและมีการแสดงในตารางที่ 3.
เนื้อหาฟีนอลที่ถูกผูกไว้ด้วยเส้นใยอาหารมะม่วงเปลือกก็พบว่า
จะอยู่ในช่วงของ 8.12-29.52 มิลลิกรัม / กรัมในขณะที่ของ flavonoids ที่ถูกผูกไว้ตั้งแต่ 0.101-0.392 มิลลิกรัม / กรัมและ contentsof สารประกอบเหล่านี้มีมากขึ้นในเปลือกมะม่วงสุกกว่าเปลือกมะม่วงดิบ ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าฟีนอลที่สกัดได้อยู่
ในเปลือกดิบเมื่อเทียบกับเปลือกสุก (Ajila & Prasada ราว
2008) อย่างไรก็ตามในกรณีของฟีนอลที่ถูกผูกไว้มันถูกพบว่ามีความ
แตกต่างกัน มันแสดงให้เห็นว่าในช่วงสุกฟีนอลเหล่านี้
อาจจะเกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงข้ามของ polysaccharides ทำให้
พวกเขาที่ไม่ละลายน้ำระหว่างการสุกจึงช่วยเพิ่มปริมาณเส้นใยที่ไม่ละลายน้ำอาหาร (ตารางที่ 3)