Obesity is a major cause of morbidi

Obesity is a major cause of morbidity that has been increasing in prevalence over the past few decades. The parallel trends in the increase of asthma and obesity may indicate a potential link between the conditions. There is increasing evidence relating body-mass index to the prevalence and incidence of asthma in both children and adults, although most consistently in adolescent girls. It is unlikely that the association is attributable to reverse causation — that is, that people with asthma exercise less because exercise induces symptoms of asthma. Rather, weight gain can antedate the development of asthma. Weight loss by patients with asthma tends to improve lung function. Potential explanations for the association of obesity and asthma are that the development of both conditions is determined in early life, that mechanical factors promote symptoms of asthma, or that gastroesophageal reflux resulting from obesity induces asthma. Physical inactivity may promote both obesity and asthma. A British study found that trends in overweight and obesity did not explain the increase in the incidence of asthma from 1982 to 1994. The association between asthma and obesity may there- fore be of recent origin, suggesting that recent changes in lifestyle and diet are now associated with both asthma and overweight. Studies have examined dietary intakes of fruits, vegetables, cereals and starches, various fatty acids, vitamin A, vitamin C, vitamin E, minerals (sodium, magnesium, copper, zinc, and selenium), and antioxidants for possible associations with asthma. Diet is complex and difficult to measure, and standardized tools are still lacking. Variation in methods of determining the frequency of intake, which individual foods are consumed, eating habits, and serum nutrient levels can introduce substantial misclassification, and the close correlations among the intakes of different nutrients make it difficult to identify independent effects. In cross-sectional surveys, a wide range of nutrients appear to have an effect on asthma outcomes. The evidence from prospective studies and randomized clinical trials, however, is far less consistent and conclusive. Maternal nutrition during pregnancy may have a role, but data on this subject remain scarce. Intervention studies promoting avoidance of cow’s milk and eggs during pregnancy have failed to protect the infants from asthma, and breast-feeding also does not protect children from asthma. Recent studies showing a positive association between breast-feeding and asthma84 may reflect adherence to recommendations for children at risk for asthma rather than breastfeeding’s being a causal factor for asthma.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรคอ้วนเป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วยที่ได้รับการเพิ่มขึ้นในความชุกในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา แนวโน้มขนานในการเพิ่มขึ้นของโรคหอบหืดและโรคอ้วนอาจแสดงให้เห็นการเชื่อมโยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเงื่อนไข มีหลักฐานเพิ่มขึ้นที่เกี่ยวข้องกับดัชนีมวลกายที่จะชุกและอุบัติการณ์ของโรคหอบหืดทั้งในเด็กและผู้ใหญ่แม้ว่าส่วนใหญ่ต่อเนื่องในเด็กวัยรุ่นหญิงก็ไม่น่าที่สมาคมเป็นผลพวงที่จะกลับสาเหตุ - นั่นคือว่าผู้ที่มีโรคหอบหืดการออกกำลังกายน้อยลงเพราะการออกกำลังกายทำให้เกิดอาการของโรคหอบหืด มากกว่าการเพิ่มของน้ำหนักสามารถเกิดก่อนการพัฒนาของโรคหอบหืด การสูญเสียน้ำหนักโดยผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืดมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงการทำงานของปอดคำอธิบายที่มีศักยภาพสำหรับการเชื่อมโยงของโรคอ้วนและโรคหอบหืดได้ว่าการพัฒนาของทั้งสองเงื่อนไขจะถูกกำหนดในชีวิตช่วงต้นว่าปัจจัยกลส่งเสริมอาการของโรคหอบหืดหรือกรดไหลย้อน gastroesophageal ที่เกิดจากโรคอ้วนทำให้เกิดโรคหอบหืด การออกกำลังกายอาจส่งเสริมทั้งโรคอ้วนและโรคหอบหืดอังกฤษศึกษาพบว่าแนวโน้มในการมีน้ำหนักเกินและโรคอ้วนไม่ได้อธิบายการเพิ่มขึ้นของอุบัติการณ์ของโรคหอบหืด 1982-1994 ความสัมพันธ์ระหว่างโรคหอบหืดและโรคอ้วนอาจมี-ก่อนจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ผ่านมาชี้ให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมาในการดำเนินชีวิตและการรับประทานอาหารที่มีความเกี่ยวข้องในขณะนี้มีทั้งโรคหอบหืดและมีน้ำหนักเกิน การศึกษามีการตรวจสอบการบริโภคอาหารของผักผลไม้ธัญพืชและแป้งกรดไขมันต่างๆวิตามิน, วิตามินซี, วิตามินอี, แร่ธาตุ (โซเดียมแมกนีเซียม, ทองแดง, สังกะสีและซีลีเนียม) และสารต้านอนุมูลอิสระสมาคมเป็นไปได้ที่มีโรคหอบหืด อาหารที่มีความซับซ้อนและยากที่จะวัดและเครื่องมือที่ได้มาตรฐานยังขาด การเปลี่ยนแปลงในวิธีการของการกำหนดความถี่ของการบริโภคซึ่งอาหารแต่ละคนมีการบริโภคนิสัยการรับประทานอาหารและระดับสารอาหารในเลือดสามารถนำจำแนกสำคัญและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างการบริโภคของสารอาหารที่แตกต่างกันทำให้มันยากที่จะระบุผลกระทบที่เป็นอิสระ ในการสำรวจภาคตัดขวางที่หลากหลายของสารอาหารที่ดูเหมือนจะมีผลกระทบต่อผลการรักษาโรคหอบหืด หลักฐานจากการศึกษาที่คาดหวังและการทดลองทางคลินิกแบบสุ่ม แต่อยู่ไกลน้อยที่สอดคล้องกันและได้ข้อสรุป โภชนาการของแม่ระหว่างตั้งครรภ์อาจมีบทบาท แต่ข้อมูลในเรื่องนี้ยังคงหายาก การศึกษาการแทรกแซงการส่งเสริมการหลีกเลี่ยงนมวัวและไข่ในระหว่างการตั้งครรภ์มีความล้มเหลวในการป้องกันทารกจากโรคหอบหืดและให้นมบุตรยังไม่ได้ป้องกันเด็กจากโรคหอบหืดการศึกษาล่าสุดแสดงให้เห็นความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างการให้นมบุตรและ asthma84 อาจสะท้อนให้เห็นถึงการยึดมั่นในคำแนะนำสำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงในการเป็นโรคหอบหืดมากกว่านมที่เป็นปัจจัยเชิงสาเหตุสำหรับโรคหอบหืด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรคอ้วนเป็นสาเหตุของ morbidity ที่เพิ่มขึ้นในชุกช่วงไม่กี่ทศวรรษ ขนานแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของโรคอ้วนและโรคหอบหืดอาจแสดงการเชื่อมโยงที่มีศักยภาพระหว่างเงื่อนไข ยังมีหลักฐานเพิ่มขึ้นที่เกี่ยวข้องกับดัชนีมวลกายชุกและอุบัติการณ์ของโรคหอบหืดในเด็กและผู้ใหญ่ แม้ว่าอย่างสม่ำเสมอมากที่สุดในหญิงวัยรุ่น ก็ไม่น่าว่าสมาคมรวมกลับ causation — นั่นคือ ที่คน ด้วยโรคหอบหืดออกกำลังกายน้อยเนื่องจากการออกกำลังกายก่อให้เกิดอาการของโรคหอบหืด ค่อนข้าง น้ำหนักสามารถ antedate การพัฒนาของโรคหอบหืด น้ำหนักลด โดยผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืดมีแนวโน้มที่จะ ปรับปรุงการทำงานของปอด เป็นคำอธิบายสำหรับความสัมพันธ์ของโรคอ้วนและโรคหอบหืดอยู่ที่การพัฒนาเงื่อนไขทั้งสองจะขึ้นในช่วงชีวิต กลปัจจัยส่งเสริมอาการของโรคหอบหืด หรือกรดไหลย้อนกรดไหลที่เกิดจากโรคอ้วนก่อให้เกิดโรคหอบหืด สาเหตุทางกายภาพอาจส่งเสริมโรคอ้วนและโรคหอบหืด การศึกษาภาษาอังกฤษพบว่า แนวโน้มน้ำหนักเกินและโรคอ้วนได้ไม่อธิบายการเพิ่มขึ้นของอุบัติการณ์ของโรคหอบหืดจาก 1982 ปี 1994 ความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและโรคหอบหืดอาจมี-ลำเลียงสาเป็นต้นกำเนิดล่าสุด แนะนำการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในการดำเนินชีวิตและอาหารตอนนี้สัมพันธ์กับโรคหอบหืดและน้ำหนักเกิน การศึกษาได้ตรวจสอบภาคอาหารผลไม้ ผัก ธัญพืชและสมบัติ ต่าง ๆ กรดไขมัน วิตามิน A วิตามินซี วิตามิน เกลือแร่ (โซเดียม แมกนีเซียม ทองแดง สังกะสี และเกลือ), และสารต้านอนุมูลอิสระในความสัมพันธ์ได้กับโรคหอบหืด อาหารมีความซับซ้อน และยากต่อการวัด และยังมีการขาดเครื่องมือมาตรฐาน เปลี่ยนแปลงในวิธีการกำหนดความถี่ของการบริโภค อาหารแต่ละที่มีใช้ พฤติกรรม การรับประทานอาหาร และเซรั่มระดับธาตุอาหารสามารถแนะนำ misclassification พบ และความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างภาคการสารอาหารแตกต่างกันทำให้ยากที่จะระบุลักษณะพิเศษอิสระ ในการสำรวจของเหลว ความหลากหลายของสารอาหารจะ มีผลกระทบผลลัพธ์ของโรคหอบหืด หลักฐานจากการศึกษาคาดหวังและ randomized คลินิก อย่างไรก็ตาม ไม่สอดคล้องกันมากน้อย และข้อสรุป โภชนาการแม่ในระหว่างตั้งครรภ์อาจมีบทบาท แต่ข้อมูลในเรื่องนี้ยังคงขาดแคลน หลีกเลี่ยงนมวัวและไข่ในระหว่างตั้งครรภ์ส่งเสริมการศึกษาการแทรกแซงล้มทารกการป้องกันโรคหอบหืด และ breast-feeding ยังไม่ป้องกันเด็ก ๆ จากโรคหอบหืด การศึกษาล่าสุดแสดงความสัมพันธ์ในเชิงบวกระหว่าง breast-feeding และ asthma84 อาจสะท้อนต่าง ๆ ให้คำแนะนำสำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงสำหรับโรคหอบหืดมากกว่าของนมมีปัจจัยสาเหตุโรคหอบหืด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โรคอ้วนเป็นสาเหตุสำคัญของทารกที่มีการเพิ่มขึ้นของความชุกในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา แนวโน้มคู่ขนานในการเพิ่มของโรคอ้วนและโรคหอบหืดอาจแสดงถึงลิงค์ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างเงื่อนไข มีหลักฐานเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับตัวเครื่อง - ดัชนีมวลในการจัดการปัญหาด้านการรักษาความ ปลอดภัย และมีมากกว่าของโรคหอบหืดในทั้งเด็กและผู้ใหญ่มากที่สุดอย่างต่อเนื่องแม้ว่าในผู้หญิงวัยรุ่นมีแนวโน้มว่าการเชื่อมโยงที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการย้อนกลับ - ความเป็นเหตุผลที่ว่าคนที่มีโรคหอบหืดใช้สิทธิน้อยกว่าเพราะออกกำลังกายชักนำอาการของโรคหอบหืด เป็นการเพิ่มน้ำหนักสามารถลงวันที่ก่อนวันจริงการพัฒนาการของโรคหืด การสูญเสียน้ำหนักโดยผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืดมีแนวโน้มที่จะปรับปรุงผู้ป่วยโรคปอดคำอธิบายการเชื่อมโยงที่มี ศักยภาพ ในการเกิดโรคหอบหืดโรคอ้วนและการที่มีการพัฒนาของ สภาพ ทั้งสองจะถูกกำหนดไว้ในช่วงต้นที่ปัจจัยกลไกส่งเสริมอาการของโรคหอบหืดหรือที่ไหลย้อน gastroesophageal อันเป็นผลมาจากโรคอ้วนชักนำโรคหอบหืด ไม่มีการใช้งานจริงอาจช่วยส่งเสริมและโรคหอบหืดโรคอ้วนทั้งสองการศึกษาประเทศอังกฤษพบว่าแนวโน้มในและโรคอ้วนไม่ได้อธิบายถึงการเพิ่มขึ้นในอัตราการเกิดโรคหอบหืดจากปี 1982 ถึง 1994 . การเชื่อมโยงระหว่างเป็นโรคอ้วนและโรคหอบหืดอาจเป็นของที่มาเมื่อไม่นานมานี้แนะนำว่าการเปลี่ยนแปลงเมื่อไม่นานมานี้ในการรับประทานอาหารและไลฟ์สไตล์จะมีการเชื่อมโยงกับมีน้ำหนักตัวมากเกินและโรคหอบหืดทั้งในปัจจุบันมี - หน้า การศึกษาวิจัยได้ตรวจดูปริมาณการ บริโภค อาหารของผักซีเรียลและแป้งมันกรดไขมันชนิดต่างๆที่วิตามิน C วิตามินเกลือแร่วิตามิน E (เกลือโซเดียมแมกนีเซียมและทองแดงสังกะสีเลเนียม)และสารต้านอนุมูลอิสระสำหรับการเชื่อมโยงเป็นไปได้ด้วยโรคหอบหืด. การรับประทานอาหารมีความซับซ้อนและยากที่จะวัดและเครื่องมือได้มาตรฐานมียังขาด การเปลี่ยนแปลงในวิธีใดวิธีหนึ่งในการกำหนดความถี่ของการ บริโภค อาหารที่มีลักษณะนิสัยการ บริโภค การรับประทานอาหารและระดับสารอาหารเจลมาสก์มอยเจอร์ไรเซอร์สามารถที่จะจัดกลุ่มผิด ประเภท ขึ้นอย่างมากและอยู่ใกล้กับสัมพันธ์เชิงปริมาณของสารอาหารที่แตกต่างทำให้เป็นการยากที่จะระบุผลอิสระ ในการตอบแบบสำรวจแบบตัดขวางทางเลือกที่หลากหลายของอาหารจะต้องมีผลลัพธ์ที่เกิดโรคหอบหืด หลักฐานจากการทดลองทางการแพทย์แบบสุ่มตัวอย่างและการศึกษาในอนาคตอย่างไรก็ตามเป็นไปอย่างต่อเนื่องและไม่อาจโต้แย้งได้น้อยลง คุณค่าทางสารอาหารของผู้เป็นแม่ในระหว่างการตั้ง ครรภ์ อาจมีบทบาทสำคัญแต่ข้อมูลในเรื่องนี้ก็แทบจะไม่เหลืออยู่ การศึกษาการแทรกแซงการส่งเสริมการหลีกเลี่ยงนมวัวและไข่ในระหว่างการตั้ง ครรภ์ ไม่ได้ปกป้องเด็กทารกออกจากและโรคหอบหืดเลี้ยงลูกด้วยนมแม่การป้อนนมและยังไม่ได้ทำหน้าที่ปกป้องเด็กจากโรคหอบหืดการศึกษาเมื่อเร็วๆนี้การแสดงความเชื่อมโยงในเชิงบวกระหว่างแม่ - การป้อนนมและโรคหอบหืด 84 อาจสะท้อนให้เห็นถึงการยึดมั่นในคำแนะนำสำหรับเด็กที่มีความเสี่ยงให้เกิดโรคหอบหืดมากกว่าของการป้อนนมจากเต้านมแม่เป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคหอบหืดแบบสบายๆ