World turning to burningIncineratio

World turning to burning

Incineration of regular garbage has been routine for over a century in Europe, Japan and the United States.

In the 1950s, when energy costs skyrocketed, countries on both sides of the Atlantic went in different directions. Europe and Japan used energy recovery in their incinerators and incorporated them as part of their central heating systems for cities and located them near population centres. Today, 50 per cent of solid waste incinerated in Sweden produces eight per cent of the country's heating needs. This is projected to rise to ten per cent using 70 per cent of their solid waste.

The US, on the other hand, started closing down incinerators in the 1950s and 1960s mainly because of polluted flue gas emissions. The cost of installing pollution control devices was too high, and at any rate, it was not a priority because there was an abundance of land to use for landfilling. In addition, they were not aware, at that time, of the negative impact of landfills on the environment. Also, energy recovery was not a priority because the cost of energy was low in the US. However, when the global oil crisis of the 1970s struck, the US was back into the incineration market with emphasis on energy recovery.

Today, Europe is moving away from landfills towards recycling and incineration. Many members of the European Union are either prohibiting the dumping of incinerable materials in a landfill; imposing levies on top of tipping fees to encourage recycling, reuse and incineration; banning compost material from landfills by the year 2000; permitting disposal of materials with only three per cent or less carbon; or, passing laws to encourage the construction of incinerators.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โลกเปลี่ยนไปเขียนเผาขยะปกติแล้วขั้นตอนในกว่าศตวรรษในยุโรป ญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาในช่วงทศวรรษ 1950 เมื่อต้นทุนพลังงาน skyrocketed ประเทศทั้งสองด้านของมหาสมุทรแอตแลนติกไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ยุโรปและญี่ปุ่นใช้พลังงานกู้ incinerators ของพวกเขา และรวมเป็นส่วนหนึ่งของระบบความร้อนกลางเมือง และพวกเขาอยู่ใกล้ศูนย์กลางประชากร วันนี้ ร้อยละ 50 ของขยะ incinerated ในสวีเดนสร้าง 8 ร้อยละของความร้อนของประเทศต้อง นี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงสิบร้อยร้อยละ 70 ของขยะการใช้สหรัฐอเมริกา ในทางกลับกัน เริ่มปิดลง incinerators ในช่วงทศวรรษ 1950 และ 1960s เพราะปล่อยก๊าซชำระล้างกรดเสียส่วนใหญ่ ต้นทุนของการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมมลพิษสูงเกินไป และที่ใด ๆ ไม่มีความสำคัญเนื่องจากมีความอุดมสมบูรณ์ของดินเพื่อใช้สำหรับ landfilling นอกจากนี้ พวกเขาไม่ทราบ เวลาที่ ผลกระทบเชิงลบของ landfills สิ่งแวดล้อม ยัง กู้คืนพลังงานได้ไม่มีความสำคัญเนื่องจากต้นทุนของพลังงานต่ำในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เมื่อวิกฤตน้ำมันโลกของสาว ๆ หลง สหรัฐอเมริกาได้กลับเข้ามาในตลาดเน้นกู้พลังงานเผาวันนี้ ยุโรปย้ายจาก landfills รีไซเคิลและการเผา สมาชิกจำนวนมากของสหภาพยุโรปห้ามถ่ายโอนข้อมูลของวัสดุในการฝังกลบมูลฝอย incinerable อย่างใดอย่างหนึ่ง levies โอ่อ่าบนให้ทิปค่าธรรมเนียมส่งเสริมรีไซเคิล นำ และ เผา ห้ามปุ๋ยวัสดุจาก landfills โดยปี 2000 อนุญาตให้ทิ้งวัสดุมีเพียงสามร้อย หรือน้อย กว่า คาร์บอน ขึ้น ผ่านกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้การก่อสร้างของ incinerators

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โลกเปลี่ยนไปการเผาไหม้เผาขยะปกติที่ได้รับประจำมานานกว่าศตวรรษในยุโรปญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา. ในปี 1950 เมื่อต้นทุนพลังงานพุ่งสูงขึ้นประเทศทั้งสองด้านของมหาสมุทรแอตแลนติกไปในทิศทางที่แตกต่างกัน ยุโรปและญี่ปุ่นที่ใช้ในการกู้คืนพลังงานในเตาเผาขยะของพวกเขาและพวกเขารวมอยู่เป็นส่วนหนึ่งของระบบทำความร้อนของพวกเขากลางสำหรับเมืองและอยู่ใกล้กับพวกเขาศูนย์ประชากร วันนี้ร้อยละ 50 ของขยะมูลฝอยเผาในสวีเดนผลิตร้อยละแปดของประเทศร้อนความต้องการ นี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึงร้อยละสิบโดยใช้ร้อยละ 70 ของขยะมูลฝอยของพวกเขา. สหรัฐในมืออื่น ๆ เริ่มปิดเตาเผาขยะในปี 1950 และ 1960 ส่วนใหญ่เป็นเพราะการปล่อยก๊าซมลพิษไอเสีย ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมมลพิษอยู่ในระดับสูงเกินไปและในอัตราใด ๆ ก็ไม่ได้มีความสำคัญเพราะมีความอุดมสมบูรณ์ของดินแดนที่จะใช้สำหรับฝังกลบ นอกจากนี้พวกเขาไม่ทราบในเวลานั้นของผลกระทบเชิงลบของหลุมฝังกลบที่มีต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้การกู้คืนพลังงานก็ไม่ได้มีความสำคัญเพราะค่าใช้จ่ายของพลังงานที่อยู่ในระดับต่ำในสหรัฐ แต่เมื่อเกิดวิกฤตน้ำมันในตลาดโลกของปี 1970 หลงสหรัฐก็กลับเข้าสู่ตลาดการเผาที่มีความสำคัญกับการกู้คืนพลังงาน. วันนี้ยุโรปจะย้ายออกจากหลุมฝังกลบที่มีต่อการรีไซเคิลและการเผา สมาชิกหลายคนของสหภาพยุโรปมีทั้งห้ามทิ้งวัสดุ incinerable ในหลุมฝังกลบ; การจัดเก็บภาษีครัวเรือนที่ด้านบนของค่าธรรมเนียมการให้ทิปที่จะส่งเสริมให้การรีไซเคิลนำมาใช้ใหม่และการเผา; ห้ามวัสดุหมักจากหลุมฝังกลบโดยในปี 2000; อนุญาตการกำจัดของวัสดุที่มีเพียงร้อยละสามหรือคาร์บอนน้อยกว่า หรือผ่านกฎหมายเพื่อส่งเสริมให้การก่อสร้างเตาเผาขยะ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โลกหมุนไปเผาไหม้

ปกติขยะได้ตามปกติมานานกว่าศตวรรษในยุโรป , ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา .

ในปี 1950 เมื่อต้นทุนพลังงานพุ่งสูงขึ้น ประเทศทั้งสองด้านของมหาสมุทรแอตแลนติก ไปในทิศทางที่แตกต่างกันยุโรปและญี่ปุ่นใช้พลังงานในเตาเผาของพวกเขาและใช้พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของระบบความร้อนกลางของเมืองและอยู่ให้ใกล้ศูนย์ประชากร วันนี้ ร้อยละ 50 ของการเผาขยะในประเทศสวีเดนผลิตร้อยละแปดของประเทศร้อนต้องการ นี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 10 เปอร์เซ็นต์ โดยร้อยละ 70 ของขยะของพวกเขา .

เรา บนมืออื่น ๆเริ่มปิดเตาใน 1950s และ 1960s เพราะส่วนใหญ่ของการปล่อยก๊าซมลพิษ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์ระบบควบคุมมลพิษที่สูงเกินไปและที่อัตราการใด ๆ มันก็ไม่สําคัญ เพราะมีความอุดมสมบูรณ์ของที่ดินที่จะใช้สำหรับ landfilling . นอกจากนี้พวกเขาไม่ได้ตระหนักถึงเวลาที่ของผลกระทบเชิงลบของการฝังกลบในสภาพแวดล้อม นอกจากนี้การกู้คืนพลังงานก็ไม่สําคัญ เพราะต้นทุนของพลังงานต่ำในเรา อย่างไรก็ตาม เมื่อโลกวิกฤตการณ์น้ำมันของปี 1970 หลง เราก็กลับเข้ามาในตลาด การเน้นพลังงาน

วันนี้ยุโรปเคลื่อนห่างจากหลุมฝังกลบไปสู่การรีไซเคิล และการเผาสมาชิกหลายคนของสหภาพยุโรปจะห้ามการทิ้งวัสดุ incinerable ในหลุมฝังกลบขยะ ; การจัดเก็บบน tipping ค่าธรรมเนียมเพื่อส่งเสริมการรีไซเคิลนำมาใช้ใหม่ และการเผาวัสดุปุ๋ยหมัก ; ห้ามจากหลุมฝังกลบ โดยในปี 2000 ; อนุญาตการจัดการของวัสดุที่มีเพียงสามเปอร์เซ็นต์หรือน้อยกว่า คาร์บอน หรือ ผ่านกฎหมายเพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง ของเตาเผาขยะ .