The need to understand a networked

The need to understand a networked bureaucracy is obvious, but it is unclear if we have made much theoretical headway since the mid-1990s. Most literature has focused on how to manage networked systems, rather than on implications for politics and governance (O’Toole and Meier 2004). O’Toole and Meier argue that networks should be treated as political institutions, since their establishment is often for political reasons (to perhaps avoid having to deal directly with a controversial issue), and always has political implications. Decisions to contract or privatize functions of government are inherently political, as they involve decisions to shift the locus of state power, and certainly represent choices to move public resources to other network members, including private companies or not-for profit organizations. Yet beyond the call by O’Toole and Meier to focus on these political implications, the field has not yet produced the necessary work. Scott Robinson (2006), for example, argues we lack the conceptual tools to understand the governance implications of different types of networks and how political context shapes their creation, membership, goals, and outcomes. Given the explosive growth of networked administration and its poorly understood implications for public policy and effect on democratic values, there can hardly be a better example of the practical and critical need for theory development, not just in the realm of bureaucratic politics, but also in the general field of public administration.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จำเป็นต้องเข้าใจระบบราชการเครือข่ายจะเห็นได้ชัด แต่เป็นที่ชัดเจนว่าเราได้เจริญมากทฤษฎีตั้งแต่ช่วงกลาง วรรณกรรมส่วนใหญ่ได้มุ่งเน้น ในการจัดการระบบเครือข่าย มากกว่าผลกระทบการเมืองการปกครอง (O'Toole และมุนเช่น 2004) O'Toole และมุนเช่นโต้เถียงว่า เครือข่ายควรเป็นสถาบันการเมือง เนื่องจากพวกเขามักจะเป็นเหตุผลทางการเมือง (เพื่ออาจจะหลีกเลี่ยงการจัดการกับปัญหาความขัดแย้งโดยตรง), และมีนัยทางการเมือง ตัดสินสัญญา หรือ privatize หน้าที่ของรัฐบาลตั้งทางการเมือง พวกเขาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจจะเปลี่ยนโลกัสโพลของอำนาจรัฐ และแน่นอนหมายถึงตัวเลือกทรัพยากรสาธารณะไปทำเครือข่าย รวมทั้งบริษัทเอกชน หรือไม่-สำหรับองค์กรแสวงหากำไร ยัง เกินโทร O'Toole และมุนเช่นเน้นผลกระทบทางการเมืองเหล่านี้ ฟิลด์ได้ไม่ยังผลิตงานจำ สก็อตโรบินสัน (2006), เช่น จนเราขาดเครื่องมือแนวคิดเข้าใจกำกับดูแลผลกระทบของชนิดต่าง ๆ ของเครือข่ายและรูปร่างของบริบททางการเมืองว่าตนสร้าง สมาชิก เป้าหมาย และผลลัพธ์ ให้การเจริญเติบโตของเครือข่ายบริหารและผลกระทบที่ไม่ดีเข้าใจนโยบายสาธารณะและผลกระทบต่อค่าประชาธิปไตย มีแทบไม่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีของการปฏิบัติ และที่สำคัญต้องพัฒนาทฤษฎี ไม่เพียง ในขอบเขตของการเมืองราชการ แต่ ในด้านการบริหารราชการทั่วไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จำเป็นที่จะต้องเข้าใจระบบราชการเครือข่ายที่เห็นได้ชัด แต่ก็เป็นที่ชัดเจนว่าเราได้ทำให้ความคืบหน้าในทางทฤษฎีมากตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 1990 วรรณคดีส่วนใหญ่ได้มุ่งเน้นไปที่วิธีการจัดการระบบเครือข่ายมากกว่าผลกระทบต่อการเมืองและการกำกับดูแล (โอทูลและไมเออร์ 2004) โอทูลและไมเออร์ยืนยันว่าเครือข่ายควรจะถือว่าเป็นสถาบันทางการเมืองนับตั้งแต่การก่อตั้งของพวกเขามักจะเป็นเพราะเหตุผลทางการเมือง (เพื่ออาจจะหลีกเลี่ยงที่จะจัดการโดยตรงกับปัญหาความขัดแย้ง) และมักจะมีผลกระทบทางการเมือง การตัดสินใจที่จะทำสัญญาหรือแปรรูปการทำงานของรัฐบาลทางการเมืองโดยเนื้อแท้เช่นที่พวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนสถานทีของอำนาจรัฐและแน่นอนแสดงตัวเลือกที่จะย้ายทรัพยากรสาธารณะไปยังสมาชิกในเครือข่ายอื่น ๆ รวมทั้ง บริษัท เอกชนหรือไม่สำหรับองค์กรที่แสวงหาผลกำไร แต่นอกเหนือจากการเรียกร้องโดยโอทูลและไมเออร์ให้ความสำคัญกับผลกระทบทางการเมืองเหล่านี้สนามยังไม่ได้ผลิตทำงานที่จำเป็น สกอตต์โรบินสัน (2006) ตัวอย่างเช่นระบุว่าเราขาดเครื่องมือในการคิดที่จะเข้าใจความหมายของการกำกับดูแลที่แตกต่างกันของเครือข่ายและวิธีการทางการเมืองบริบทรูปร่างของพวกเขาสร้างสมาชิกเป้าหมายและผลลัพธ์ ได้รับการเจริญเติบโตระเบิดของการบริหารเครือข่ายและผลกระทบเข้าใจสำหรับนโยบายสาธารณะและผลกระทบต่อค่านิยมประชาธิปไตยมีแทบจะไม่สามารถเป็นตัวอย่างที่ดีของความจำเป็นในการปฏิบัติและสำคัญสำหรับการพัฒนาทฤษฎีไม่เพียง แต่ในขอบเขตของการเมืองระบบราชการ แต่ยังอยู่ใน ข้อมูลทั่วไปของการบริหารรัฐกิจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ความต้องการที่จะเข้าใจระบบราชการเป็นระบบชัดเจน แต่เป็นที่ชัดเจนว่าเราได้ทำให้ความคืบหน้ามากตั้งแต่ช่วงกลางปี 1990 ทฤษฎีวรรณกรรมส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่วิธีการจัดการระบบเครือข่าย มากกว่าผลกระทบต่อการเมืองการปกครอง ( AMD และ ไมเออร์ 2004 ) และ AMD ไมเออร์ยืนยันว่าเครือข่ายควรจะถือว่าเป็นสถาบันทางการเมืองนับตั้งแต่ก่อตั้งของพวกเขามักจะเป็นเพราะเหตุผลทางการเมือง ( บางทีหลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องโดยตรงกับปัญหาที่ถกเถียงกัน ) และมักจะมีผลกระทบทางการเมือง การตัดสินใจในการทำงานของรัฐบาลสัญญา หรือแปรรูปเป็นอย่างโดยเนื้อแท้ทางการเมืองเช่นที่พวกเขาเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนความเชื่อของอำนาจรัฐ และแน่นอนเป็นทางเลือกที่จะย้ายทรัพยากรสาธารณะสมาชิกเครือข่ายอื่น ๆรวมถึง บริษัท เอกชน หรือองค์กรไม่สำหรับกำไร แต่นอกเหนือจากการโทรและโดย AMD ไมเออร์มุ่งผลทางการเมืองเหล่านี้ สนามยังไม่ผลิตงานที่จำเป็น สก็อตต์โรบินสัน ( 2006 ) , เช่น เถียงเราขาดเครื่องมือ แนวคิดเข้าใจความหมายของประเภทที่แตกต่างกันของเครือข่ายธรรมาภิบาลและบริบททางการเมือง รูปร่างการสร้างของพวกเขาสมาชิก , เป้าหมายและผลลัพธ์ ได้รับการเจริญเติบโตระเบิดของเครือข่ายการบริหารงานและเข้าใจความหมายของนโยบายสาธารณะและผลกระทบต่อค่านิยมประชาธิปไตย มันแทบจะเป็นตัวอย่างที่ดีของการปฏิบัติ และที่สำคัญต้องพัฒนาทฤษฎี ไม่ใช่แค่ในขอบเขตของการเมือง ระบบราชการ แต่ยังอยู่ในเขตข้อมูลทั่วไปของการบริหาร