Demographics and baseline disease c

Demographics and baseline disease characteristics were comparable between the regorafenib and
placebo groups with regard to age (mean age of 60.7 in regorafenib group and 60.1 in placebo
group), gender (61.6% male, 38.4% female vs 60% male, 40% female) and ECOG performance
status (52.5% ECOG PS 0 vs 57.3% ECOG PS 0). Primary site of disease was colon
(64% vs 67.5%), rectum (29.9% vs 27.1%) or colon and rectum (5.9% vs 5.5%). KRAS mutation
was reported in 54.1% of regorafenib group vs 61.6% of placebo group. All patients had received
prior treatment with fluoropyrimidine, oxaliplatin, irinotecan and bevacizumab. Of the patients
with a KRAS WT tumor, 99.5% in the regorafenib group and 100% in the placebo group had
received prior treatment with cetuximab and/or panitumumab.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประชากรและพื้นฐานลักษณะโรคเปรียบเทียบได้ระหว่าง regorafenib และกลุ่มยาหลอกตามอายุ (หมายถึงอายุของ 60.7 ในกลุ่ม regorafenib และ 60.1 ในประการกลุ่ม), เพศ (ชาย 61.6%, 38.4% เทียบกับเพศหญิง 60% ชาย หญิง 40%) และประสิทธิภาพ ECOGสถานะ (52.5% ECOG PS 0 เทียบกับ 57.3% ECOG PS 0) เว็บไซต์หลักของการเกิดโรคลำไส้ใหญ่(64% เทียบกับ 67.5%), รูตูด (29.9% เทียบกับ 27.1%) หรือลำไส้ใหญ่ และรูตูด (5.9% เทียบกับ 5.5%) การกลายพันธุ์คราสรายงาน% 54.1 สา regorafenib กลุ่มเทียบกับ 61.6% ของกลุ่มยาหลอก มีรับผู้ป่วยทั้งหมดก่อนการรักษา ด้วย fluoropyrimidine, oxaliplatin, irinotecan bevacizumab ของผู้ป่วยมีเนื้องอกคราส WT, 99.5% ในกลุ่ม regorafenib และ 100% ในกลุ่มยาหลอกได้รับการรักษาทราบ ด้วย cetuximab / panitumumab

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประชากรและลักษณะโรคพื้นฐานถูกเปรียบเทียบระหว่าง regorafenib และ
กลุ่มยาหลอกเกี่ยวกับอายุ (อายุเฉลี่ยของ 60.7 ในกลุ่ม regorafenib และ 60.1 ในกลุ่มยาหลอก
กลุ่ม) เพศ (61.6% ชาย 38.4% หญิง 60% vs เพศชาย 40% หญิง) และประสิทธิภาพการทำงาน ECOG
สถานะ (52.5% ECOG PS 0 vs 57.3% ECOG PS 0) เว็บไซต์หลักของโรคเป็นลำไส้ใหญ่
(64% เทียบกับ 67.5%), ทวารหนัก (29.9% เทียบกับ 27.1%) หรือลำไส้ใหญ่และทวารหนัก (5.9% เทียบกับ 5.5%) การกลายพันธุ์ KRAS
มีรายงานใน 54.1% ของกลุ่ม regorafenib vs 61.6% ของกลุ่มยาหลอก ผู้ป่วยทุกรายได้รับ
การรักษาก่อนที่มี fluoropyrimidine, oxaliplatin, irinotecan และ bevacizumab ของผู้ป่วย
ที่มีเนื้องอก KRAS WT, 99.5% ในกลุ่ม regorafenib และ 100% ในกลุ่มยาหลอกได้
รับการรักษาก่อนที่มี cetuximab และ / หรือ panitumumab

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประชากรและลักษณะโรคพื้นฐานแตกต่างกัน และกลุ่มยาหลอก regorafenib
เรื่องอายุ ( อายุเฉลี่ย 60.7 ใน regorafenib กลุ่มและ 60.1 ในกลุ่มยาหลอก
) , เพศ ( ผู้ชายผู้หญิงร้อยละ 38.4 % , vs ร้อยละ 60 เพศชาย ร้อยละ 40 หญิง ) และแสดงสถานะ ( 52.5 %
บริจาคบริจาค PS 0 vs วันที่ % บริจาค ( 0 ) เว็บไซต์หลักของโรคลำไส้ใหญ่
( 64 VS 67.5 % ) , ทวารหนัก ( 29.9 % ต่อ 271 % ) หรือลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ( 5.9 % และ 5 % ) kras การกลายพันธุ์
ถูกรายงานใน 54.1 % ของกลุ่มผู้ regorafenib VS และกลุ่มยาหลอก ผู้ป่วยได้รับการรักษาด้วย fluoropyrimidine
ก่อนซาลิพลาตินริโนทีแคน , การวิจัย , และ . ของผู้ป่วย
กับเนื้องอก WT kras , 99.5% ในกลุ่ม regorafenib และ 100% ในกลุ่มยาหลอกมีได้รับการรักษาด้วย cetuximab
ก่อนและ / หรือ panitumumab .