Commercially available ultrasound-b

Commercially available ultrasound-based NDT equipments are typically too large, power-intensive, and
expensive for WSNs. Even handheld NDT equipment, considered to be low cost and portable, typically average
around $1,000 per unit (e.g. TG110), and can vary up to several hundred thousands of dollars for a graphical-based
flaw detection device. Graphically displaying measured data on a colored display in real-time is a power intensive
process that requires very high sampling analog to digital converters (ADCs) and sophisticated graphical display
technology. This is a process not required for a WSN since raw data is wirelessly reported back to a server where it
is displayed only when needed. Therefore, the only required part of an NDT system is the ultrasound front-end,
which is the generation of the ultrasound signal and its timely reception. This significantly reduces power
consumption, size, and cost of a WSN-based NDT system. Furthermore, high speed ADCs would not be required for
thickness-based NDT, which significantly reduces power burdens on the system. Applications of a WSN-based
NDT solution would be most suitable for low cost monitoring of material thickness in a mobile, or static, remote
environments, where constant monitoring over an extended period of time, while in operation, is essential. For
example, a WSN-based NDT can be utilized to monitor the thickness of hydrotransport metal pipes, monitoring of
equipment integrity in harsh environments, monitoring the thickness of excavation shovel teeth while in operation,
monitoring for cracks in bridges, etc.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ใช้ได้ในเชิงพาณิชย์โดยใช้เครื่องอัลตราซาวด์ผู้อุปกรณ์โดยทั่วไปมีขนาดใหญ่เกินไป ใช้พลังงาน มาก และแพงสำหรับ WSNs อุปกรณ์ผู้แม้แต่มือถือ ถือเป็นต้นทุนต่ำ และแบบพกพา เฉลี่ยโดยทั่วไปสถานที่ 1000 ดอลลาร์ ต่อหน่วย (เช่น TG110), และสามารถเปลี่ยนแปลงได้ถึงหลายร้อยพันดอลลาร์สำหรับเป็นรูปภาพตามอุปกรณ์ตรวจจับปัญหา ภาพแสดงข้อมูลวัดในการแสดงสีในแบบเรียลไทม์เป็นกำลังเร่งรัดกระบวนการที่ต้องใช้การสุ่มแบบแอนะล็อกกับดิจิทัลแปลง (ADCs) สูงมากและการแสดงผลกราฟิกที่ซับซ้อนเทคโนโลยี นี้เป็นกระบวนการไม่จำเป็นสำหรับ WSN เป็นเนื่องจากข้อมูลดิบมีสายรายงานกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่จะจะแสดงเฉพาะเมื่อจำเป็น ดังนั้น ส่วนที่จำเป็นเฉพาะระบบผู้เป็นซาวด์เวอร์ซึ่งเป็นการสร้างสัญญาณอัลตร้าซาวด์และการรับของทันที นี้สามารถลดการใช้พลังงานปริมาณการใช้ ขนาด และต้นทุนของระบบผู้ใช้ WSN นอกจากนี้ ความเร็วสูง ADCs จะไม่จำเป็นสำหรับใช้ความหนาผู้ ซึ่งลดภาระไฟฟ้าในระบบ ใช้ WSN ขึ้นอยู่ผู้แก้ปัญหาจะเหมาะสมที่สุดสำหรับการตรวจสอบความหนาของวัสดุในมือถือ ต้นทุนต่ำ หรือคงที่ ระยะไกลแวดล้อม ตรวจสอบระยะเวลาการขยายเวลา ในการดำเนินงาน คงที่จำเป็น สำหรับสามารถใช้ตัวอย่าง ผู้ที่ใช้ WSN เพื่อตรวจสอบความหนาของท่อโลหะ hydrotransport ตรวจสอบความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมรุนแรง ตรวจสอบความหนาของฟันพลั่วขุดในการดำเนินงานตรวจสอบรอยแตกในสะพาน ฯลฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เชิงพาณิชย์ที่มีอุปกรณ์ NDT อัลตราซาวนด์ที่ใช้โดยทั่วไปจะมีขนาดใหญ่เกินไปอำนาจมากและ
มีราคาแพงสำหรับ WSNS แม้กระทั่งอุปกรณ์ NDT มือถือถือเป็นค่าใช้จ่ายต่ำและแบบพกพาโดยทั่วไปเฉลี่ย
ประมาณ $ 1,000 ต่อหน่วย (เช่น TG110) และสามารถแตกต่างกันได้ถึงหลายร้อยหลายพันดอลลาร์สำหรับกราฟิกที่ใช้
อุปกรณ์ตรวจจับข้อบกพร่อง กราฟแสดงข้อมูลที่วัดได้บนจอแสดงผลสีในเวลาจริงเป็นพลังงานที่เข้มข้น
กระบวนการที่ต้องใช้การสุ่มตัวอย่างแบบอะนาล็อกสูงมากที่จะแปลงดิจิตอล (ADCs) และการแสดงผลกราฟิกที่มีความซับซ้อน
เทคโนโลยี นี้เป็นกระบวนการไม่จำเป็นสำหรับ WSN ตั้งแต่ข้อมูลดิบที่มีการรายงานแบบไร้สายกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่มัน
จะปรากฏเฉพาะเมื่อมีความจำเป็น ดังนั้นส่วนที่จำเป็นเท่านั้นของระบบ NDT เป็นอัลตราซาวนด์แบบ Front-end,
ซึ่งเป็นรุ่นของสัญญาณอัลตราซาวนด์และรับทันเวลา นี้อย่างมีนัยสำคัญลดการใช้พลังงาน
สิ้นเปลืองขนาดและค่าใช้จ่ายของระบบ NDT WSN-based นอกจาก ADCs ความเร็วสูงจะไม่จำเป็นสำหรับ
NDT ความหนาตามที่มีนัยสำคัญจะช่วยลดภาระการใช้พลังงานในระบบ การประยุกต์ใช้งานของ WSN-based
โซลูชั่นที่ NDT จะเหมาะที่สุดสำหรับการตรวจสอบค่าใช้จ่ายต่ำของความหนาของวัสดุที่ใช้ในมือถือหรือคงที่ระยะไกล
สภาพแวดล้อมที่ตรวจสอบคงที่ตลอดระยะเวลานานในขณะที่ในการดำเนินงานเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับ
ตัวอย่างเช่น NDT WSN-based สามารถนำไปใช้ในการตรวจสอบความหนาของท่อโลหะ hydrotransport, ตรวจสอบ
ความสมบูรณ์ของอุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง, การตรวจสอบความหนาของฟันจอบขุดในขณะที่ในการดำเนินการ
ตรวจสอบสำหรับรอยแตกในสะพาน ฯลฯ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

Commercially available ultrasound-based NDT equipments are typically too large, power-intensive, and
expensive for WSNs. Even handheld NDT equipment, considered to be low cost and portable, typically average
around $1,000 per unit (e.g. TG110), and can vary up to several hundred thousands of dollars for a graphical-based
flaw detection device. Graphically displaying measured data on a colored display in real-time is a power intensive
process that requires very high sampling analog to digital converters (ADCs) and sophisticated graphical display
technology. This is a process not required for a WSN since raw data is wirelessly reported back to a server where it
is displayed only when needed. Therefore,แค่เป็นส่วนหนึ่งของระบบ NDT อัลตราซาวด์ด้านหน้าสิ้นสุด
ซึ่งเป็นรุ่นของคลื่นสัญญาณและรับทันเวลาของมัน นี้ช่วยลดการบริโภคพลังงาน
, ขนาด , และราคาของ WSN ระบบ NDT ที่ใช้ นอกจากนี้ adcs ความเร็วสูงจะไม่จําเป็นสําหรับ
หนา NDT ตาม , ซึ่งช่วยลดภาระไฟฟ้าในระบบ การใช้งานของ WSN โดยใช้
NDT solution would be most suitable for low cost monitoring of material thickness in a mobile, or static, remote
environments, where constant monitoring over an extended period of time, while in operation, is essential. For
example, a WSN-based NDT can be utilized to monitor the thickness of hydrotransport metal pipes, monitoring of
equipment integrity in harsh environments, monitoring the thickness of excavation shovel teeth while in operation,
monitoring for cracks in bridges, etc.