The effect of light and gravity on

The effect of light and gravity on the transmission of Echinostoma caproni cercariae to Biomphalaria glabrata was investigated experimentally. The results suggest that cercariae of E. caproni exhibit negative photo- and geotaxis in searching for a second intermediate host. Stereotypical releaser responses to environmental trigger cues (light and gravity) allow E. caproni cercariae to exploit flexible strategies for completing the life cycle consistent with the broad range second intermediate and definitive hosts used by E. caproni cercariae and adults, respectively (Platt et al., 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลของแสงและแรงโน้มถ่วงส่ง Echinostoma caproni cercariae เพื่อ Biomphalaria ไข่ถูกสอบสวน experimentally ผลแนะนำว่า cercariae E. caproni แสดงค่าลบภาพและ geotaxis ในการค้นหาโฮสต์กลางสอง ตอบ stereotypical releaser สัญญาณทริกเกอร์ที่ด้านสิ่งแวดล้อม (แสงและแรงโน้มถ่วง) ให้อี caproni cercariae เพื่อใช้กลยุทธ์มีความยืดหยุ่นในการดำเนินชีวิตรอบสอดคล้องกับสิ่งที่สองกลางและโฮสต์ definitive ใช้ โดย E. caproni cercariae และผู้ใหญ่ ลำดับที่ (Platt et al., 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผลกระทบของแสงและแรงโน้มถ่วงในการส่ง echinostoma Caproni cercariae จะ Biomphalaria glabrata ถูกตรวจสอบการทดลอง ผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นว่า cercariae อี Caproni แสดงลบภาพและ geotaxis ในการค้นหาโฮสต์กลางที่สอง การตอบสนอง releaser โปรเฟสเซอร์ที่จะชี้นำเรียกสิ่งแวดล้อม (แสงและแรงโน้มถ่วง) อนุญาตให้อี Caproni cercariae จะใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ที่มีความยืดหยุ่นสำหรับการให้วงจรชีวิตที่สอดคล้องกับความหลากหลายโฮสต์กลางและขั้นที่สองโดยใช้อี cercariae Caproni และผู้ใหญ่ตามลำดับ (แพลตและอัล . 2009)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผลของแสงและแรงโน้มถ่วงในการส่งผ่านของตาสีตาสากาโปรนีการทอดผ้าป่าเพื่อ biomphalaria บ่อยคือไดนามิคส์ ผลแนะนำว่า การทอดผ้าป่าของ E . กาโปรนีแสดงลบภาพและ geotaxis ในการค้นหาที่สองกลางเป็นเจ้าภาพ การปลดปล่อย stereotypical สัญญาณเรียกสิ่งแวดล้อม ( แสงและแรงโน้มถ่วง ) ให้ Eกาโปรนีการทอดผ้าป่าเพื่อใช้ประโยชน์จากกลยุทธ์ที่ยืดหยุ่นเพื่อจบวัฏจักรชีวิตที่สอดคล้องกับช่วงกว้างสองขั้นแตกหัก โฮสต์ใช้โดยกาโปรนีการทอดผ้าป่าและผู้ใหญ่ตามลำดับ ( แพลทท์ et al . , 2009 )