Internationally, the proportion of

Internationally, the proportion of science and technology students to the total students has been decreasing during the last two decades (Organization for Economic Co-operation and Development [OECD], 2006). In India too, students’ interest in science was found to decline as they climb educational ladder from middle school classes to tertiary level. In Kerala, successive examination results have revealed that while girls perform better in Board exams at secondary and higher secondary level, boys top the medical and engineering admission entrance ranks. Elsewhere it is observed that, although girls generally do as well as or better than boys on homework, assignments and course grades in science classes, boys tend to outscore girls when tested on the same content in high-pressure situations such as standardized tests with time limits (Shettle, et al. 2007). These tests are typically not linked to instructed curriculum, and so can be understood to be measures of more general abilities in science (Halpern et al. 2007). But, as SAT scores under-predict young women’s performance in college courses (Wainer, 1992) it is suggested that it is not ability, per se, but consistent gender differences in children’s and adolescents’ beliefs about their abilities in science, their interest in science, and their perceptions of the importance of science for their futures that hinders girls and women from pursuing careers in science (Halpern, 2007b). Researchers (Andre, et al.,1999; Herbert & Stipek, 2005; Jacobs, et al., 2002) have found that from early adolescence, girls show less interest in science careers.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ต่างประเทศสัดส่วนของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่นักเรียนนักเรียนรวมได้ลดลงในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา (องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา [OECD], 2006) ในประเทศอินเดียด้วยความสนใจของนักเรียนในด้านวิทยาศาสตร์พบว่าการลดลงตามที่พวกเขาปีนบันไดการศึกษาจากชั้นเรียนที่โรงเรียนมัธยมในระดับตติยภูมิ ในเกรละ,ผลการตรวจสอบต่อเนื่องได้เปิดเผยว่าในขณะที่สาวทำงานได้ดีขึ้นในการสอบของคณะกรรมการในระดับมัธยมศึกษามัธยมศึกษาและสูงกว่าเด็กแถวด้านบนทางเข้าด้านการแพทย์และการเข้าเรียนวิศวกรรม ที่อื่น ๆ มันเป็นที่สังเกตว่าแม้ว่าผู้หญิงโดยทั่วไปจะทำตามหรือดีกว่าเด็กผู้ชายในบ้านที่ได้รับมอบหมายและผลการเรียนในชั้นเรียนวิชาวิทยาศาสตร์เด็กผู้ชายมีแนวโน้มที่จะ outscore สาวเมื่อทดสอบในเนื้อหาเดียวกันในสถานการณ์แรงดันสูงเช่นการทดสอบมาตรฐานที่มีการ จำกัด เวลา (shettle, et al. 2007) การทดสอบเหล่านี้มักจะไม่เชื่อมโยงกับหลักสูตรการเรียนการสอนและเพื่อให้สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นมาตรการของความสามารถทั่วไปมากขึ้นในทางวิทยาศาสตร์ (Halpern, et al. 2007) แต่เป็นคะแนนนั่งภายใต้การคาดการณ์ผลการดำเนินงานของหญิงสาวในหลักสูตรวิทยาลัย (wainer, 1992) มันก็บอกว่ามันไม่ได้เป็นความสามารถในการต่อ se แต่แตกต่างกันที่สอดคล้องกันทางเพศในเด็กและวัยรุ่น 'ความเชื่อเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาในสาขาวิทยาศาสตร์ความสนใจในวิทยาศาสตร์และความรู้สึกของพวกเขาที่มีความสำคัญของวิทยาศาสตร์เพื่ออนาคตของพวกเขาที่เป็นอุปสรรคต่อเด็กหญิงและผู้หญิงจากการใฝ่หาอาชีพในด้านวิทยาศาสตร์ (Halpern, 2007b) (. andre, et al, 1999; herbert & stipek 2005. Jacobs, et al, 2002) นักวิจัย. ได้พบว่าจากช่วงต้นวัยรุ่นสาวแสดงความสนใจน้อยในอาชีพของวิทยาศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ต่างประเทศ สัดส่วนของนักเรียนนักศึกษารวมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีการลดในช่วงสองทศวรรษ (องค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา [OECD], 2006) ในอินเดีย มากเกินไป นักเรียนสนใจในวิทยาศาสตร์พบจะเป็นพวกเขาปีนบันไดทางการศึกษาจากโรงเรียนสอนระดับระดับตติยภูมิ ในเกรละ ผลการตรวจสอบต่อเนื่องได้เปิดเผยการเข้าที่ ในขณะที่ผู้หญิงทำดีกว่าสอบคณะ ที่ศึกษา และสูงกว่า ระดับรอง ชายด้านการแพทย์ และวิศวกรรมเข้าชมยศ อื่น ๆ ก็คือสังเกตที่ แม้ว่าผู้หญิงโดยทั่วไปไม่ดีเท่า หรือดีกว่าเด็กผู้ชายในการบ้าน การบ้าน และหลักสูตรเกรดในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ เด็กผู้ชายมักจะ outscore หญิงเมื่อทดสอบในเนื้อหาเดียวกันในสถานการณ์ที่แรงดันสูงเช่นการทดสอบมาตรฐานการจำกัดเวลา (Shettle, et al. 2007) ทดสอบเหล่านี้มักจะไม่เชื่อมโยงกับหลักสูตร instructed และเพื่อให้ สามารถเข้าใจจะ วัดความสามารถทั่วไปในวิทยาศาสตร์ (Halpern et al. 2007) แต่ เป็น SAT คะแนนใต้ทำนายประสิทธิภาพการทำงานของสตรีในวิทยาลัยหลักสูตร (Wainer, 1992) แนะนำว่า คุณไม่สามารถ ต่อ se แต่ต่างเพศสอดคล้องความเด็กและเยาวเชื่อเกี่ยวกับความสามารถในวิทยาศาสตร์ ความสนใจในวิทยาศาสตร์ และการรับรู้ความสำคัญของวิทยาการในอนาคตของพวกเขาที่ทำสาวและผู้หญิงจากใฝ่หาอาชีพในวิทยาศาสตร์ (Halpern, 2007b) นักวิจัย (Andre, et al., 1999 เฮอร์เบิร์ต& Stipek, 2005 เจคอปส์ et al., 2002) พบว่า จากวัยรุ่นตอนต้น หญิงแสดงน้อยสนใจในอาชีพวิทยาศาสตร์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในระดับสากลโดยมีสัดส่วนของนักเรียนด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับนักศึกษารวมที่มีการลดลงในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา(องค์กรสำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา( OECD ] 2006 ) ในประเทศอินเดียมากเกินไปส่วนได้เสียของนักเรียนในด้านวิทยาศาสตร์พบว่าลดลงเป็นคนปีนบันไดทางด้านการศึกษาจากชั้นเรียนโรงเรียนมัธยมในระดับขั้น ใน Keralaผลการตรวจสอบอย่างต่อเนื่องได้เปิดเผยว่าในขณะที่เด็กผู้หญิงทำได้ดียิ่งขึ้นในการสอบบอร์ดในระดับรองรองและสูงกว่าเด็กผู้ชายด้านบนสุดเป็นอันดับเข้าชมการเข้าชมงานด้านวิศวกรรมและทางการแพทย์ ในที่อื่นๆได้เห็นว่าแม้ว่าจะเป็นผู้หญิงโดยทั่วไปแล้วจะเป็นอย่างดีหรือดีกว่าเด็กผู้ชายในการบ้านการโอนและเกรดแน่นอนว่าในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์เด็กผู้ชายมีแนวโน้มที่จะ outscore ผู้หญิงเมื่อได้รับการทดสอบแล้วกับเนื้อหาเดียวกันในสถานการณ์แรงดันสูงเช่นการทดสอบมาตรฐานพร้อมด้วยเวลา( shettle et al . 2007 ) การทดสอบนี้โดยปกติจะไม่เชื่อมโยงกับหลักสูตรและได้รับคำแนะนำให้ดังนั้นจึงสามารถทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นมาตรการของความสามารถทั่วไปมากกว่าในด้านวิทยาศาสตร์( halpern et al . 2007 ) แต่คะแนน ประสิทธิภาพ ที่นั่งของเด็กผู้หญิงตาม - ทำนายว่าในหลักสูตรวิทยาลัย( wainer 1992 )มันคือสิ่งที่แนะนำว่าไม่ได้รับความสามารถต่อ SE แต่ความแตกต่างทางเพศอย่างต่อเนื่องในของเด็กและวัยรุ่นความเชื่อเกี่ยวกับความสามารถของพวกเขาในวิทยาศาสตร์ความสนใจของพวกเขาในวิทยาศาสตร์และทัศนคติของพวกเขามีความสำคัญของวิทยาศาสตร์สำหรับการซื้อขายล่วงหน้าของพวกเขาที่ซ่อนเร้นผู้หญิงและผู้หญิงจากสนใจอาชีพในด้านวิทยาศาสตร์( halpern 2007 B ) นักวิจัย( Andre et al . 1999 Herbert & stipek 2005 Jacobs et al . 2002 )พบว่าจากหนุ่มช่วงต้นผู้หญิงแสดงความสนใจน้อยกว่าในอาชีพวิทยาศาสตร์.