Mosaic is the art of creating image

Mosaic is the art of creating images with an assemblage of small pieces of colored glass, stone, or other materials. It is a technique of decorative art or interior decoration. Most mosaics are made of small, flat, roughly square, pieces of stone or glass of different colors, known as tesserae. Some, especially floor mosaics, are made of small rounded pieces of stone, and called "pebble mosaics". Others are made of other materials.

Mosaic has a long history, starting in Mesopotamia in the 3rd millennium BC. Pebble mosaics were made in Tiryns in Mycenean Greece; mosaics with patterns and pictures became widespread in classical times, both in Ancient Greece and Ancient Rome. Early Christian basilicas from the 4th century onwards were decorated with wall and ceiling mosaics. Mosaic art flourished in the Byzantine Empire from the 6th to the 15th centuries; that tradition was adopted by the Norman kingdom in Sicily in the 12th century, by eastern-influenced Venice, and among the Rus in Ukraine. Mosaic fell out of fashion in the Renaissance, though artists like Raphael continued to practise the old technique. Roman and Byzantine influence led Jews to decorate 5th and 6th century synagogues in the Middle East with floor mosaics.

Mosaic was widely used on religious buildings and palaces in early Islamic art, including Islam's first great religious building, the Dome of the Rock in Jerusalem, and the Umayyad Mosque in Damascus. Mosaic went out of fashion in the Islamic world after the 8th century.

Modern mosaics are made by professional artists, street artists, and as a popular craft. Many materials other than traditional stone and ceramic tesserae may be employed, including shells, glass and beads.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โมเสคเป็นศิลปะของการสร้างภาพด้วยการผสมผสานของกระจกสี หิน หรือวัสดุอื่น ๆ ชิ้นเล็ก ๆ มันเป็นเทคนิคการตกแต่งภายในหรือมัณฑนศิลป์ ส่วนใหญ่กระเบื้องโมเสกที่ทำจากชิ้นเล็ก แบน สี่เหลี่ยม จัตุรัสประมาณ หินหรือแก้วสีต่าง ๆ เป็นซใน บาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นโมเสคแก้ว ทำจากหินก้อนโค้งมน และเรียกว่า "หินกรวดกระเบื้องโมเสก" คนอื่น ๆ ที่ทำจากวัสดุอื่น ๆโมเสคที่มีมานาน เริ่มต้นกาลในสหัสวรรษที่ 3 BC ทำโมเสกหินกรวดใน Tiryns ในกรีซ Mycenean กระเบื้องเคลือบสลับกับลวดลายและรูปภาพกลายเป็นแพร่หลายในยุคโบราณ ทั้ง ในสมัยกรีกโบราณและโรมโบราณ นเวคริสเตียนช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นไปถูกตกแต่ง ด้วยผนังและเพดานกระเบื้องโมเสก ศิลปะโมเสกรุ่งเรืองในจักรวรรดิไบแซนไทน์จากวันที่ 6 ถึงศตวรรษ 15 ประเพณีที่ถูกนำ โดยอาณาจักรนอร์แมนในซิซิลีในศตวรรษที่ 12 เวนิสตะวันออกได้รับอิทธิพล และ ระหว่างมาตุภูมิในยูเครน โมเสคหลุดออกมาจากแฟชั่นในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา แม้ว่าศิลปินเช่นราฟาเอลยังคงฝึกฝนเทคนิคเก่า โรมันและไบแซนไทน์มีอิทธิพลต่อชาวยิว led ตกแต่ง 5 และศตวรรษที่ 6 ธรรมศาลาในตะวันออกกลางด้วยพื้นกระเบื้องโมเสกโมเสคที่ใช้ในอาคารทางศาสนาและพระราชวังในช่วงต้นศิลปะอิสลาม รวมทั้งของอิสลามดีศาสนาแรกอาคาร โดม หินในเยรูซาเลมและมัสยิดอุมัยยะฮ์ในดามัสกัส โมเสคไปจากแฟชั่นในโลกอิสลามหลังจากศตวรรษที่ 8โมเสกที่ทันสมัยที่ทำ โดยมืออาชีพ ศิลปิน ศิลปินข้างถนน และ เป็นยอดฝีมือ วัสดุหลายนอกเหนือจากหินดั้งเดิมและซในเซรามิกอาจจะต้องใช้ รวมทั้งเปลือกหอย แก้ว และลูกปัด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กระเบื้องโมเสคเป็นศิลปะของการสร้างภาพที่มีการชุมนุมของชิ้นเล็ก ๆ ของกระจกสีหินหรือวัสดุอื่น ๆ นั้น มันเป็นเทคนิคของศิลปะการตกแต่งหรือการตกแต่งภายใน โมเสคส่วนใหญ่จะทำขนาดเล็กแบนสี่เหลี่ยมชิ้นส่วนของหินหรือแก้วสีที่แตกต่างเป็นที่รู้จัก tesserae โดยเฉพาะอย่างยิ่งโมเสคชั้นที่ทำจากชิ้นกลมเล็ก ๆ ของหินและเรียกว่า "โมเสคก้อนกรวด" อื่น ๆ ที่ทำจากวัสดุอื่น ๆ . โมเสคมีประวัติศาสตร์อันยาวนานเริ่มต้นในโสโปเตเมียในสหัสวรรษที่ 3 โมเสค Pebble ได้ทำใน Tiryns ใน Mycenean กรีซ; กระเบื้องโมเสคที่มีรูปแบบและภาพกลายเป็นที่แพร่หลายในสมัยคลาสสิกทั้งในสมัยกรีกโบราณและโรมโบราณ โบสถ์คริสเตียนจากศตวรรษที่ 4 เป็นต้นไปถูกตกแต่งด้วยผนังและฝ้าเพดานกระเบื้องโมเสค ศิลปะโมเสคเจริญรุ่งเรืองในจักรวรรดิไบเซนไทน์ตั้งแต่วันที่ 6 ถึงศตวรรษที่ 15; ประเพณีที่ถูกนำมาใช้โดยราชอาณาจักรนอร์แมนในซิซิลีในศตวรรษที่ 12 โดยได้รับอิทธิพลทางทิศตะวันออกของเมืองเวนิซและในหมู่มาตุภูมิในยูเครน กระเบื้องโมเสคหลุดออกมาจากแฟชั่นในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาแม้ว่าศิลปินที่ชอบราฟาเอลยังคงใช้เทคนิคเก่า โรมันและไบเซนไทน์อิทธิพลนำชาวยิวในการตกแต่งที่ 5 และ 6 ธรรมศาลาศตวรรษในตะวันออกกลางด้วยโมเสกชั้น. โมเสคถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในอาคารทางศาสนาและพระราชวังในศิลปะอิสลามต้นแรกรวมทั้งอาคารทางศาสนาอิสลามที่ดีโดมออฟเดอะร็อคในกรุงเยรูซาเล็ม และมัสยิดเมยยาดในดามัสกัส กระเบื้องโมเสคออกไปจากแฟชั่นในโลกอิสลามหลังจากศตวรรษที่ 8. โมเสคโมเดิร์นจะทำโดยศิลปินมืออาชีพถนนศิลปินและเป็นงานฝีมือที่เป็นที่นิยม วัสดุอื่น ๆ อีกมากมายกว่าหินแบบดั้งเดิมและ tesserae เซรามิกอาจจะต้องใช้รวมทั้งเปลือกหอยและลูกปัดแก้ว

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โมเสคเป็นศิลปะของการสร้างภาพที่มีการรวมกลุ่มของชิ้นเล็กๆ สีแก้ว , หิน , หรืออื่น ๆวัสดุ มันเป็นเทคนิคของศิลปะการตกแต่ง หรือ งานตกแต่งภายใน โมเสคที่สุดมีขนาดเล็กแบนประมาณสี่เหลี่ยมชิ้นของหินหรือแก้วสีต่าง ๆเรียกว่า เทส เร่ . บางส่วน โดยเฉพาะโมเสคพื้นเป็นชิ้นกลมเล็ก ๆของหิน และเรียกว่า " พลอยโมเสค " คนอื่น ๆที่ทำจากวัสดุอื่น ๆโมเสค มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน เริ่มต้นในเมโสโปเตเมียในสหัสวรรษที่ 3 ก่อนคริสต์ศักราช โมเสคก้อนกรวดอยู่ในไทรินส์ ในไมซีเนียนกรีซ ; โมเสคที่มีรูปแบบและภาพที่เป็นที่แพร่หลายในสมัยคลาสสิก ทั้งในกรีกโบราณและโรมโบราณ ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 4 เป็นต้นไปดส์จากผนังและเพดานถูกตกแต่งด้วยโมเสค . ศิลปะโมเสกเจริญรุ่งเรืองในจักรวรรดิไบแซนไทน์จาก 6 ถึงศตวรรษที่ 15 ; ประเพณีที่ได้รับการอุปการะโดยอาณาจักรนอร์แมนในซิซิลีในคริสต์ศตวรรษที่ 12 โดยตะวันออกได้รับอิทธิพล เวนิส และระหว่างรัสในยูเครน โมเสคหลุดจากแฟชั่นในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา แม้ว่าศิลปินอย่าง ราฟาเอลยังคงฝึกเทคนิคเก่า โรมันและอิทธิพลของชาวยิวที่จะตกแต่ง LED 5 และ 6 ศตวรรษ synagogues ในตะวันออกกลางด้วยกระเบื้องเคลือบปูพื้นโมเสกถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในอาคารพระราชวังและทางศาสนาในช่วงต้นของอิสลามศิลปะ ได้แก่ ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาแรกที่ยอดเยี่ยมอาคารโดมของหินในเยรูซาเล็ม และมัสยิดอุมัยยะฮ์ในดามัสกัส โมเสคออกไปของแฟชั่นในโลกอิสลามจากศตวรรษที่ 8โมเสคที่ทันสมัยเป็นถนนศิลปิน ศิลปินมืออาชีพ และเป็นเรือที่ได้รับความนิยม วัสดุอื่นที่ไม่ใช่หินแบบดั้งเดิมและเทส เร่เซรามิกอาจว่าจ้าง รวมถึงหอยหลายแก้วและลูกปัด