All five studies that assessed the

All five studies that assessed the association
between outlet density and population-level alcohol
consumption found that they were positively associated;
increased density was associated with increased
consumption, and vice versa. Three studies examined
the relationship between outlet density and the consumption
of spirits in the U.S. The first study estimated
that, from 1955 to 1980, for each additional outlet
license per 1000 population, there was an increase of
0.027 gallons in per capita consumption of spirits
ethanol (p
0.01).28 The second study reported an
elasticity of 0.14 (p
0.01) for outlet density and spirits
for the period 1970–1975.31 The third study examined
the association of outlet density and the sale of spirits
and wine in 38 states over a period of 18 years; the
effects of consumption on density were separated out
by use of two-stage least squares regression. The elasticity
for spirits and wine was found to be 0.033 (NS) and
0.015 (NS), respectively.26
A study assessing trends from 1952 to 1992 in the
United Kingdom25 reported an elasticity of 2.43 (p

0.05) for off-premises density and beer consumption
but no significant association for other beverages (except
hard cider). Finally, a study33 examining data from
1968 to 1986 in Canada reported a significant association
between reductions in off-premises density and
reductions in alcohol consumption. This study also
found an association between changes in outlet
density and cirrhosis mortality, which was mediated
by changes in alcohol consumption. When the alcohol
consumption variable was added to the analytic
model, the coefficient for cirrhosis mortality was no
longer significant.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทั้งหมด 5 การศึกษาที่ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นร้านและประชากรระดับแอลกอฮอล์ปริมาณพบว่า พวกเขาเกี่ยวข้องบวกความหนาแน่นเพิ่มขึ้นเกี่ยวข้องมีเพิ่มขึ้นปริมาณการใช้ และในทางกลับกัน ตรวจสอบการศึกษา 3ความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นร้านและปริมาณการใช้ของวิญญาณในสหรัฐอเมริกา การศึกษาแรกที่ประเมินที่ จาก 1955 ถึง 1980 สำหรับแต่ละร้านเพิ่มเติมใบอนุญาตต่อ 1000 ประชากร มีการเพิ่มขึ้นของ0.027 แกลลอนในการบริโภคต่อหัวของวิญญาณเอทานอล (p 0.01) .28 รายงานการศึกษาที่สองมีความยืดหยุ่นของ 0.14 (p 0.01) สำหรับความหนาแน่นร้านและสุราช่วงปี 1970 – 1975.31 สามการศึกษาตรวจสอบความสัมพันธ์ของความหนาแน่นของร้านและการขายสุราไวน์ในอเมริกา 38 ในช่วง 18 ปี และ ที่ผลของปริมาณการใช้ในความหนาแน่นถูกแยกออกโดยใช้สี่เหลี่ยมอย่างน้อยสองขั้นถดถอย ความยืดหยุ่นในสุราและไวน์ได้ค้นพบเป็น 0.033 (NS) และ0.015 (NS), respectively.26การศึกษาการประเมินแนวโน้มจาก 1952 ถึง 1992 ในการKingdom25 สหรัฐรายงานมีความยืดหยุ่นของ 2.43 (p0.05) สำหรับปริมาณความหนาแน่นและเบียร์ปิดสถานแต่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญสำหรับเครื่องดื่มอื่น ๆ (ยกเว้นหนักแดง) สุดท้าย study33 พิจารณาสถานะข้อมูลจาก1968 ถึง 1986 ในแคนาดารายงานความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างการลดความหนาแน่นปิดสถาน และลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นี้ศึกษายังพบความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงในร้านความหนาแน่นและตับแข็งตาย ซึ่งถูก mediatedโดยการเปลี่ยนแปลงในปริมาณการใช้แอลกอฮอล์ เมื่อเหล้าเพิ่มปริมาณการใช้ตัวแปรไปที่โกดังรุ่น สัมประสิทธิ์สำหรับตับแข็งตายได้ไม่สำคัญอีกต่อไป

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทั้งห้าคนที่ได้รับการประเมินการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นของสาขาและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของประชากรระดับการบริโภคพบว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ในเชิงบวก; ความหนาแน่นเพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มขึ้นการบริโภคและในทางกลับกัน สามการศึกษาการตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นของสาขาและการบริโภคสุราในสหรัฐอเมริกาการศึกษาครั้งแรกที่คาดว่า1955-1980 สำหรับแต่ละร้านเพิ่มเติมใบอนุญาตต่อ1000 ประชากรมีการเพิ่มขึ้นของ0.027 แกลลอนในการบริโภคต่อหัวของวิญญาณเอทานอล (P? 0.01) 0.28 การศึกษาที่สองรายงานความยืดหยุ่นของ0.14 (P? 0.01) สำหรับความหนาแน่นของร้านและสุราสำหรับ1970-1,975.31 ระยะเวลาการศึกษาที่สามตรวจสอบความสัมพันธ์ของความหนาแน่นของสาขาและการขายสุราและไวน์ใน38 รัฐ ในช่วง 18 ปีที่ผ่านมา; ผลกระทบของการบริโภคกับความหนาแน่นถูกแยกออกจากการใช้สองขั้นตอนน้อยถดถอยสี่เหลี่ยม ความยืดหยุ่นสำหรับสุราและไวน์ที่ถูกพบว่าเป็น 0.033 (NS) และ 0.015 (NS) respectively.26 การศึกษาการประเมินแนวโน้ม 1952-1992 ในประเทศKingdom25 รายงานความยืดหยุ่นของ 2.43 (P? 0.05) ความหนาแน่นนอกสถานที่ และการบริโภคเบียร์แต่ไม่มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญสำหรับเครื่องดื่มอื่น ๆ (ยกเว้นไซเดอร์ยาก) ในที่สุด study33 ตรวจสอบข้อมูลจากปี1968 ที่จะปี 1986 แคนาดารายงานความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญระหว่างการลดลงของความหนาแน่นนอกอาคารสถานที่และการลดลงของการบริโภคแอลกอฮอล์ การศึกษาครั้งนี้ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลงในเต้าเสียบความหนาแน่นและการเสียชีวิตโรคตับแข็งซึ่งได้รับการไกล่เกลี่ยจากการเปลี่ยนแปลงในการบริโภคแอลกอฮอล์ เมื่อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตัวแปรบริโภคถูกเพิ่มลงในการวิเคราะห์รูปแบบค่าสัมประสิทธิ์การเสียชีวิตจากโรคตับแข็งก็ไม่ได้อีกต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

5 การศึกษาที่ประเมินความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นของประชากร
เต้าเสียบและระดับแอลกอฮอล์พบว่ามีความสัมพันธ์เชิงบวก
;
เพิ่มความหนาแน่นเกี่ยวข้องกับการเพิ่ม
การบริโภคและในทางกลับกัน 3 ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความหนาแน่นตรวจสอบ

เต้าเสียบและการบริโภคสุราในสหรัฐอเมริกาการศึกษาแรกประมาณ
, จาก 1955 ถึง 1980สำหรับแต่ละเพิ่มเติมร้าน
ใบอนุญาตต่อ 1 , 000 ประชากรมีการเพิ่มขึ้นของ
0.027 แกลลอนในการบริโภคต่อหัวของวิญญาณ
เอทานอล ( P
0.01 ) 28 ที่สองศึกษารายงาน
มีค่า 0.14 ( P
0.01 ) สำหรับความหนาแน่นของเต้าเสียบและวิญญาณ
ช่วง 1970 – 1975.31 การศึกษาที่สามตรวจสอบ
ความสัมพันธ์ของความหนาแน่นและขายวิญญาณ
ร้านและไวน์ใน 38 รัฐตลอดระยะเวลา 18 ปี ผลของการบริโภคความหนาแน่นแยกออก
โดยใช้แบบ Least Squares Regression ความยืดหยุ่น
สุราและไวน์ พบว่าเป็นสายพันธุ์ ( NS )
3 ( NS ) ตามลำดับ 26
การศึกษาการประเมินแนวโน้มจากปี 1992 ใน
United kingdom25 รายงานความยืดหยุ่นเท่ากับ 2.43 ( P

005 ) เพื่อปิดสถานที่ความหนาแน่นและการบริโภคเบียร์
แต่ไม่มีความสัมพันธ์กันกับเครื่องดื่มอื่น ๆ ( ยกเว้น
ยากแอปเปิ้ล ) ในที่สุด study33 ตรวจสอบข้อมูลจาก
ปี 1986 ในแคนาดารายงานความสัมพันธ์ระหว่างการปิดสถานที่

ในความหนาแน่นและลดการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การศึกษานี้ยังพบความสัมพันธ์ระหว่างการเปลี่ยนแปลง

ความหนาแน่นเต้าเสียบและอัตราการตายโรคตับแข็งซึ่งเป็นคนกลาง
โดยการเปลี่ยนแปลงในการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อแอลกอฮอล์
การบริโภคตัวแปรที่ถูกเพิ่มเข้าไปในรูปแบบเชิงวิเคราะห์
, สัมประสิทธิ์การตายตับแข็งไม่
อีกต่อไป ที่สำคัญ