is well-known and may be attributed

is well-known and may be attributed to the presence of chromium oxide in solid solution,as first suggested by P.Ebell. if one adds larger amounts of chromium salts to the batch a chrome aventurine analogous to the better known copper aventurine may be obtained a demonstrated by Pelouze. Pelouze noted that adding 2.5% potassium dichromate to the batch gave a clear green glass but a few spangles appeared with 5% and 10% gave a good unifrom green aventurine. When examined at 80x under the microscope the crystals appear as grass-green hexagonal platelets in a brighr green matrix. Ebell used the following batch (from which I have calculated the percentage composition of the glass)
He added a sufficient but unspecified amount of pure Cr2O3 to the clear melt so that it gave a uniform green aventurine when the crucible was cooled very slowly in the furmace. The product was broken into small fragments which were treated with hydrofluoric acid vapour then boiled with sulphuric and hydrochloric acids. This released the crystals which had completely sharp corners and edges they thus had not been attacked. After decomposing with sodium carbonate and saltpeter, dissolving in hydrochloric acid, reducing with SO2 and precipitating with ammonia the result was

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เป็นที่รู้จัก และอาจประกอบกับการปรากฏตัวของโครเมียมออกไซด์ในโซลูชันของแข็ง เป็นครั้งแรก แนะนำ โดย P.Ebell ถ้าหนึ่งเพิ่มเกลือโครเมียมขนาดใหญ่การชุดงาน aventurine chrome คล้ายคลึงกับ aventurine ทองแดงรู้จักกันดี อาจได้รับการแสดงให้เห็น Pelouze Pelouze ตั้งข้อสังเกตว่า เพิ่ม 2.5% โพแทสเซียม dichromate การชุดงานให้แก้วสีเขียวใส แต่กี่ spangles ปรากฏกับ 5% และ 10% ให้เป็น aventurine สีเขียวดี unifrom เมื่อตรวจสอบที่ x 80 ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ ผลึกปรากฏเป็นหญ้าสีเขียวหกเหลี่ยมเกล็ดเลือดในเมทริกซ์ brighr สีเขียว Ebell ใช้ชุดต่อไปนี้ (ที่ฉันมีคำนวณเปอร์เซ็นต์องค์ประกอบของแก้ว)เขาเพิ่ม Cr2O3 บริสุทธิ์จำนวนเพียงพอ แต่ไม่สามารถระบุการละลายใสเพื่อที่ให้เป็นรีนอะเหมือนกันเมื่อเขาถูกเย็นช้ามากในการ furmace ผลิตภัณฑ์เสียเป็นชิ้น ๆ ขนาดเล็กซึ่งได้รับการรักษา ด้วยกรดไฮโดรฟลูออริกไอ แล้วต้มกับ ซัลฟูริก และกรดไฮโดรคลอริก นี้ออกผลึกซึ่งมีมุมที่คมชัดสมบูรณ์และขอบพวกเขาจึงมีไม่ได้รับการโจมตี หลังจากการย่อยสลายด้วยโซเดียมคาร์บอเนตและ saltpeter กรดไฮโดรคลอริก ลดกับ SO2 และหยดกับแอมโมเนียละลายผลคือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นที่รู้จักกันดีและอาจจะนำมาประกอบกับการปรากฏตัวของโครเมียมออกไซด์ในการแก้ปัญหาที่เป็นของแข็งที่เป็นครั้งแรกที่แนะนำโดย P.Ebell หากเพิ่มจำนวนเงินขนาดใหญ่ของเกลือโครเมียมชุดที่หินโครเมี่ยมคล้ายคลึงกับหินทองแดงที่รู้จักกันดีอาจจะได้รับแสดงให้เห็นโดย Pelouze Pelouze ตั้งข้อสังเกตว่าการเพิ่มโพแทสเซียม dichromate 2.5% ชุดให้แก้วสีเขียวที่ชัดเจน แต่ไม่กี่ Spangles ปรากฏตัวขึ้นพร้อม 5% และ 10% ให้หินสีเขียวที่ดี Unifrom เมื่อตรวจสอบที่ 80x ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ผลึกจะปรากฏเป็นหญ้าสีเขียวเกล็ดเลือดหกเหลี่ยมในเมทริกซ์สีเขียว brighr Ebell ใช้ชุดต่อไป (จากที่ผมได้คำนวณองค์ประกอบร้อยละของแก้ว)
เขาเสริมในปริมาณที่เพียงพอ แต่ไม่ระบุ Cr2O3 บริสุทธิ์เพื่อละลายที่ชัดเจนเพื่อที่จะให้หินสีเขียวเครื่องแบบเมื่อเบ้าหลอมถูกระบายความร้อนได้ช้ามากใน furmace . ผลิตภัณฑ์ที่ถูกแบ่งออกเป็นชิ้นส่วนเล็ก ๆ ซึ่งได้รับการรักษาด้วยไอกรดไฮโดรฟลูออริกแล้วต้มกับกรดซัลฟูริกและไฮโดรคลอริก นี้ได้รับการปล่อยตัวผลึกที่มีมุมคมสมบูรณ์และขอบพวกเขาจึงไม่ได้รับการโจมตี หลังจากที่เน่าเฟะกับโซเดียมคาร์บอเนตและดินประสิวละลายในกรดไฮโดรคลอลดกับ SO2 และทำให้เกิดความวุ่นวายกับแอมโมเนียผลที่ได้

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เป็นที่รู้จักกันดีและอาจจะเกิดจากการปรากฏตัวของโครเมียมออกไซด์ในสารละลายที่เป็นของแข็ง เช่น แนะนำโดย p.ebell . ถ้าเพิ่มปริมาณขนาดใหญ่ของเกลือโครเมียมชุดโครเมี่ยมอะเวนจูรีนคล้ายกับที่รู้จักกันดีทองแดงอะเวนจูรีนอาจจะได้รับโดยใช้เพลูซ . เพลูซกล่าวว่าการเพิ่มโพแทสเซียมไดโครเมตที่ 2.5% เพื่อชุดให้แก้วใสสีเขียวแต่ไม่กี่ spangles ปรากฏ 5% และ 10% ให้ดี unifrom สีเขียวอะเวนจูรีน . เมื่อตรวจสอบที่ 80x ภายใต้กล้องจุลทรรศน์ผลึกปรากฏเป็นหญ้าสีเขียว หกเหลี่ยม เกล็ดเลือดใน brighr สีเขียวเมทริกซ์ เบลล์ใช้ชุดต่อไปนี้ ( จากที่ผมคำนวณร้อยละขององค์ประกอบแก้ว )เขาเพิ่มเพียงพอแต่ยังไม่ระบุจำนวนให้ชัดเจน Cr2O3 บริสุทธิ์ละลายมันให้อะเวนจูรีนสีเขียวเหมือนกันเมื่อเบ้าหลอมเป็นแท่งช้ามากใน furmace . สินค้าที่แตกเป็นสะเก็ดเล็ก ๆที่ได้รับการรักษาด้วยกรดไฮโดรฟลูออริกไอแล้วต้มกับกรดไฮโดรคลอริก กำมะถัน และกรด นี้ปล่อยผลึกซึ่งมีมุมคมสมบูรณ์และขอบพวกเขาจึงไม่ได้ถูกทำร้าย หลังจากเน่ากับคาร์บอเนตโซเดียมและดินประสิวละลายในกรดเกลือ ลดการตกตะกอนด้วยแอมโมเนียและ SO2 ด้วยอยู่