A few years ago, a woman went into

A few years ago, a woman went into a small café in south Carolina in the U.S.A. and ordered a cap of coffee. When she was finished with her coffee. She paid 100 ,which was much more then it cost. She told the café to use the extra money for customer who needed it. Why did she do this? Was she just being kind? Or could it be that she was acting out of a more basic human motivation, the will to survive?
The café where this took place was where local people gathered regularly. As word of the woman’s generosity spread, more customers decided to also leave a little extra money as well. This happened at a time of high unemployment, when no one knew who would lose their job next. The customers in the shop realize they needed to help sustain each other through a difficult economic situation.
Let’s have a look at the finding of psychologists who have studied kindness as it relates to our survival instinct. The basic concept is that people are kind to each other to ensure survival; that is, it is in everyone‘s best interest to help one another. When we are kind , we connect with other people and create a sense of community in which to live. We do kind things because we want to others to do kind things for us; in other word, we want to foster reciprocity between people because it help us all to survive.
There are two ways reciprocity works. There’s direct reciprocity in which two people agree to a specific exchange; for example I agree to help you move some heavy boxes and you agree to help me review for my exam.
The coffee shop tale however is an example of indirect reciprocity. In this case, I do something for you; you then help someone else; that person go no to help a third or fourth person. In this way, we establish that it is ok to ask one another for help. Through these acts of kindness we build a bond with one another be it our family, our friends, our neighbors-and thereby a sense of community that help us all to survive daily.
But acts of kindness go beyond our local community. Every year there are natural disaster, such as earthquakes, floods, and drought. Afterward, people from other parts of the world-total strangers-respond to help. They send food water medical supplies and other types of emergency aid to disaster victims. Responses to natural disaster take indirect reciprocity one step further in the sense that individuals can’t possibly expect they will get anything direct back.
That said, their actions highlight that all countries are part of a global community in which it's to everyone's
survival advantage to help one another in times or dire need.

Related to this is the question : What makes someone risk his or her life for a total stranger? This doesn't
sound like an urge for survival, and yet it is not unusual to hear reports of people who put their own
lives in danger to perform spontaneous acts of kindness in order to save someone they've never met
before. One such case was a recent story about a car that plunged into a river with two small children
in the back seat. Another driver jumped into the river and saved the children. Afterward, he was called
a hero. The man said,"I'm not a hero. If a stranger saw that my children needed help, he would help
them." This man risked his own life because his first priority was to help others survive.
By building bonds of reciprocity, we develop a sense of trust that we will take care of one another.
It's i everyone's best interest to create a sense of community. And, the stronger the community, the
better chance we all have of living better lives, and surviving and

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กี่ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงเดินเข้าไปในร้านกาแฟเล็ก ๆ ในเซาท์แคโรไลนาในสหรัฐอเมริกา และสั่งหมวกของกาแฟ เมื่อเธอเสร็จกับกาแฟของเธอ เธอจ่าย 100 ซึ่งถูกมาก แล้วคะ เธอบอกว่า ร้านกาแฟจะใช้เงินพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการมัน ทำไมไม่ได้เธอทำเช่นนี้ มีเธอเพียงถูกประเภทหรือไม่ หรือมันอาจเป็นว่า เธอทำหน้าที่ไม่เป็นพื้นฐานบุคคลแรงจูงใจ จะไปรอดหรือไม่คาเฟ่ที่นี้เอาสถานที่รวบรวมเป็นประจำของคนในท้องถิ่น เป็นคำของของหญิงอารีย์แพร่กระจาย เพิ่มเติมลูกค้าตัดสินใจจะยัง ปล่อยให้เงินการเสริมเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เกิดขึ้นในแต่ละครั้งของการว่างงานสูง เมื่อไม่มีใครรู้ซึ่งจะสูญเสียงานของพวกเขาต่อไป ลูกค้าในร้านคือจะต้องช่วยกันถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลองดูที่ค้นหาของนักจิตวิทยาที่มีศึกษาความเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณของเราอยู่รอด ได้ แนวคิดพื้นฐานคือคนดีเพื่อให้แน่ใจว่ารอดตาย กล่าวคือ มันอยู่ในของทุกคนดีสนใจช่วยกัน เมื่อเราดี เราเชื่อมต่อกับผู้อื่น และสร้างความรู้สึกของชุมชนที่ เราทำสิ่งที่ดี เพราะเราต้องการให้ผู้อื่นทำสิ่งที่ดีสำหรับเรา ในคำอื่น ๆ เราต้องสร้าง reciprocity คนเนื่องจากมันช่วยให้เราทั้งหมดเพื่อความอยู่รอดมีสองวิธี reciprocity ทำงาน มีที่คนสองคนตกลงที่จะแลกเงินเฉพาะ reciprocity โดยตรง ตัวอย่าง ฉันตกลงที่จะช่วยให้คุณสามารถย้ายกล่องบางหนัก และคุณตกลงที่จะช่วยตรวจสอบสำหรับการสอบของฉันThe coffee shop tale however is an example of indirect reciprocity. In this case, I do something for you; you then help someone else; that person go no to help a third or fourth person. In this way, we establish that it is ok to ask one another for help. Through these acts of kindness we build a bond with one another be it our family, our friends, our neighbors-and thereby a sense of community that help us all to survive daily.But acts of kindness go beyond our local community. Every year there are natural disaster, such as earthquakes, floods, and drought. Afterward, people from other parts of the world-total strangers-respond to help. They send food water medical supplies and other types of emergency aid to disaster victims. Responses to natural disaster take indirect reciprocity one step further in the sense that individuals can’t possibly expect they will get anything direct back. That said, their actions highlight that all countries are part of a global community in which it's to everyone'ssurvival advantage to help one another in times or dire need.Related to this is the question : What makes someone risk his or her life for a total stranger? This doesn'tsound like an urge for survival, and yet it is not unusual to hear reports of people who put their ownlives in danger to perform spontaneous acts of kindness in order to save someone they've never metbefore. One such case was a recent story about a car that plunged into a river with two small childrenin the back seat. Another driver jumped into the river and saved the children. Afterward, he was calleda hero. The man said,"I'm not a hero. If a stranger saw that my children needed help, he would helpthem." This man risked his own life because his first priority was to help others survive.By building bonds of reciprocity, we develop a sense of trust that we will take care of one another.It's i everyone's best interest to create a sense of community. And, the stronger the community, thebetter chance we all have of living better lives, and surviving and

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ไม่กี่ปีที่ผ่านมาผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้าไปในร้านกาแฟเล็ก ๆ ในเซาท์แคโรไลนาในประเทศสหรัฐอเมริกาและสั่งหมวกของกาแฟ เมื่อเธอเสร็จด้วยเครื่องชงกาแฟของเธอ เธอจ่าย 100 ซึ่งได้มากขึ้นแล้วก็ค่าใช้จ่าย เธอบอกคาเฟ่ที่จะใช้เงินเพิ่มสำหรับลูกค้าที่จำเป็นต้องใช้มัน เธอไม่ทำเช่นนี้ทำไม? เธอเป็นเพียงการชนิด? หรืออาจเป็นไปได้ว่าเธอกำลังทำออกมาจากแรงจูงใจขั้นพื้นฐานของมนุษย์มากขึ้นจะรอด?
คาเฟ่ที่เกิดขึ้นนี้เป็นที่ที่คนในท้องถิ่นรวมตัวกันเป็นประจำ ในฐานะที่เป็นคำของการแพร่กระจายความเอื้ออาทรของผู้หญิง, ลูกค้ามากขึ้นจึงตัดสินใจที่จะยังปล่อยให้เงินพิเศษเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้เป็นอย่างดี เรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาของการว่างงานสูงเมื่อไม่มีใครรู้ว่าใครจะสูญเสียงานของพวกเขาต่อไป ลูกค้าในร้านตระหนักว่าพวกเขาจำเป็นที่จะช่วยรักษาแต่ละอื่น ๆ ผ่านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบาก.
Let 's ได้ดูที่ผลการศึกษาของนักจิตวิทยาที่มีการศึกษาความเมตตาเป็นที่เกี่ยวกับสัญชาตญาณการอยู่รอดของเรา แนวคิดพื้นฐานคือคนใจดีกับแต่ละอื่น ๆ เพื่อให้มีชีวิตอยู่รอด; ว่ามีที่มันมีอยู่ในทุกคนที่ดีที่สุดของความสนใจที่จะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเราเป็นชนิดที่เราเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ และสร้างความรู้สึกของชุมชนในการที่จะมีชีวิตอยู่ เราทำในสิ่งที่ชนิดเพราะเราต้องการที่จะให้คนอื่นทำในสิ่งที่ชนิดสำหรับเรา ในคำอื่น ๆ ที่เราต้องการที่จะส่งเสริมให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้คนเพราะมันช่วยให้พวกเราทุกคนที่จะอยู่รอด.
มีสองวิธีการทำงานร่วมกันเป็น มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันโดยตรงในการที่คนสองคนตกลงที่จะแลกเปลี่ยนเฉพาะ ตัวอย่างเช่นผมเห็นด้วยที่จะช่วยให้คุณย้ายบางกล่องหนักและคุณตกลงที่จะช่วยให้ฉันทบทวนสำหรับการสอบของฉัน.
เรื่องร้านกาแฟ แต่เป็นตัวอย่างของการแลกเปลี่ยนทางอ้อม ในกรณีนี้ผมทำอะไรบางอย่างสำหรับคุณ แล้วคุณช่วยคนอื่น; บุคคลที่ไปไม่มีที่จะช่วยให้บุคคลที่สามหรือสี่ ด้วยวิธีนี้เราสร้างว่ามันก็โอเคที่จะถามอีกคนหนึ่งเพื่อขอความช่วยเหลือ ผ่านการกระทำเหล่านี้ของความเมตตาที่เราสร้างความผูกพันกับคนอื่นไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของเราเพื่อนของเราเพื่อนบ้านและเราจึงรู้สึกของชุมชนที่จะช่วยให้พวกเราทุกคนที่จะอยู่รอดในชีวิตประจำวัน.
แต่การกระทำของความเมตตานอกเหนือไปจากชุมชนท้องถิ่นของเรา ทุกปีจะมีภัยพิบัติทางธรรมชาติเช่นแผ่นดินไหวน้ำท่วมและภัยแล้ง หลังจากนั้นผู้คนจากส่วนอื่น ๆ ของโลกรวมคนแปลกหน้า-ตอบสนองที่จะช่วยให้ พวกเขาส่งเวชภัณฑ์น้ำอาหารและประเภทอื่น ๆ ของความช่วยเหลือฉุกเฉินเพื่อผู้ประสบภัยพิบัติ การตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติใช้เวลาร่วมกันทางอ้อมหนึ่งขั้นตอนต่อไปในแง่ที่ว่าบุคคลที่ไม่อาจคาดหวังว่าพวกเขาจะได้รับอะไรกลับโดยตรง.
ที่กล่าวว่าการกระทำของพวกเขาเน้นว่าทุกประเทศที่เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมโลกในการที่จะเป็นไปของทุกคน
ได้เปรียบในการอยู่รอด . ช่วยอีกคนหนึ่งในช่วงเวลาหรือต้องตกระกำลำบากที่เกี่ยวข้องกับการนี้คือคำถาม: สิ่งที่ทำให้ใครบางคนที่มีความเสี่ยงในชีวิตของเขาหรือของเธอสำหรับคนแปลกหน้าทั้งหมด? นี้ไม่ได้เสียงเหมือนกระตุ้นเพื่อความอยู่รอดและยังเป็นไม่แปลกที่จะได้ยินรายงานของผู้ที่ใส่ของตัวเองชีวิตตกอยู่ในอันตรายที่จะดำเนินการกระทำที่เกิดขึ้นเองของความเมตตาเพื่อประหยัดคนที่พวกเขาไม่เคยพบมาก่อน หนึ่งในกรณีเช่นเป็นเรื่องที่ผ่านมาเกี่ยวกับรถที่ตกลงไปอยู่ในแม่น้ำที่มีสองเด็กเล็กในเบาะหลัง อีกคนขับกระโดดลงไปในแม่น้ำและบันทึกเด็ก หลังจากนั้นเขาถูกเรียกตัวพระเอก ชายกล่าวว่า "ฉันไม่ได้เป็นวีรบุรุษ. ถ้าคนแปลกหน้าเห็นว่าลูก ๆ ของฉันต้องการความช่วยเหลือเขาจะช่วยให้พวกเขา. " ผู้ชายคนนี้เสี่ยงชีวิตของเขาเองเพราะความสำคัญอันดับแรกของเขาคือการช่วยให้คนอื่นอยู่รอด. โดยการสร้างพันธบัตรของความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันเราพัฒนาความรู้สึกของความไว้วางใจว่าเราจะดูแลคนอื่น. มันเป็นผมที่ดีที่สุดของทุกคนที่สนใจในการสร้างความรู้สึกของชุมชน และที่แข็งแกร่งชุมชนโอกาสที่ดีกว่าเราทุกคนมีของชีวิตที่ดีขึ้นและมีชีวิตรอดและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไม่กี่ปีที่ผ่านมา ผู้หญิงเข้าไปในคาเฟ่เล็กๆ ในรัฐเซาท์แคโรไลน่าในสหรัฐอเมริกา และสั่งให้หมวกของกาแฟ เมื่อเธอเสร็จ . . . เธอจ่ายเงิน 100 ซึ่งมีต้นทุนมากขึ้นแล้วค่ะ เธอบอกคาเฟ่ใช้เงินพิเศษสำหรับลูกค้าที่ต้องการมัน ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ ? เธอแค่เป็นแบบไหน ? หรืออาจจะเป็นที่เธอทำออกมาจากพื้นฐานเพิ่มเติมของแรงจูงใจจะรอดไหม ?
คาเฟ่ที่เอาสถานที่ที่ประชาชนรวมตัวกันเป็นประจำ เป็นคำพูดของผู้หญิงความเอื้ออาทรกระจาย ลูกค้าตัดสินใจที่จะทิ้งเงินเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเช่นกัน นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาของการว่างงานสูง เมื่อไม่มีใครรู้ว่า จะสูญเสียงานของพวกเขาต่อไปลูกค้าในร้านได้ตระหนักว่าพวกเขาต้องการที่จะช่วยประคับประคองกันและกันผ่านสถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ยากลำบาก .
ดูหาของนักจิตวิทยาที่ศึกษาความเมตตาในขณะที่มันเกี่ยวข้องกับสัญชาตญาณการอยู่รอดของเรา แนวคิดพื้นฐานคือการที่ผู้คนใจดีกับแต่ละอื่น ๆเพื่อให้อยู่รอด คือ มันอยู่ในความสนใจที่ดีที่สุดของทุกคนต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เมื่อเราเป็นประเภทเราเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ และสร้างความรู้สึกของชุมชน ในการที่จะมีชีวิตอยู่ เราทำแบบนี้เพราะเราต้องการให้คนอื่นทำมันเพื่อเรา ในคำอื่น ๆที่เราต้องการที่จะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน เพราะมันช่วยให้เราทั้งหมดเพื่อความอยู่รอด
มี 2 วิธีร่วมกันทำงาน มีการแลกเปลี่ยนโดยตรง ที่ สอง คน เห็นด้วยกับตราเฉพาะตัวอย่างเช่นฉันตกลงที่จะช่วยให้คุณย้ายกล่องหนักและตกลงที่จะช่วยให้ฉันทบทวนสำหรับการสอบของฉัน .
ร้านกาแฟนิทาน แต่เป็นตัวอย่างของการแลกเปลี่ยนทางอ้อม ในกรณีนี้ ผมทำเพื่อคุณ คุณช่วยคนอื่น ที่คน ไป ไม่ เพื่อช่วยให้บุคคลที่สามหรือสี่ วิธีนี้เราสร้างว่าตกลงจะขอให้คนอื่นช่วยผ่านการกระทำของความเมตตานี้เราสร้างสายสัมพันธ์กับคนอื่นไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน เพื่อนบ้าน และเพื่อความรู้สึกของชุมชนที่ช่วยให้เราทั้งหมดเพื่อความอยู่รอดของเราทุกวัน .
แต่ความมีน้ำใจนอกเหนือไปจากชุมชนท้องถิ่นของเรา ทุกปีมีภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว น้ำท่วม และภัยแล้ง หลังจากนั้น ผู้คนจากส่วนอื่น ๆของโลกกับคนแปลกหน้าตอบสนองที่จะช่วยพวกเขาส่งน้ำ อาหาร เวชภัณฑ์ และประเภทอื่น ๆของความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ผู้ประสบภัยพิบัติ การตอบสนองต่อภัยพิบัติธรรมชาติใช้ทางอ้อมร่วมกันอีกขั้นหนึ่งในความรู้สึกที่บุคคลไม่อาจจะคาดหวังว่าพวกเขาจะได้รับสิ่งที่ตรงกลับ
ที่บอกว่า การกระทำของพวกเขาเน้นว่าทุกประเทศเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนโลกที่มันทุกคน
ประโยชน์เพื่อช่วยให้รอดอีกแบบหนึ่งในเวลาหรือต้องการความช่วยเหลือ

ที่เกี่ยวข้องกับนี้คือคำถาม : อะไรที่ทำให้คนเสี่ยงชีวิตของเขาหรือเธอสำหรับคนแปลกหน้า ? นี้ไม่ได้
เหมือนกระตุ้น เพื่อความอยู่รอด แต่มันไม่ได้ผิดปกติเพื่อฟังรายงานของผู้ที่ให้ชีวิตของพวกเขาเอง
ในอันตรายจะกระทําการธรรมชาติของความเมตตาเพื่อที่จะช่วยให้พวกเขาไม่เคยเจอ
มาก่อนกรณีดังกล่าวเป็นเรื่องล่าสุดเกี่ยวกับรถที่ตกอยู่ในแม่น้ำที่มีสองเด็กเล็ก
อยู่เบาะหลัง ขับอีก กระโดดลงในแม่น้ำและช่วยเด็ก หลังจากนั้น เขาถูกเรียกว่า
ฮีโร่ เขากล่าวว่า " ผมไม่ใช่ฮีโร่ ถ้าคนอื่นเห็นว่าเด็กๆ ต้องการความช่วยเหลือ เขาจะช่วย
พวกเขา . " เขาเสี่ยงชีวิตเพราะอันดับแรกของเขาคือการช่วยให้ผู้อื่นอยู่รอด
โดยการสร้างพันธะของการแลกเปลี่ยน เราพัฒนาความรู้สึกไว้วางใจว่า เราจะดูแลกันและกัน .
ก็ฉันทุกคนสนใจที่ดีที่สุดเพื่อสร้างความรู้สึกของชุมชน และ แข็งแกร่งชุมชน
โอกาสดีกว่าเรามีของชีวิตที่ดีกว่า และอยู่รอด และ