The giant impact hypothesis for the

The giant impact hypothesis for the origin of the Moon points to the creation of a hot, young Moon, likely with a global magma ocean. Such a magma ocean would produce a flotation crust of plagioclase crystals,or an anorthositic crust. Early calculations of the expected anorthosite content of the lunar highlands crust did not match initial measurements of Apollo samples, and more recently have not matched Clementine measurements or SELENE measurements, because they assumed interstitial melt would freeze. We consider a physical model of a magma ocean with an accumulating flotation lid, and find that significant escape of melt can take place for reasonable physical parameters and timescales of melt migration, even allowing for the inhibiting effect of plausible compaction viscosities. This model permits more nearly pure lunar anorthosites, consistent with observations. The model encounters some difficulty in explaining the expulsion of melt for the near-surface crust (up to five-kilometers’ depth) that presumably dominates the Apollo samples, suggesting that impact mixing and tidal heating are needed to explain the discrepancy

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สมมติฐานผลยักษ์สำหรับต้นกำเนิดของดวงจันทร์ไปสร้างของร้อน หนุ่มดวง อาจมีมหาสมุทรหินหนืดสากล มหาสมุทรหินหนืดดังกล่าวจะผลิตเปลือก flotation ของผลึก plagioclase หรือมีเปลือก anorthositic คำนวณช่วงเนื้อหา anorthosite คาดของเปลือกไฮแลนด์จันทรคติไม่ตรงกับขนาดเริ่มต้นของตัวอย่าง Apollo และเมื่อเร็ว ๆ นี้ มีไม่ตรงวัดคลีเมนไทน์หรือวัด SELENE เนื่องจากพวกเขาถือว่า ละลายหลากจะตรึง เราพิจารณารูปแบบทางกายภาพของมหาสมุทรหินหนืดมีฝามี flotation สะสม และพบว่า หลบหนีสำคัญของละลายสามารถใช้พารามิเตอร์เหมาะสมทางกายภาพและ timescales ละลายโยกย้าย ช่วยให้การกระชับข้อมูลรับมือ viscosities ผล inhibiting แม้ รุ่นนี้ช่วยให้เพิ่มมากขึ้นเกือบบริสุทธิ์ดวง anorthosites สอดคล้องกับข้อสังเกต แบบพบปัญหาบางอย่างในการอธิบายการขับละลายสำหรับเปลือกใกล้พื้นผิว (ได้ถึงห้ากิโลเมตรความลึก) ที่สันนิษฐานว่ากุมอำนาจตัวอย่าง Apollo แนะนำให้ ผสมผลกระทบและความร้อนบ่าจำเป็นต้องอธิบายความขัดแย้ง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สมมติฐานผลกระทบใหญ่สำหรับต้นกำเนิดของดวงจันทร์ชี้ไปที่การสร้างความร้อนมูนหนุ่มน่าจะมีทะเลแมกม่าทั่วโลก ดังกล่าวทะเลแมกม่าจะผลิตเปลือกลอยของผลึก plagioclase หรือเปลือก anorthositic คำนวณแรกของเนื้อหา anorthosite ที่คาดหวังของเปลือกโลกที่ราบสูงดวงจันทร์ไม่ตรงกับการวัดเริ่มต้นของตัวอย่างพอลโลและเมื่อเร็ว ๆ นี้ยังไม่ได้จับคู่วัดคลีเมนไทน์หรือวัด SELENE เพราะพวกเขาถือว่าละลายสิ่งของจะแช่แข็ง เราพิจารณารูปแบบทางกายภาพของท้องทะเลแมกม่าที่มีฝาลอยสะสมและพบว่าหลบหนีอย่างมีนัยสำคัญของการละลายสามารถใช้สถานที่สำหรับพารามิเตอร์ทางกายภาพที่เหมาะสมและระยะเวลาของการย้ายถิ่นละลายแม้เพื่อให้สามารถมีผลยับยั้งการเจริญของความหนืดบดอัดที่เป็นไปได้ รูปแบบนี้ช่วยให้มากขึ้นเกือบบริสุทธิ์ anorthosites จันทรคติสอดคล้องกับข้อสังเกต รูปแบบที่พบความยากลำบากในการอธิบายการขับไล่ของละลายสำหรับเปลือกโลกใกล้พื้นผิว (ถึงความลึกห้ากิโลเมตร ') ที่น่าจะกุมอำนาจตัวอย่างอพอลโลบอกว่าส่งผลกระทบต่อการผสมและคลื่นความร้อนที่มีความจำเป็นที่จะอธิบายถึงความแตกต่าง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ยักษ์กระทบสมมติฐานสำหรับที่มาของดวงจันทร์ จุดที่จะสร้างร้อนยังดวงจันทร์ อาจมีมหาสมุทรแม็กม่าทั่วโลก เช่นมหาสมุทรแม็กม่าจะผลิตทุ่นลอยน้ำ เปลือกของแพลจิโอเคลสผลึก หรือ anorthositic คราบ ก่อนการคำนวณคาดว่าอะนอร์โทไซต์เนื้อหาของเปลือก Highlands ทางจันทรคติไม่ตรงกับตัวอย่างการวัดครั้งแรกของอพอลโลและเมื่อเร็ว ๆ นี้ยังไม่ได้จับคู่ทานวัดหรือเซลีนวัด เพราะพวกเขาถือว่า interstitial ละลายจะตรึง เราพิจารณาแบบจำลองทางกายภาพของโลกมหาสมุทรแม็กม่ากับสะสมฝาลอย และพบว่าทางหนีของละลายสามารถใช้สถานที่สำหรับพารามิเตอร์ทางกายภาพที่เหมาะสมและ timescales ละลายการย้ายถิ่นแม้ให้สามารถยับยั้งผลของการมีเหตุผลความหนืด . รุ่นนี้ให้มากขึ้นเกือบบริสุทธิ์ทางจันทรคติ anorthosites สอดคล้องกับข้อสังเกต รูปแบบพบความยากลำบากในการอธิบายการละลายสำหรับเปลือกผิวใกล้ ๆถึงห้ากิโลเมตรลึก ' ) ที่สันนิษฐาน dominates อพอลโลตัวอย่างแนะนำว่า ผลกระทบและการผสมคลื่นความร้อนจะต้องอธิบายถึงความแตกต่าง