Tranexamic acidTranexamic acid is a

Tranexamic acid
Tranexamic acid is a synthetic derivative of lysine. Tranexamic acid inhibits plasminogen activation and plasmin activity through bonding to the lysine binding site, blocking binding to fibrin. Unlike factor VIIa and prothrombin complex, its effects occur primarily through preventing fibrinolysis rather than promoting coagulation.
Two large prospective trials, one among civilian trauma patients and one among more severely injured military trauma victims, both found significant benefit from use of tranexamic acid. The CRASH-2 trial was a prospective randomized controlled trial of 20,211 trauma patients randomized to tranexamic acid infusion or placebo. Tranexamic acid was associated with an absolute decrease in all-cause mortality (14.5% vs 16%), with an RR of 0.91 (CI, 0.85–0.97; P 5 .0035). Mortality from bleeding was also decreased (4.9% vs 5.7%), with an RR of 0.85 (CI, 0.76–0.96; P 5 .0077). No statistically significant increases in either venous or arterial thromboembolic complications were noted. However, benefit was only found if tranexamic acid was given within 3 hours of injury; administration after 3 hours was associated with increased mortality.

The Military Application of Tranexamic Acid in Traumatic Emergency and Resuscitative Surgery (MATTERs) study examined a group of severely injured military trauma patients, of which 26% required MT. Tranexamic acid was administered within 1 hour of injury to 293 patients. Despite a higher injury severity, patients who received tranexamic acid had a significantly decreased unadjusted mortality (17.4% vs 23.9%). This benefit was even more pronounced among patients who received MT, with mortality decreased 13.7% (14.4% vs 28.1%). After multivariate logistic regression analysis, tranexamic acid was found to be an independent predictor of survival. Although an increase in venous thromboembolic complications was associated with tranexamic acid, it was not an independent predictor of thromboembolic complications in either the group as a whole or among patients who received MT.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรด Tranexamicกรด Tranexamic เป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ของไลซีน กรด Tranexamic ยับยั้ง plasminogen plasmin และเปิดใช้งานกิจกรรม โดยประสานไปยังไลซีนรวมไซต์ บล็อกผูกกับ fibrin ซึ่งแตกต่างจากปัจจัย VIIa และ prothrombin ซับซ้อน มีผลกระทบเกิดขึ้นผ่าน fibrinolysis ป้องกัน มากกว่าที่ส่งเสริมการแข็งตัวของเลือดเป็นหลักทดลองขนาดใหญ่มีแนวโน้มสอง หนึ่งในผู้ป่วยบาดเจ็บพลเรือนและหนึ่งในหมู่อื่น ๆ อย่างรุนแรงบาดเจ็บทหารบาดเจ็บผู้ประสบภัย ทั้งสองพบประโยชน์ที่สำคัญจากการใช้กรด tranexamic ทดลองความล้มเหลว-2 มีผู้สนใจทดลองควบคุม randomized ของผู้ป่วยบาดเจ็บ 20,211 randomized tranexamic คอนกรีตกรดหรือยาหลอก กรด Tranexamic ถูกเชื่อมโยงกับการลดลงแน่นอนในการตายทุกสาเหตุ (14.5% เทียบกับ 16%), กับตัว RR 0.91 (CI, 0.85 – 0.97 P 5 .0035). การตายจากเลือดยังไม่ลดลง (4.9% vs 5.7%), มีการ RR 0.85 (CI, 0.76 – 0.96 P 5 .0077). ไม่ดำ หรือต้ว thromboembolic ภาวะแทรกซ้อนเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติถูกบันทึกไว้ อย่างไรก็ตาม ประโยชน์เฉพาะพบถ้าให้ภายใน 3 ชั่วโมงของบาดเจ็บ กรด tranexamic จัดการหลังจาก 3 ชั่วโมงสัมพันธ์กับการตายเพิ่มขึ้นได้The Military Application of Tranexamic Acid in Traumatic Emergency and Resuscitative Surgery (MATTERs) study examined a group of severely injured military trauma patients, of which 26% required MT. Tranexamic acid was administered within 1 hour of injury to 293 patients. Despite a higher injury severity, patients who received tranexamic acid had a significantly decreased unadjusted mortality (17.4% vs 23.9%). This benefit was even more pronounced among patients who received MT, with mortality decreased 13.7% (14.4% vs 28.1%). After multivariate logistic regression analysis, tranexamic acid was found to be an independent predictor of survival. Although an increase in venous thromboembolic complications was associated with tranexamic acid, it was not an independent predictor of thromboembolic complications in either the group as a whole or among patients who received MT.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สูตรกรดกรด Tranexamic เป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ไลซีน
กรด Tranexamic ยับยั้งการยืนยันการใช้งานและกิจกรรม plasminogen plasmin ผ่านพันธะที่จะมีผลผูกพันไลซีนเว็บไซต์, การปิดกั้นที่จะมีผลผูกพันไฟบริน ซึ่งแตกต่างจากปัจจัย VIIA และซับซ้อน prothrombin ผลกระทบของมันเกิดขึ้นส่วนใหญ่ผ่านการป้องกันการละลายลิ่มเลือดมากกว่าการส่งเสริมการแข็งตัว.
สองการทดลองขนาดใหญ่ในอนาคตซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ป่วยที่บาดเจ็บและพลเรือนคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงมากขึ้นผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการบาดเจ็บของทหารทั้งสองพบประโยชน์ที่สำคัญจากการใช้กรด tranexamic การพิจารณาคดีความผิดพลาด-2 เป็นที่คาดหวังการสุ่มทดลองควบคุมของผู้ป่วยบาดเจ็บ 20,211 สุ่มให้ยา tranexamic กรดหรือยาหลอก กรด Tranexamic ได้เกี่ยวข้องกับการลดลงแน่นอนในทุกสาเหตุการตาย (14.5% เทียบกับ 16%) มี RR 0.91 (CI, 0.85-0.97; P 5 0.0035) อัตราการตายจากเลือดออกก็ยังลดลง (4.9% เทียบกับ 5.7%) ที่มี RR 0.85 (CI, 0.76-0.96; P 5 0.0077) ไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้งในภาวะแทรกซ้อนลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำหรือแดงถูกตั้งข้อสังเกต แต่ประโยชน์ก็พบว่าเฉพาะในกรณีที่กรด tranexamic ได้รับภายใน 3 ชั่วโมงของการบาดเจ็บ; การบริหารงานหลังจาก 3 ชั่วโมงที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น. การประยุกต์ใช้ทางทหารของ Tranexamic Acid ในอุบัติเหตุฉุกเฉินกู้ชีพและศัลยกรรม (เรื่อง) ศึกษาการตรวจสอบกลุ่มของผู้ป่วยที่ได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรงบาดเจ็บทหารที่ 26% ต้องมอนแทนา กรด Tranexamic เป็นยาภายใน 1 ชั่วโมงของการบาดเจ็บที่ 293 ผู้ป่วย แม้จะมีความรุนแรงได้รับบาดเจ็บที่สูงกว่าผู้ป่วยที่ได้รับกรด tranexamic มีอัตราการเสียชีวิตลดลงอย่างเท็มเพลต (17.4% เทียบกับ 23.9%) ผลประโยชน์นี้ได้เด่นชัดมากยิ่งขึ้นในกลุ่มผู้ป่วยที่ได้รับมอนแทนาที่มีอัตราการเสียชีวิตลดลง 13.7% (14.4% เทียบกับ 28.1%) หลังจากการวิเคราะห์การถดถอยโลจิสติกหลายตัวแปร tranexamic กรดถูกพบว่าเป็นปัจจัยบ่งชี้ที่เป็นอิสระของการอยู่รอด แม้ว่าการเพิ่มขึ้นของภาวะแทรกซ้อนลิ่มเลือดอุดตันหลอดเลือดดำที่เกี่ยวข้องกับกรด tranexamic ก็ไม่ได้เป็นปัจจัยบ่งชี้ที่เป็นอิสระจากภาวะแทรกซ้อนลิ่มเลือดอุดตันทั้งในกลุ่มรวมหรือในผู้ป่วยที่ได้รับมอนแทนา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

กรด
ราชศาสตร์เป็นอนุพันธ์สังเคราะห์ของซีน กรดยับยั้งกิจกรรมการเปิดใช้งานและเชื่อมต่อหาพลาสมินผ่านซีนมัดเว็บไซต์ บล็อก ผูกพันกับไฟบริน . ซึ่งแตกต่างจาก viia ปัจจัยและการทดสอบที่ซับซ้อนผลของมันเกิดขึ้นเป็นหลักผ่านการป้องกันของ มากกว่าการส่งเสริมการแข็งตัว .
2 การทดลองที่มีขนาดใหญ่หนึ่งในผู้ป่วยบาดเจ็บและพลเรือน หนึ่งในเพิ่มเติม ได้รับบาดเจ็บสาหัสอาการทหารทั้งสองพบประโยชน์ที่สำคัญจากการใช้กรด . การทดลอง crash-2 เป็นแบบสุ่มทดลองในผู้ป่วยฉุกเฉินในอนาคต 20211 สุ่มให้ยา Tranexamic acid หรือยาหลอก กรดมีความสัมพันธ์กับการลดลงแน่นอน ลดอัตราการตายจากทุกสาเหตุ ( 14.5% VS 16 % )กับ RR เท่ากับ 0.91 ( CI , 0.85 และ 0.97 ; P 5 0035 ) อัตราการตายจากเลือดก็ลดลง ( 4.9% VS 5.7% ) กับ RR 0.85 ( CI , 0.76 และ 0.96 ; P 5 0077 ) ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติทั้งในหลอดเลือดดำหรือหลอดเลือดแดงเพิ่มภาวะแทรกซ้อน thromboembolic เป็นอักษรไทย อย่างไรก็ตาม ประโยชน์ที่ได้รับคือ พบได้เฉพาะถ้ากรดได้รับบาดเจ็บภายใน 3 ชั่วโมง