However, FDA does not accept fast-a

However, FDA does not accept fast-acting nifedipine as a treatment for emergency hypertension as well as the sub-lingual treatment as some evidences have demonstrated that the treatment may cause excessive reduction in blood pressure. It can be concluded from studies on treatment of hypertension in pregnancy that the selection of antihypertensive treatment should depend on experiences and knowledge of doctor who is treating the patient, particularly in terms of the maternal and fetal effect of the drug. Although there is no clinical study that provides any evidence of how much reduction in blood pressure is considered to be optimal, many have suggested a target systolic blood pressure of 140-150 mmHg and diastolic blood pressure of 90-100 mmHg. In pregnant women who have experienced target organ damage, it is suggested to reduce the blood pressure to less than 140/90 mmHg until it reaches 120 and 80 mmHg.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อย่างไรก็ตาม FDA ยอมรับ nifedipine ทำหน้าที่ได้อย่างรวดเร็วเป็นการรักษาความดันโลหิตสูงฉุกเฉินรวมทั้งการรักษาภาษาย่อย ตามหลักฐานบางอย่างได้แสดงว่า การรักษาอาจทำให้ลดมากเกินไปในความดันโลหิต จึงสามารถสรุปได้จากการศึกษาการรักษาความดันโลหิตสูงในหญิงตั้งครรภ์ที่ตัวเลือกของการรักษาลดความดันควรขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความรู้ของหมอที่จะรักษาผู้ป่วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์ และการมีผลของยา แม้จะมีไม่การศึกษาทางคลินิกที่มีหลักฐานใด ๆ ของจำนวนที่ลดลงความดันโลหิตถือเป็นดีที่สุด จำนวนมากได้แนะนำเป็นเป้าหมาย systolic ความดันโลหิตของ 140-150 mmHg และความดันโลหิต diastolic ของ 90-100 mmHg ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีประสบการณ์ความเสียหายของอวัยวะเป้าหมาย มันจะแนะนำเพื่อลดความดันโลหิตน้อยกว่า 140/90 mmHg จนกว่าจะถึง 120 และ 80 mmHg

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่างไรก็ตามองค์การอาหารและยาไม่ยอมรับ nifedipine ที่ออกฤทธิ์เร็วที่สุดเท่าที่การรักษาความดันโลหิตสูงในกรณีฉุกเฉินเช่นเดียวกับการรักษาย่อยภาษาเป็นหลักฐานบางส่วนได้แสดงให้เห็นว่าการรักษาอาจทำให้เกิดการลดลงมากเกินไปความดันโลหิต จึงสามารถสรุปได้จากการศึกษาเกี่ยวกับการรักษาความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์ว่าการเลือกของการรักษาความดันโลหิตสูงควรขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความรู้ของแพทย์ที่จะรักษาผู้ป่วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของผลกระทบที่มารดาและทารกในครรภ์ของยาเสพติด แม้ว่าจะไม่มีการศึกษาทางคลินิกที่มีหลักฐานใด ๆ ของวิธีการที่ลดลงมากในความดันโลหิตจะถือเป็นที่ดีที่สุดหลายคนบอกเป้าหมายความดันโลหิตของ 140-150 มิลลิเมตรปรอทและความดันโลหิต diastolic 90-100 มิลลิเมตรปรอท ในหญิงตั้งครรภ์ที่มีประสบการณ์ความเสียหายของอวัยวะเป้าหมายก็จะแนะนำให้ลดความดันโลหิตให้ต่ำกว่า 140/90 มิลลิเมตรปรอทจนกว่าจะถึง 120 และ 80 มิลลิเมตรปรอท

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อย่างไรก็ตาม องค์การอาหารและยาที่ไม่ได้รับการแสดงอย่างรวดเร็วไนเฟดิพีนเป็นรักษาความดันโลหิตสูงฉุกเฉิน รวมทั้งการรักษาเป็น Sub lingual หลักฐานบางส่วนได้แสดงให้เห็นว่าการรักษาอาจก่อให้เกิดมากเกินไปในการลดความดันโลหิตมันสามารถสรุปได้จากการศึกษาในการรักษาความดันโลหิตสูงในการตั้งครรภ์ การรักษาความดันโลหิตสูงควรขึ้นอยู่กับประสบการณ์และความรู้ของหมอที่กำลังรักษาคนไข้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของมารดาและทารกในครรภ์ ผลของยาแม้จะไม่มีการศึกษาทางคลินิกที่แสดงหลักฐานว่าลดความดันโลหิตจะถือเป็นที่ดีที่สุด หลายคนแนะนำเป้าหมายความดันโลหิตของ 140-150 มิลลิเมตรปรอท และความดัน diastolic ของ 90-100 มม. ปรอท ในหญิงตั้งครรภ์ที่ประสบความเสียหายของอวัยวะเป้าหมายมันเป็นข้อเสนอแนะเพื่อลดความดันให้น้อยกว่า 140 / 90 มิลลิเมตรปรอท จนไปถึง 120 และ 80 มิลลิเมตรปรอท