he first study investigating NAFLD

he first study investigating NAFLD prevalence and severity in patients with COPD demonstrated that steatosis, NASH, and fibrosis prevalence were 41%, 37%, and 61%, respectively. Also, obesity and insulin resistance were found to associate COPD with systemic inflammation [11]. These metabolic disturbances are associated with an increased risk of adverse outcomes such as liver cirrhosis, hepatocarcinoma, and a significant mortality increase

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การศึกษาครั้งแรกที่ตรวจสอบความชุกและความรุนแรงของ NAFLD ในผู้ป่วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังแสดงให้เห็นว่าความชุกของโรคไขมันในเลือดสูง NASH และพังผืดอยู่ที่ 41%, 37% และ 61% ตามลำดับ นอกจากนี้ยังพบว่าโรคอ้วนและการดื้อต่ออินซูลินสัมพันธ์กับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังกับการอักเสบทั่วร่างกาย [11] ความผิดปกติทางเมตาบอลิซึมเหล่านี้สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น โรคตับแข็ง มะเร็งตับ และการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานวิจัยชิ้นแรกที่สำรวจความชุกและความรุนแรงของ NAFLD ในผู้ป่วย COPD พบว่าความชุกของไขมันเสื่อม NASH และพังผืดอยู่ที่ 41%, 37% และ 61% ตามลำดับ นอกจากนี้, โรคอ้วนและดื้อต่ออินซูลินพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับ COPD และการอักเสบทั่วไป[11]. ความผิดปกติของการเผาผลาญเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของผลกระทบที่ไม่พึงประสงค์ เช่น โรคตับแข็ง โรคมะเร็งตับ และการเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การศึกษาครั้งแรกเกี่ยวกับความชุกและความรุนแรงของNAFLDในผู้ป่วยโรคปอดบวมแสดงให้เห็นว่าความชุกของการเสื่อมสภาพของไขมันNASHและfibrosisเท่ากับ41 %,37 %และ61 %ตามลําดับ นอกจากนี้ความอ้วนและความต้านทานต่ออินซูลินพบว่าเกี่ยวข้องกับโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและการอักเสบในระบบ[ 11 ] ความผิดปกติของการเผาผลาญเหล่านี้เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นและอัตราการตายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญสําหรับผลข้างเคียง(เช่นโรคตับแข็งและมะเร็งตับ)