Geneva – The International Air Tran

Geneva – The International Air Transport Association (IATA) welcomed the decision by representatives at the International Civil Aviation Organization (ICAO) to agree a CO2 efficiency Standard for commercial aircraft.

The Standard, which has taken six years of painstaking negotiation and technical work, was approved by ICAO’s Committee on Aviation Environmental Protection. The Standard, to come into force from 2020, will ensure that CO2 emissions from new aircraft will have to meet a minimum baseline (defined as a maximum fuel burn per flight kilometre which must not be exceeded). From 2023 this will also apply to existing aircraft designs still in manufacture at that date.

“The agreement of this CO2 Standard is a vital and very welcome development. The CO2 Standard does not solve aviation’s climate challenge on its own, but it is an important element in our comprehensive strategy for tackling carbon emissions. The next milestone will be the implementation of a market-based measure to address CO2 emissions, which we hope to see agreed at the ICAO Assembly in September. Our shared industry goals are for carbon-neutral growth from 2020, and for a 50% cut in CO2 emissions by 2050. This CO2 standard is a significant milestone towards those targets, and proves that the industry and the world’s governments are working together to find a sustainable future for aviation,” said Tony Tyler, IATA’s Director General and CEO.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เจนีวา – นานาอากาศขนส่งสมาคม (IATA) ต้อนรับการตัดสินใจ โดยตัวแทนที่การนานาพลเรือนการบินองค์กร (ICAO) การยอมรับประสิทธิภาพ CO2 มาตรฐานสำหรับเครื่องบินพาณิชย์มาตรฐาน ซึ่งได้ดำเนินการ 6 ปีด้วยความยากลำบากในการเจรจาต่อรอง และเทคนิค การทำงาน ได้รับการอนุมัติ โดยคณะกรรมการการบินป้องกันสิ่งแวดล้อมของ ICAO มาตรฐาน เพื่อใช้บังคับจาก 2020 จะช่วยให้การปล่อย CO2 จากเครื่องบินลำใหม่จะต้องตอบสนองข้อมูลพื้นฐานขั้นต่ำ (กำหนดให้เป็นน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุดในการเขียนต่อกิโลเมตรเที่ยวบินซึ่งต้องไม่เกิน) จาก 2023 นี้จะใช้กับเครื่องบินที่มีอยู่ออกแบบในการผลิต ณวันที่ด้วย "ข้อตกลงของ CO2 มาตรฐานนี้เป็นการพัฒนาที่สำคัญ และยินดีมาก CO2 มาตรฐานการแก้ปัญหาท้าทายสภาพภูมิอากาศจากการบินด้วยตัวเอง แต่มันเป็นองค์ประกอบสำคัญในกลยุทธ์ของเราครอบคลุมการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก้าวถัดไปจะเป็นการดำเนินการของการวัดที่ใช้ตลาดการปล่อย CO2 อยู่ ซึ่งเราหวังว่าจะดูสมประกอบ ICAO ในเดือนกันยายน เป้าหมายของเราอุตสาหกรรมร่วมคือคาร์บอนสมดุลการเจริญเติบโตจากปี 2020 และ สำหรับการตัด 50% ปล่อย CO2 2593 มาตรฐานนี้ CO2 เป็นสำคัญไปสู่เป้าหมายเหล่านั้น และพิสูจน์ให้เห็นว่า อุตสาหกรรมและรัฐบาลโลกทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาอนาคตยั่งยืนสำหรับการบิน กล่าวว่า โทนี่ไทเลอร์ ของ IATA กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เจนีวา–สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ( IATA ) ยินดีกับการตัดสินใจโดยตัวแทนที่องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ( ICAO ) การยอมรับประสิทธิภาพ CO2 มาตรฐานสำหรับเครื่องบินเชิงพาณิชย์มาตรฐาน ซึ่งมี 6 ปีของการเจรจา ความเพียร และเทคนิคงานได้รับการอนุมัติโดยคณะกรรมการเคาคือการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมในการบิน มาตรฐานการใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2020 จะมั่นใจได้ว่า การปล่อย CO2 จากเครื่องบินใหม่จะต้องตอบสนองพื้นฐานต่ำสุด ( กำหนดเป็นเชื้อเพลิงเผาสูงสุดต่อเที่ยวบินกิโลเมตร ซึ่งต้องไม่เกิน ) จาก 2566 นี้จะใช้กับอากาศยานการออกแบบที่มีอยู่ยังคงผลิตในวันนั้น" ข้อตกลงนี้ CO2 มาตรฐานที่สำคัญการพัฒนาและยินดีมาก มาตรฐาน CO2 ไม่แก้ความท้าทายอากาศการบินอยู่ในตัวเอง แต่มันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกลยุทธ์ของเราที่ครอบคลุมสำหรับการแก้ปัญหาการปล่อยก๊าซคาร์บอน ขั้นต่อไป จะเป็นวัดที่อยู่ตามตลาดตามสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเราหวังว่าจะได้เห็นความคิดเห็นที่เคาประกอบในเดือนกันยายน ของเราใช้เป็นเป้าหมายสำหรับการเติบโตอุตสาหกรรมคาร์บอนเป็นกลางจาก 2020 และลด 50% ในการปล่อย CO2 ภายในปี 2050 นี้เป็นอย่างมีนัยสำคัญ CO2 มาตรฐานก้าวไปสู่เป้าหมายเหล่านั้น และพิสูจน์ให้เห็นว่าอุตสาหกรรมและรัฐบาลของโลกกำลังทำงานร่วมกันเพื่อค้นหาอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับการบิน กล่าวว่า โทนี่ ไทเลอร์ อธิบดีนำและผู้บริหาร