Quantitative and qualitative resear

Quantitative and qualitative research are commonly considered to differ fundamentally. Yet, their objectives as well as their applications overlap in numerous ways.

Quantitative Research is considered to have as its main purpose the quantification of data. This allows generalizations of results from a sample to an entire population of interest and the measurement of the incidence of various views and opinions in a given sample. Yet, quantitative research is not infrequently followed by qualitative research which then aims to explore select findings further.

002

Qualitative research is considered to be particularly suitable for gaining an in-depth understanding of underlying reasons and motivations. It provides insights into the setting of a problem. At the same time, it frequently generates ideas and hypotheses for later quantitative research.

The main differences between quantitative and qualitative research consist in respect to data sample, data collection, data analysis, and last but not least in regard to outcomes.

Data collection in qualitative research is not seldom based on unstructured or semi-structured, but methodologically flexible techniques, e.g. individual depth interviews or group discussions, that are suited to elicit great detail and a comprehensive view. Quantitative research uses highly structured, rigid techniques such as online questionnaires, on-street or telephone interviews. Unlike qualitative research, which allows unlimited expression from respondents, quantitative research relies responses to pre-formulated questions.

Outcomes: Qualitative research typically is exploratory and/or investigative in nature. Its findings are often not conclusive and cannot automatically be used to make generalizations. However, it is indispensable in developing a deep understanding of a given thematic complex and sound rationale for further decision making. Quantitative research is essential for providing a broad base of insight on which typically a final course of action is recommended.

Sample selection in qualitative research is usually based on a smaller number of not-necessarily representative cases. Respondents are frequently selected with the expectation that they fulfill certain criteria. In quantitative research, sample selection seeks out a large number of cases that are expected to best represent the population of interest. Individual respondents are selected at random.

Qualitative data analysis is non-statistical, its methodological approach is primarily guided by the concrete material at hand. In quantitative research, the sole approach to data is statistical and takes places in the form of tabulations. Findings are usually descriptive in nature although conclusive only within the numerical framework.

It is a frequently held prejudice that quantitative research is “objective” vs. qualitative is “subjective.” This is, of course, a gross oversimplification. Rather, one could compare the two approaches as follows: Quantitative research seeks out explanatory laws whereas qualitative research aims more at in-depth description. Qualitative research measures, in hopes of developing universal laws where qualitative research can be described as an exploration of what is assumed to be a dynamic reality. Qualitative research does not claim that what is discovered in the process is universal, and thus, replicable. Common differences usually cited between these types of research include.

In general, qualitative research generates rich, detailed and valid process data that contribute to the in-depth understanding of a context. Quantitative research, on the other hand, generates reliable population-based and generalizable data that is suited to establishing cause-and-effect relationships. The decision of whether to choose a quantitative or a qualitative design is ultimately a philosophical question. Which methods to choose will depend on the nature of the project, the type of information needed the context of the study and the availability of resources (time, money, and human).



Qualitative analysis involves a continual interplay between theory and analysis. In analyzing qualitative data, we seek to discover patterns such as changes over time or possible causal links between variables.

Combining of qualitative and quantitative research is becoming more and more common. It is important to keep in mind that these are two different philosophies, not necessarily polar opposites. In fact, elements of both designs can be used together in mixed-methods studies.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพโดยทั่วไปถือว่าความแตกต่าง ยัง วัตถุประสงค์ของพวกเขาเช่นเดียวกับโปรแกรมประยุกต์ของตนทับซ้อนในหลายวิธีการวิจัยเชิงปริมาณถือว่ามีจุดประสงค์หลักนับข้อมูล นี้ช่วยให้ generalizations ผลลัพธ์จากตัวอย่างใช้ประชากรทั้งหมดน่าสนใจและวัดอีกหลายมุมมองและความคิดเห็นในตัวอย่างกำหนด ยัง การวิจัยเชิงปริมาณไม่ขึ้นนาน ๆ ครั้งตาม ด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งมีวัตถุประสงค์แล้วจะได้เลือกผลการวิจัยต่อไป002การวิจัยเชิงคุณภาพถือเป็นเหมาะที่สุดสำหรับการได้รับความเข้าใจเชิงลึกเน้นเหตุผลและโต่ง ให้ลึกตั้งของปัญหา ในเวลาเดียวกัน มันมักจะสร้างความคิดและสมมุติฐานในการวิจัยเชิงปริมาณในภายหลังความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณ และเชิงคุณภาพประกอบกับตัวอย่างข้อมูล เก็บข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล และสุดท้ายแต่ไม่น้อยเรื่องผลรวบรวมข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพจะไม่ค่อยขึ้นบนไม่มีโครงสร้าง หรือกึ่งโครงสร้าง แต่ยืดหยุ่น methodologically เทคนิค ความลึกแต่ละเช่นสัมภาษณ์หรือสนทนากลุ่ม ที่เหมาะกับบอกรายละเอียดดีและมุมมองที่ครอบคลุม การวิจัยเชิงปริมาณใช้เทคนิคโครงสร้างสูง แข็งเช่นบนถนน แบบสอบถามออนไลน์หรือโทรศัพท์สัมภาษณ์ ซึ่งแตกต่างจากการวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งทำให้นิพจน์ที่ไม่จำกัดจากผู้ตอบ การวิจัยเชิงปริมาณใช้ตอบคำถามสูตรก่อนผลลัพธ์: การวิจัยเชิงคุณภาพมักจะได้เชิงบุกเบิก หรืออื่น ๆ ในธรรมชาติ สิ่งที่ค้นพบมักจะไม่มีข้อสรุป และไม่ใช้ให้ generalizations โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม มันเป็นสำคัญในการพัฒนาความเข้าใจลึกของที่กำหนดเฉพาะเรื่องซับซ้อน และเสียงผลการตัดสินต่อไป การวิจัยเชิงปริมาณเป็นสิ่งจำเป็นให้กับฐานกว้างของความเข้าใจซึ่งโดยทั่วไปหลักสูตรสุดท้ายของการดำเนินการแนะนำเลือกตัวอย่างในการวิจัยเชิงคุณภาพมักจะอยู่ในจำนวนที่ต่ำกว่ากรณีพนักงานไม่จำ ผู้ตอบมักเลือก โดยคาดหวังว่า พวกเขาปฏิบัติตามเงื่อนไข ในการวิจัยเชิงปริมาณ การเลือกตัวอย่างพยายามออกกรณีที่คาดว่าส่วนแสดงประชากรที่น่าสนใจ เป็นจำนวนมาก ผู้ตอบแต่ละรายการมีเลือกสุ่มวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพจะไม่ใช่ทางสถิติ หลักมีการแนะนำวิธีของ methodological โดยวัสดุคอนกรีตที่ ในการวิจัยเชิงปริมาณ ข้อมูลวิธีการแต่เพียงผู้เดียวเป็นสถิติ และใช้สถานที่ในรูปแบบของตาราง ผลการวิจัยมักอธิบายในธรรมชาติแม้ว่าข้อสรุปภายใต้กรอบตัวเลขเท่านั้นมันคืออคติมักจะจัดขึ้นที่ว่าการวิจัยเชิงปริมาณ "วัตถุประสงค์" เทียบกับเชิงคุณภาพ "ตามอัตวิสัย" อยู่ แน่นอน oversimplification รวม ค่อนข้าง หนึ่งสามารถเปรียบเทียบสองวิธีต่อไปนี้: การวิจัยเชิงปริมาณหาอธิบายกฎหมายในขณะที่การวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพิ่มเติมในรายละเอียดเชิงลึกได้ มาตรการการวิจัยเชิงคุณภาพ ไปพัฒนากฎหมายสากลที่สามารถอธิบายการวิจัยเชิงคุณภาพเป็นการสำรวจว่าจะถือ เป็นจริงแบบไดนามิก การวิจัยเชิงคุณภาพไม่ได้เรียกร้องว่า อะไรจะพบในกระบวนการเป็นสากล และ สามารถจำลองแบบ ความแตกต่างทั่วไปมักจะอ้างถึงระหว่างชนิดของงานวิจัยเหล่านี้ไว้ทั่วไป การวิจัยเชิงคุณภาพสร้างรวย รายละเอียดถูกต้อง และประมวลผลข้อมูลที่นำไปสู่ความเข้าใจในเชิงลึกของบริบท การวิจัยเชิงปริมาณ ในทางกลับกัน สร้างความน่าเชื่อถือ ตามประชากร และ generalizable ข้อมูลที่เหมาะสมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ของสาเหตุ และผล การตัดสินใจว่าจะเลือกเป็นเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพการออกแบบเป็นที่สุดคำถามปรัชญา ซึ่งวิธีการเลือกจะขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการ ชนิดของข้อมูลที่ต้องศึกษาบริบทและความพร้อมของทรัพยากร (เวลา เงิน และมนุษย์) วิเคราะห์คุณภาพเกี่ยวข้องกับล้ออย่างต่อเนื่องระหว่างทฤษฎีและการวิเคราะห์ ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ เราพยายามที่จะค้นพบรูปแบบเช่นการเปลี่ยนแปลงเวลาหรือสามารถเชื่อมโยงเชิงสาเหตุระหว่างตัวแปรรวมงานวิจัยเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณเป็นมากทั่วไป ต้องจำไว้ว่า เหล่านี้มีสองปรัชญาแตกต่างกัน ตรงกันข้ามขั้วโลกจำไม่ได้ ในความเป็นจริง องค์ประกอบของการออกแบบทั้งสองสามารถใช้ร่วมกันในการศึกษาวิธีผสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพได้รับการพิจารณาโดยทั่วไปจะแตกต่างกันโดยพื้นฐาน แต่วัตถุประสงค์ของพวกเขาเช่นเดียวกับการใช้งานของพวกเขาที่ทับซ้อนกันในหลายวิธี. การวิจัยเชิงปริมาณถือว่ามีเป็นวัตถุประสงค์หลักของปริมาณของข้อมูล นี้จะช่วยให้ภาพรวมของผลที่ได้จากกลุ่มตัวอย่างที่จะประชากรทั้งหมดของความสนใจและการวัดอัตราการเกิดมุมมองที่หลากหลายและความคิดเห็นในกลุ่มตัวอย่างที่กำหนด แต่การวิจัยเชิงปริมาณไม่ได้ตามนาน ๆ ครั้งโดยการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจผลการวิจัยเลือกเพิ่มเติม. 002 การวิจัยเชิงคุณภาพมีการพิจารณาให้มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการได้รับความเข้าใจในเชิงลึกในเหตุผลพื้นฐานและแรงจูงใจ จะให้ข้อมูลเชิงลึกในการตั้งค่าของปัญหา ในขณะเดียวกันก็บ่อยครั้งสร้างความคิดและสมมติฐานสำหรับการวิจัยเชิงปริมาณในภายหลัง. ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพประกอบด้วยในส่วนที่เกี่ยวกับตัวอย่างข้อมูลที่เก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูลและสุดท้าย แต่ไม่น้อยในเรื่องผล. ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิจัยเชิงคุณภาพไม่ได้ไม่ค่อยจะขึ้นอยู่กับที่ไม่มีโครงสร้างหรือกึ่งโครงสร้าง แต่ methodologically เทคนิคที่มีความยืดหยุ่นเช่นการสัมภาษณ์เชิงลึกของแต่ละบุคคลหรือการอภิปรายกลุ่มที่มีความเหมาะสมที่จะล้วงเอารายละเอียดที่ดีและมุมมองที่ครอบคลุม การวิจัยเชิงปริมาณที่ใช้โครงสร้างสูงเทคนิคการแข็งเช่นแบบสอบถามออนไลน์บนถนนหรือการสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ซึ่งแตกต่างจากการวิจัยเชิงคุณภาพซึ่งจะช่วยให้การแสดงออกไม่ จำกัด จากผู้ตอบแบบสอบถามการวิจัยเชิงปริมาณอาศัยการตอบสนองต่อคำถามก่อนสูตร. ผล: การวิจัยเชิงคุณภาพโดยทั่วไปแล้วจะเป็นสำรวจและ / หรือการสืบสวนในธรรมชาติ ผลของมันมักจะไม่ได้ข้อสรุปและไม่สามารถนำมาใช้โดยอัตโนมัติเพื่อให้ภาพรวม แต่ก็เป็นที่ขาดไม่ได้ในการพัฒนาความรู้ความเข้าใจของเหตุผลที่ซับซ้อนและเสียงใจที่ได้รับสำหรับการตัดสินใจต่อไป การวิจัยเชิงปริมาณเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการให้ฐานกว้างของความเข้าใจซึ่งโดยปกติจะเป็นสนามสุดท้ายของการกระทำที่จะแนะนำ. เลือกตัวอย่างในการวิจัยเชิงคุณภาพมักจะขึ้นอยู่กับจำนวนของที่มีขนาดเล็กไม่จำเป็นต้องเป็นกรณีที่เป็นตัวแทน ผู้ตอบแบบสอบถามจะถูกเลือกบ่อยกับความคาดหวังว่าพวกเขาตอบสนองเกณฑ์ที่แน่นอน ในงานวิจัยเชิงปริมาณการเลือกตัวอย่างพยายามออกจำนวนมากกรณีที่คาดว่าจะดีที่สุดเป็นตัวแทนของประชากรที่น่าสนใจ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนบุคคลได้รับการคัดเลือกโดยการสุ่ม. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพไม่เป็นสถิติวิธีการระเบียบวิธีเป็นแนวทางหลักโดยวัสดุคอนกรีตที่อยู่ในมือ ในงานวิจัยเชิงปริมาณวิธีการเดียวที่จะเป็นข้อมูลทางสถิติและใช้สถานที่ในรูปแบบของ tabulations ผลการวิจัยมักจะอธิบายในธรรมชาติแม้ว่าข้อสรุปเฉพาะภายในกรอบตัวเลข. มันเป็นที่จัดขึ้นบ่อยอคติว่าการวิจัยเชิงปริมาณคือ "วัตถุประสงค์" กับคุณภาพคือ "อัตนัย." นี่คือของหลักสูตรขั้นต้นเปลือก แต่ใครจะเปรียบเทียบทั้งสองวิธีดังต่อไปนี้: การวิจัยเชิงปริมาณพยายามออกกฎหมายที่อธิบายในขณะที่การวิจัยเชิงคุณภาพมีวัตถุประสงค์เพิ่มเติมได้ที่คำอธิบายในเชิงลึก มาตรการการวิจัยเชิงคุณภาพในความหวังของการพัฒนากฎหมายสากลที่การวิจัยเชิงคุณภาพสามารถอธิบายได้ว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงของสิ่งที่จะถือว่าเป็นความเป็นจริงแบบไดนามิก การวิจัยเชิงคุณภาพไม่อ้างว่าสิ่งที่ถูกค้นพบในขั้นตอนการเป็นสากลและทำให้จำลองแบบ ความแตกต่างที่พบบ่อยมักจะอ้างว่าระหว่างประเภทนี้รวมถึงการวิจัย. โดยทั่วไปการวิจัยเชิงคุณภาพสร้างที่อุดมไปด้วยรายละเอียดและข้อมูลที่ถูกต้องกระบวนการที่นำไปสู่ความเข้าใจในเชิงลึกของบริบท การวิจัยเชิงปริมาณในมืออื่น ๆ ที่สร้างความน่าเชื่อถือของประชากรที่ใช้และข้อมูล generalizable ที่เหมาะสมที่จะสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสาเหตุและผลกระทบ การตัดสินใจว่าจะเลือกเชิงปริมาณหรือคุณภาพการออกแบบเป็นที่สุดคำถามทางปรัชญา ซึ่งวิธีการที่จะเลือกจะขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงการประเภทของข้อมูลที่จำเป็นในบริบทของการศึกษาและความพร้อมของทรัพยากร (เวลาเงินและมนุษย์). การวิเคราะห์เชิงคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับการมีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องระหว่างทฤษฎีและการวิเคราะห์ ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพเราพยายามที่จะค้นพบรูปแบบเช่นการเปลี่ยนแปลงในช่วงเวลาหรือการเชื่อมโยงสาเหตุที่เป็นไปได้ระหว่างตัวแปร. รวมของการวิจัยเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณมีมากขึ้นและร่วมกันมากขึ้น มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเก็บไว้ในใจว่าสิ่งเหล่านี้มีสองปรัชญาที่แตกต่างกันไม่จำเป็นต้องเป็นขั้วตรงข้าม ในความเป็นจริงองค์ประกอบของการออกแบบทั้งสามารถใช้ร่วมกันในการศึกษาวิธีการผสม-

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพโดยทั่วไปถือว่าแตกต่างในรายละเอียด ยัง ของพวกเขา วัตถุประสงค์ ตลอดจนการประยุกต์ใช้ทับซ้อนกันมากมาย

การวิจัยเชิงปริมาณจะถือว่าเป็นจุดประสงค์หลักของปริมาณของข้อมูลนี้จะช่วยให้ผลจากตัวอย่างทั่วไปของการเป็นประชากรทั้งหมดของความสนใจและการวัดการเกิดมุมมองและความคิดเห็นต่าง ๆ ในตัวอย่างที่ให้มา . แต่การวิจัยเชิงปริมาณ คือไม่นานตามด้วยการวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเลือก



002 .การวิจัยเชิงคุณภาพ คือถือว่าเป็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเหมาะสำหรับการดึงดูดความเข้าใจในเชิงลึกของเหตุผลและแรงจูงใจ . มันมีข้อมูลเชิงลึกในการปัญหา ในเวลาเดียวกัน มันมักสร้างแนวคิดและสมมติฐานการวิจัยเชิงปริมาณ ทีหลัง

ความแตกต่างหลักระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย เคารพ ตัวอย่างข้อมูลการเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล และสุดท้าย แต่ไม่น้อยในเรื่องของการเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพไม่ใช่

ไม่ค่อยยึดใหม่หรืออย่างไร แต่เทคนิควิธีการที่ยืดหยุ่น เช่น การสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนากลุ่ม หรือบุคคล ที่เหมาะในการเก็บรายละเอียดที่ดีและมุมมองที่ครอบคลุม การวิจัยเชิงปริมาณ โดยใช้โครงสร้างสูงเทคนิคที่แข็ง เช่น แบบสอบถามออนไลน์ บนถนน หรือ สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ซึ่งแตกต่างจากการวิจัยเชิงคุณภาพ ซึ่งช่วยให้ไม่ จำกัด การแสดงจากผู้ตอบแบบสอบถาม , วิจัยเชิงคุณภาพต้องอาศัยการตอบสนองก่อนขึ้นคำถาม

ผล : การวิจัยเชิงคุณภาพ โดยทั่วไปแล้วจะสำรวจ และ / หรือ สืบสวนในธรรมชาติการค้นพบมักจะไม่ได้ข้อสรุป และไม่สามารถได้รับการใช้เพื่อให้ทั่วไป . อย่างไรก็ตาม , มันเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาความเข้าใจที่ลึกของให้ซับซ้อนและเสียงใจเหตุผลเพิ่มเติมการตัดสินใจ การวิจัยเชิงปริมาณเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ฐานกว้างลึกซึ่งโดยปกติคอร์สสุดท้ายของการกระทําา .

การเลือกกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเชิงคุณภาพ มักจะขึ้นอยู่กับขนาดเล็กจำนวนไม่ใช่ผู้แทนคดี ส่วนใหญ่มักเลือกที่มีความคาดหวังว่าพวกเขาปฏิบัติตามเกณฑ์ที่แน่นอน ในการวิจัยเชิงคุณภาพ การเลือกตัวอย่างและออกจำนวนมากของกรณีที่คาดว่าจะดีที่สุดเป็นตัวแทนของประชากรที่สนใจ ผู้ตอบแต่ละคนถูกเลือกแบบสุ่ม

เชิงคุณภาพการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติไม่ใช่วิธีการวิธีการของมันเป็นหลักแนวทางของวัสดุคอนกรีตในมือ ในการวิจัยเชิงปริมาณ วิธีการ แต่เพียงผู้เดียว เพื่อเป็นข้อมูลเชิงสถิติ และใช้สถานที่ในรูปแบบของการทดสอบ . ผลมักจะพรรณนาในธรรมชาติแม้ว่าข้อสรุปเท่านั้น

ภายในกรอบเลขมันเป็นบ่อย ถืออคติว่างานวิจัยเชิงปริมาณ " มีคุณภาพ " และ " อัตนัย " นี้ แน่นอน oversimplification รวม แต่หนึ่งสามารถเปรียบเทียบสองวิธีดังนี้ : การวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพมีกฎหมายออกมาอธิบายส่วนที่เจาะลึกรายละเอียด ในการวิจัยเชิงคุณภาพในความหวังของการพัฒนากฎหมายสากลที่งานวิจัยเชิงคุณภาพสามารถ อธิบายเป็น สำรวจแล้วจะถือว่าเป็นความจริงแบบไดนามิก การวิจัยเชิงคุณภาพไม่ได้เรียกร้องว่า สิ่งที่ค้นพบในขั้นตอนที่เป็นสากล และ จึง สามารถจําลองแบบ . ความแตกต่างทั่วไปมักจะอ้างระหว่างเหล่านี้ประเภทของการวิจัย ได้แก่

ในทั่วไป , การวิจัยเชิงคุณภาพสร้างคนรวยรายละเอียดและข้อมูลที่ถูกต้องกระบวนการที่นำไปสู่ความเข้าใจในเชิงลึกของบริบท การวิจัยเชิงปริมาณในมืออื่น ๆ , สร้าง - ตามจำนวนประชากร generalizable ที่เชื่อถือได้และข้อมูลที่เหมาะกับการสร้างความสัมพันธ์ของเหตุและผล การตัดสินใจว่าจะเลือกเป็นเชิงปริมาณหรือเชิงคุณภาพ คือ ออกแบบ สุด คำถามทางปรัชญาวิธีการที่เลือกจะขึ้นอยู่กับลักษณะของโครงงาน ประเภทของข้อมูลที่จำเป็นในบริบทของการศึกษาและความพร้อมของทรัพยากร ( เวลา , เงิน , และมนุษย์ ) .



การวิเคราะห์เชิงคุณภาพที่เกี่ยวข้องกับอย่างต่อเนื่อง interplay ระหว่างทฤษฎีและการวิเคราะห์ ในการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ เราแสวงหาการค้นพบรูปแบบ เช่น การเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป หรือสาเหตุการเชื่อมโยงเป็นไปได้

ระหว่างตัวแปรการรวมของการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเป็นมากขึ้นและทั่วไป มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะเก็บไว้ในใจว่าเหล่านี้เป็นสองปรัชญาที่แตกต่างกันไม่จําเป็นขั้วตรงข้ามกัน ในความเป็นจริง , องค์ประกอบของการออกแบบที่สามารถใช้ร่วมกันในการผสม วิธีการศึกษา