But Somchai Pulsawas, director-gene

But Somchai Pulsawas, director-general of the Excise Department, said the new rates are meant to increase the competitiveness of local producers against importers.
The new rates, which took effect after the cabinet approved them Wednesday, are based on a new calculation method.
The new structure uses the last wholesale price excluding value-added tax (VAT) instead of ex-factory prices used in the old formula.
Mr Somchai pointed out the change will make the competition between local and imported products fairer in terms of prices.
Previously, imported beverages were taxed based on costs, insurance and freight (CIF) but in reality they were declared lower than the actual CIF costs to keep the tax rate at a minimum.
This enabled imported beverages to compete effectively with local products.
But since the new rates are derived from the last wholesale prices after VAT, all operators have to declare the real prices before the products are distributed.
Mr Somchai said that even though imported alcohol beverages account for only 10% of the 130 billion baht in annual revenue collected by the department from alcoholic drinks, the government foresaw the potential of further entry of imported products in line with increasing market liberalisation.
Sudhabodi Sattabusya, a senior vice-president of Boonrawd Brewery, the producer of Singha products, said the new calculation is unfair because even though the producers pay the excise tax, the wholesalers set the prices used in the calculation.
"We have no idea how well a wholesaler manages his costs. If he's not very good at it, we'll have to pay more based on whatever he quotes. That way, how can our products be more competitive in the market?" said Mr Sudhabodi.
An executive from a beer company said even though authorities meant well, the tax structure came out unfair.
For example, the excise tax for beer is 48%, based on the value (ad-valorem) calculation, while the tax rate for white spirits is only 4%. Both of them are in similar tax brackets in terms of alcohol content per litre (155 and 145 baht per litre).
"My question is why white spirits pay only 4% excise tax. I think the public knows the high alcohol content in white spirits may have caused many road accidents. We should not protect its producers," he said.
Thai Beverage is the country's largest white spirit producer.
The new structure of alcohol tax is calculated on three elements: value or price, alcohol content and volume.
For white spirits, the value-based rate is 4% from 50% earlier, while the alcohol-content ceiling is set at 400 baht for each litre of 100% alcohol. But the actual tax for now is 145 baht per litre plus 3 baht per degree per litre for alcohol content above 40 degrees.
The maximum value tax for beer will be maintained at 48% of the last wholesale price, but the effective tax rate per litre of 100% alcohol content rose to 300 baht from 100 baht and the actual collected rate is at 155 baht per litre.
If alcohol content of a certain beer is higher than seven degrees, a three-baht surcharge is imposed on each degree above the level.
For wine, the maximum tax at 60% or 100 baht a litre of 100% alcohol is maintained, but products valued above 600 baht a bottle will be taxed at 36% of the last wholesale price. For products priced less than 600 baht per bottle, the tax will be exempted.
By alcohol content, tax is 1,000 baht per litre of pure alcohol, up from 100 baht. Also, if the alcohol content is above 15 degrees, it will be taxed additionally at three baht for each degree.
Under the current tax code, the Excise Department collects taxes on fermented beverages at a maximum rate of 100 baht a litre of 100% alcohol content or 60% of the product value, whichever is higher.
It collects taxes on distilled beverages with a ceiling of 400 baht per litre of 100% alcohol content or 50% of the value, whichever is higher.
Retail prices of liquor and beer are rising by 5%, 10% or 20%, depending on the value of each product, resulting in additional excise revenue of 10-15% or more than 10 billion baht. Beer prices will rise by 3-7 baht per bottle and liquor prices by 7-15%.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

แต่ somchai pulsawas, อธิบดีกรมสรรพสามิตกล่าวว่าอัตราใหม่จะหมายถึงการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ผลิตในท้องถิ่นกับผู้นำเข้า.
อัตราใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้หลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้พวกเขาในวันพุธที่จะขึ้นอยู่กับวิธีการคำนวณใหม่
.โครงสร้างใหม่จะใช้ราคาขายส่งล่าสุดไม่รวมค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แทนของราคาโรงงานอดีตใช้ในสูตรเก่า.
นายสมชายชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่จะทำให้การแข่งขันระหว่างผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและนำเข้าเป็นธรรมในแง่ของราคา
ก่อนหน้านี้เครื่องดื่มที่นำเข้าถูกเก็บภาษีขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายประกันภัยและค่าขนส่ง (CIF) แต่ในความเป็นจริงพวกเขาได้รับการประกาศที่ต่ำกว่าค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง CIF เพื่อให้อัตราภาษีที่ต่ำสุด.
นี้เครื่องดื่มที่นำเข้ามาใช้ในการแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น.
แต่เนื่องจากอัตราใหม่จะได้มาจากที่ผ่านมา ราคาขายส่งหลังจากภาษีมูลค่าเพิ่มผู้ประกอบการทุกคนต้องมีการประกาศราคาที่แท้จริงก่อนที่ผลิตภัณฑ์ที่มีการกระจาย.
นายสมชายกล่าวว่านำเข้าแม้เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เครื่องดื่มสำหรับบัญชีเพียง 10% ของ 130 ล้านบาทในรายได้ประจำปีที่เก็บรวบรวมโดยแผนกจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่รัฐบาลเล็งเห็นศักยภาพของรายการต่อไปของผลิตภัณฑ์ที่นำเข้ามาอยู่ในแนวเดียวกันกับการเปิดเสรีตลาดที่เพิ่มขึ้น.
sudhabodi sattabusya, รองประธานอาวุโสของโรงเบียร์บุญรอดผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์สิงห์,กล่าวว่าการคำนวณใหม่ไม่เป็นธรรมเพราะถึงแม้ว่าผู้ผลิตต้องจ่ายภาษีสรรพสามิตค้าส่งสามารถกำหนดราคาที่ใช้ในการคำนวณ.
"เรามีความคิดว่าวิธีที่ดีที่ผู้ค้าส่งบริหารจัดการค่าใช้จ่ายของเขา. ถ้าเขาไม่ดีมากที่มันเรา ' จะต้องจ่ายมากขึ้นตามในสิ่งที่เขาพูด. วิธีการที่วิธีการที่ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถแข่งขันในตลาดได้หรือไม่ " นาย sudhabodi กล่าว.
ผู้บริหารระดับสูงจาก บริษัท เบียร์กล่าวว่าถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่ความหมายดีโครงสร้างภาษีที่ไม่เป็นธรรมออกมา.
ตัวอย่างเช่นภาษีสรรพสามิตเบียร์เป็น 48% จากมูลค่า (โฆษณา valorem) การคำนวณในขณะที่อัตราภาษีสำหรับสีขาว วิญญาณเป็นเพียง 4% ทั้งสองของพวกเขาเป็นอยู่ในวงเล็บภาษีที่คล้ายกันในแง่ของปริมาณแอลกอฮอล์ต่อลิตร (155 และ 145 บาทต่อลิตร).
"คำถามของฉันคือเหตุผลที่สุราขาวจ่ายเพียง 4% ภาษีสรรพสามิต. ผมคิดว่าประชาชนรู้ว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงในสุราขาวอาจจะก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก. เราไม่ควรจะปกป้องผู้ผลิตของมัน" เขากล่าว.
ไทยเครื่องดื่มของประเทศ ผู้ผลิตที่ใหญ่ที่สุดของจิตวิญญาณสีขาว
โครงสร้างใหม่ของภาษีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะถูกคำนวณเมื่อสามองค์ประกอบ:.. มูลค่าหรือราคาแอลกอฮอล์และปริมาณ
สำหรับสุราขาวราคาคุ้มค่าที่ใช้คือ 4% จาก 50% ก่อนหน้านี้ในขณะที่เพดานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่มีเนื้อหาที่มีการตั้งค่า 400 บาทสำหรับลิตรของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 100% แต่ละ แต่ภาษีที่แท้จริงสำหรับในขณะนี้คือ 145 บาทต่อลิตรบวก 3 บาทต่อระดับปริญญาต่อลิตรสำหรับปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่า 40 องศา.
ภาษีมูลค่าสูงสุดสำหรับเบียร์จะถูกเก็บรักษาไว้ที่ 48% ของราคาขายส่งที่ผ่านมาแต่อัตราภาษีที่มีประสิทธิภาพต่อลิตรของปริมาณแอลกอฮอล์ 100% เพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทจาก 100 บาทและอัตราการเก็บที่แท้จริงอยู่ที่ 155 บาทต่อลิตร.
ถ้าปริมาณแอลกอฮอล์ของเบียร์บางอย่างจะสูงกว่าเจ็ดองศาคิดค่าบริการสามบาท จะถูกกำหนดไว้ในระดับสูงกว่าระดับแต่ละ.
สำหรับไวน์ภาษีสูงสุดที่ 60% หรือ 100 บาทต่อลิตรของแอลกอฮอล์ 100% จะยังคงแต่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูงกว่า 600 บาทขวดจะต้องถูกหักภาษีที่ 36% ของราคาขายส่งล่าสุด สำหรับสินค้าที่มีราคาน้อยกว่า 600 บาทต่อขวดภาษีจะได้รับการยกเว้น.
โดยมีปริมาณแอลกอฮอล์ที่ภาษีเป็น 1,000 บาทต่อลิตรของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์เพิ่มขึ้นจาก 100 บาท นอกจากนี้ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงกว่า 15 องศาก็จะต้องเสียภาษีนอกจากนี้ที่สามบาทสำหรับปริญญาแต่ละ.
ภายใต้รหัสภาษีในปัจจุบันกรมสรรพสามิตเก็บภาษีเครื่องดื่มหมักในอัตราสูงสุดไม่เกิน 100 บาทต่อลิตรของปริมาณแอลกอฮอล์ 100% หรือ 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า.
มันเก็บภาษีเครื่องดื่มกลั่นเพดาน 400 บาทต่อลิตรของ ปริมาณแอลกอฮอล์ 100% หรือ 50% ของมูลค่าแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า.
ราคาขายปลีกของสุราและเบียร์ที่เพิ่มขึ้น 5%, 10% หรือ 20%ขึ้นอยู่กับมูลค่าของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดส่งผลให้รายได้ภาษีสรรพสามิตที่เพิ่มขึ้น 10-15% หรือกว่า 10 ล้านบาท ราคาเบียร์จะเพิ่มขึ้น 3-7 บาทต่อขวดสุราและราคาโดย 7-15%.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แต่สมชัย Pulsawas อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า ราคาใหม่จะหมายถึงเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ผลิตท้องถิ่นกับผู้นำเข้า
อัตราใหม่ ซึ่งได้ผลหลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติให้พุธ ขึ้นอยู่กับวิธีการคำนวณใหม่
โครงสร้างใหม่จะใช้ราคาขายส่งสุดท้ายที่ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แทนที่จะใช้ในเก่าสูตรราคาโรง
นายสมชัยชี้ให้เห็นการเปลี่ยนแปลงจะทำให้การแข่งขันระหว่างท้องถิ่น และนำเข้าผลิตภัณฑ์ธรรมในด้านราคา
ก่อนหน้านี้ นำเข้าเครื่องดื่มที่คิดตามต้นทุน ประกันภัยและค่าขนส่ง (CIF) แต่ในความเป็นจริงพวกเขาถูกประกาศต่ำกว่าต้นทุน CIF จริงเก็บภาษีอัตราที่ต่ำเป็นการ
นี้เปิดใช้งานเครื่องดื่มนำเข้าให้สามารถแข่งขันกับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นอย่างมีประสิทธิภาพ
แต่เนื่องจากราคาใหม่มาจากราคาขายส่งสุดท้ายหลังจาก VAT ตัวดำเนินการทั้งหมดต้องประกาศราคาจริงก่อนมีกระจายผลิตภัณฑ์การ
นายสมชัยกล่าวว่า แม้ว่าจะนำเข้าบัญชีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพียง 10% ของ 130 ล้านบาทในปีรายได้รวบรวม โดยแผนกเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รัฐบาล foresaw ศักยภาพของรายการเพิ่มเติมของผลิตภัณฑ์โดยเพิ่มตลาดเปิดเสรีการนำเข้า
Sudhabodi Sattabusya รองประธานอาวุโสของบุญรอดบิณฑสันต์ลาโรง ผู้ผลิตของผลิตภัณฑ์สิงห์ กล่าวว่า การคำนวณใหม่เป็นธรรม เพราะแม้ว่าผู้ผลิตจ่ายค่าภาษีสรรพสามิต เพชรการตั้งราคาที่ใช้ในการคำนวณ
"เรามีความคิดอย่างไรดีกับเจ้าจัดการต้นทุนของเขา ถ้าเขาไม่ดีได้ เราจะต้องจ่ายเพิ่มเติมตามสิ่งที่เขาอ้างอิง วิธี วิธีผลิตภัณฑ์ของเราสามารถแข่งขันในตลาด "กล่าวว่า นาย Sudhabodi.
ผู้บริหารจากบริษัทเบียร์กล่าวว่า แม้ว่าหน่วยงานหมายถึงดี โครงสร้างภาษีออกมาไม่เป็นธรรม.
ตัวอย่าง ภาษีสรรพสามิตสำหรับเบียร์เป็น 48% ตามมูลค่า (ad valorem) คำนวณ ในขณะอัตราภาษีสำหรับสุราขาว เพียง 4% พวกเขาทั้งสองอยู่ในวงเล็บภาษีคล้ายกันในแง่ของแอลกอฮอล์เนื้อหาต่อลิตร (155 และ 145 บาท /ลิตร)
"คำถามของฉันคือเหตุผลสุราขาวจ่ายภาษีสรรพสามิต 4% เท่านั้น ผมคิดว่า ประชาชนรู้เนื้อหาสูงแอลกอฮอล์ในสุราขาวอาจเกิดอุบัติเหตุทางถนนมาก เราควรไม่ป้องกันของผู้ผลิต เขากล่าว.
เครื่องดื่มไทยได้เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดวิญญาณสีขาวโปรดิวเซอร์
คำนวณโครงสร้างใหม่ของภาษีสุราสาม: มูลค่า หรือราคา แอลกอฮอล์เนื้อหา และปริมาณ
สำหรับเหล้าขาว อัตราตามมูลค่าเป็น 4% จาก 50% ก่อนหน้านี้ ในขณะที่เพดานแอลกอฮอล์เนื้อหาไว้ที่ 400 บาท แต่ละลิตรของแอลกอฮอล์ 100% แต่ภาษีจริงตอนนี้ 145 บาท ต่อลิตรและ 3 บาท ปริญญาต่อลิตรสำหรับแอลกอฮอล์เนื้อหาข้างต้น 40 องศา
จะเก็บภาษีค่าสูงสุดสำหรับเบียร์ที่ 48% ล่าสุดราคาขายส่ง แต่อัตราภาษีมีผลบังคับใช้ต่อลิตร 100% แอลกอฮอล์เนื้อหาโรส 300 บาทจาก 100 บาท และมีอัตราเก็บจริง 155 บาทต่อลิตร.
ถ้าเนื้อหาเหล้าเบียร์บางสูงกว่าเจ็ดองศา การคิดค่าบริการ 3 บาท ถูกกำหนดในแต่ละองศาเหนือระดับ
สำหรับไวน์ สูงสุดภาษี 60% หรือ 100 บาท/ลิตรของแอลกอฮอล์ 100% ไว้, แต่จะคิดสินค้ามูลค่าเหนือ 600 บาท ขวดละ 36% ของราคาขายส่งสุดท้าย สำหรับสินค้าราคาต่ำกว่า 600 บาท ต่อขวด จะยกเว้นภาษี
โดยเนื้อหาของแอลกอฮอล์ ภาษีเป็น 1000 บาท ต่อลิตรแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ ขึ้นจาก 100 บาท ยัง ถ้าเนื้อหาแอลกอฮอล์ 15 องศาเหนือ มันจะถูกคิดนอกจากนี้ที่สามบาทสำหรับระดับแต่ละงาน
ภายใต้รหัสภาษีปัจจุบัน กรมสรรพสามิตจัดเก็บภาษีเครื่องดื่มหมักในอัตรา 100 บาท ต่อลิตรของแอลกอฮอล์ 100% เนื้อหาหรือ 60% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์สูงสุด แล้วจะสูง
รวบรวมเครื่องดื่มที่กลั่นด้วยเพดานที่ 400 บาทต่อลิตรของแอลกอฮอล์ 100% เนื้อหาหรือ 50% ของค่าภาษี ใดก็จะสูง
ราคาขายปลีกสุราและเบียร์เพิ่มขึ้น 5%, 10% หรือ 20% ขึ้นอยู่กับค่าของแต่ละผลิตภัณฑ์ ผลรายได้สรรพสามิตเพิ่มเติม 10-15% หรือกว่า 10 ล้านบาท เบียร์ราคาจะเพิ่มขึ้น 3-7 บาทต่อขวดและสุราราคา 7-15%

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่นายสมชาย pulsawas ผู้อำนวยการทั่วไปของกรมสรรพสามิตกล่าวว่าอัตราใหม่ที่มีความหมายในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการในท้องถิ่นกับผู้นำเข้าจากต่างประเทศ.
อัตราใหม่ซึ่งมีผลบังคับใช้หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้วันพุธเป็นไปตามวิธีคำนวณใหม่.
โครงสร้างใหม่ที่จะใช้ก่อนการค้าส่งราคาไม่รวม ภาษี มูลค่าเพิ่ม( VAT )แทนจากโรงงานราคาถูกใช้ในที่เดิมสูตร.
นายสมชายกล่าวว่าจากที่จะเปลี่ยนทำให้การแข่งขันระหว่างท้องถิ่นและนำเข้าสินค้าในเงื่อนไขของราคา.
ก่อนหน้านี้,นำเข้าเครื่องดื่มต่างๆก็จัดเก็บ ภาษี ตามต้นทุน,การประกัน ภัย และค่าขนส่ง( CIF )แต่ในความเป็นจริงก็เป็นได้ประกาศจัดตั้งเป็นต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริง CIF เพื่อไม่ให้เสีย ภาษี อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำสุด.
แห่งนี้เปิดใช้งานนำเข้าเครื่องดื่มต่างๆในการแข่งขันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ พร้อมด้วย ผลิตภัณฑ์ .
แต่ที่ใหม่อัตราค่าบริการที่ได้จากที่ผ่านมาการค้าส่งราคาหลังจาก ภาษี มูลค่าเพิ่ม( VAT ),ผู้ให้บริการทั้งหมดจะต้องประกาศให้เป็นจริงราคาสินค้าตั้งแต่ก่อนที่จะมีการจำหน่าย.
นายสมชายกล่าวว่าแม้ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นำเข้าจากต่างประเทศเป็นเพียง 10% ของ 130 , 000 ล้านบาทที่อยู่ในรายได้ประจำปีเก็บรวบรวมโดยกรมจากเครื่องดื่มแบบมีแอลกอฮอล์ของรัฐบาลที่มองเห็นล่วงหน้าที่มี ศักยภาพ สูงในการเข้าเพิ่มเติมของสินค้าที่นำเข้าจากในสายที่พร้อมด้วยเปิดตลาดเสรีเพิ่มขึ้น. sattabusya
sudhabodi อาวุโสรองประธานของบริษัทแอดวานซ์อินโฟร์เซอร์วิสจำกัดผู้ผลิตเบียร์ของ ผลิตภัณฑ์ สิงห์"การคำนวณใหม่จะไม่ยุติธรรมเพราะแม้จะผู้ผลิตจะจ่าย ภาษี สรรพสามิตที่ผู้ค้าส่งที่ตั้งราคาที่ใช้ในการคำนวณ.
"เราไม่มีความคิดได้อย่างดีผู้ค้าส่งที่จัดการค่าใช้จ่ายของเขา ถ้าเขาไม่เป็นอย่างมากที่ดีที่เราจะต้องจ่ายเงินมากกว่าที่ใช้ไม่ว่าเขาการเสนอราคา ด้วยวิธีนี้ได้อย่างไร?สินค้าของเรามีความสามารถในการแข่งขันได้มากกว่าในตลาดได้อย่างไร?"นาย sudhabodi .
ผู้บริหารจากบริษัทเบียร์กล่าวว่าแม้จะมีเจตนาดีโครงสร้าง ภาษี ที่ออกมาไม่เป็นธรรม.
ตัวอย่างเช่น ภาษี สรรพสามิตสำหรับเบียร์ 48% ขึ้นอยู่กับมูลค่า( ad - โดยถือเอาเกณฑ์ราคา)การคำนวณในขณะที่อัตรา ภาษี สำหรับสุราสีขาวมีเพียง 4% ทั้งสองอยู่ในตัวยึด ภาษี เหมือนกันในเรื่องของเนื้อหาแอลกอฮอล์ต่อลิตร( 155 และ 145 บาทต่อลิตร)..
"คำถามของผมคือเหตุผลว่าทำไมเหล้าสีขาวแบบเสียค่าบริการเมื่อรับชมเพียง 4% ภาษี สรรพสามิต ผมคิดว่าประชาชนจะรู้ว่าเนื้อหาแอลกอฮอล์สูงในเหล้าสีขาวอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก เราควรจะไม่ปกป้องผู้ผลิตของเขากล่าว.เครื่องดื่ม
ไทยเป็นผู้ผลิตเหล้าสีขาวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศ.
โครงสร้างใหม่ของ ภาษี เครื่องดื่มแอลกอฮอล์จะคำนวณในสามองค์ประกอบราคาหรือการตั้งค่าระดับเสียงและเนื้อหาแอลกอฮอล์.
สำหรับเหล้าสีขาวอัตราค่าซึ่งมี 4% จาก 50% ก่อนหน้าในขณะที่เพดานแอลกอฮอล์ - เนื้อหาตั้งอยู่ที่ 400 บาทสำหรับแต่ละลิตรของแอลกอฮอล์ 100% แต่ที่จริงแล้วเป็น ภาษี สำหรับ 145 บาทต่อลิตรรวมถึง 3 บาทต่อลิตรละระดับสำหรับแอลกอฮอล์เนื้อหาด้านบน 40 องศา.
ที่สูงสุดมูลค่า ภาษี สำหรับเบียร์จะรักษาให้อยู่ที่ 48% ของการค้าส่งที่ผ่านมาราคา,แต่ที่มี ประสิทธิภาพ จัดเก็บ ภาษี อัตราดอกเบี้ยต่อลิตรของแอลกอฮอล์ 100% เนื้อหาเพิ่มขึ้นเป็น 300 บาทจาก 100 บาทและที่เก็บรวบรวมจริงอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 155 บาทต่อลิตร.
หากดื่มแอลกอฮอล์เนื้อหาของบางอย่างเบียร์สูงกว่า 7 องศา,สาม - บาทคิดค่าธรรมเนียมมีกำหนดขึ้นในแต่ละระดับที่สูงกว่าระดับ.
สำหรับไวน์,ที่เก็บ ภาษี สูงสุดที่ 60% หรือ 100 บาทที่ลิตรของแอลกอฮอล์ 100% คือได้รับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี,แต่สินค้ามีมูลค่าสูงกว่า 600 บาทขวดนมที่จะเสีย ภาษี ที่ 36% ของราคาขายส่งที่ผ่านมา สำหรับสินค้าราคาต่ำกว่า 600 บาทต่อขวดนม ภาษี ที่จะได้รับการยกเว้น ภาษี .
โดยเนื้อหาแอลกอฮอล์ ภาษี เป็น 1 , 000 บาทต่อลิตรของแอลกอฮอล์บริสุทธิ์จาก 100 บาท นอกจากนี้หากเนื้อหาแอลกอฮอล์จะอยู่เหนือ 15 องศาจะจัดเก็บ ภาษี นอกจากนี้ที่สามบาทสำหรับแต่ละระดับ.
ภายใต้ รหัส ภาษี ที่ปัจจุบันที่กรมสรรพสามิตจะเก็บ ภาษี เครื่องดื่มที่หมักอัตราสูงสุดที่ 100 บาทที่ลิตรของแอลกอฮอล์เนื้อหา 100% หรือ 60% ของมูลค่าของ ผลิตภัณฑ์ ,แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า.
เก็บ ภาษี ที่กลั่นเครื่องดื่มพร้อมด้วยเพดานของ 400 บาทต่อลิตรของแอลกอฮอล์เนื้อหา 100% หรือ 50% ของมูลค่าที่จะสูงกว่า.
ค้าปลีกราคาของเหล้าและเบียร์จะเพิ่มสูงขึ้นโดย 5% , 10% หรือ 20% ,ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับมูลค่าของ ผลิตภัณฑ์ แต่ละอันเป็นผลมาจากรายได้ ภาษี สรรพสามิตเพิ่มเติมของ 10-15 10-15 10-15% หรือมากกว่า 10 , 000 ล้านบาท ราคาเบียร์จะเพิ่มขึ้นโดย 3-7 บาทต่อขวดเหล้าและราคาโดย 7-15 7-15 7-15 7-15% .