The ascorbic acid (vitamin „C‟) con

The ascorbic acid (vitamin „C‟) content of the juice decreased during storage with the advancement of storage period , which was probably due to the fact that ascorbic acid being sensitive to oxygen, light and heat was easily oxidized in presence of oxygen by both enzymatic and non-enzymatic catalyst (Mapson, 1970).Among the beverages prepared with pineapplejuice werebetter in ascorbic acid content. Maximumascorbic acid (33.09 mg/100 ml juice) was recorded in pineapple juice (80%) blended with carrotjuice that is 10% and orange juice that is 10% (T1). These findings are in conformity with the studies of Jain and Khurdiya (2005) reported that the Indian gooseberry juice contained the highest vitamin „C‟ (478.56 mg / 100 ml. juice). Hence,when gooseberry juice was blended with other fruit juicesfor the preparation of blended ready-to-serve beverages,it boosted their nutritional quality in terms of vitamin C content as shown in table 6.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

กรดแอสคอร์บิค (วิตามิน "C‟) เนื้อหาของน้ำลดลงระหว่างการเก็บรักษามีความก้าวหน้าของระยะเวลาเก็บข้อมูล ซึ่งอาจจะเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่ากรดแอสคอร์บิคที่มีความไวต่อออกซิเจน แสง และความร้อนได้ง่ายออกซิไดซ์ในของออกซิเจน โดยเอนไซม์ในระบบ และไม่เอนไซม์ในระบบ catalyst (Mapson, 1970) ระหว่างเครื่องดื่มพร้อม werebetter pineapplejuice ในเนื้อหาของกรดแอสคอร์บิค Maximumascorbic กรด (น้ำ 33.09 mg/100 ml) ถูกบันทึกในน้ำสับปะรด (80%) ผสมกับ carrotjuice ที่ 10% และน้ำส้มที่ 10% (T1) ผลการวิจัยเหล่านี้ได้ โดยการศึกษาของเจน และ Khurdiya (2005) รายงานว่า น้ำกูสเบอร์รีอินเดียประกอบด้วยวิตามินสูงสุด " C‟ (478.56 mg / 100 ml. น้ำ) ดังนั้น เมื่อน้ำกูสเบอร์รีถูกผสมกับผลไม้อื่น ๆ juicesfor การเตรียมเครื่องดื่มพร้อมให้บริการแบบผสมผสาน มันเพิ่มขึ้นคุณภาพของโภชนาการในวิตามินซีเนื้อหาดังแสดงในตาราง 6

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กรดแอสคอบิ (วิตามิน "C") เนื้อหาของน้ำลดลงระหว่างการเก็บรักษาด้วยความก้าวหน้าของระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลซึ่งอาจเป็นเพราะความจริงที่ว่าวิตามินซีเป็นความไวต่อออกซิเจนแสงและความร้อนที่ถูกออกซิไดซ์ได้ง่ายในการปรากฏตัวของออกซิเจนโดยทั้งสอง เอนไซม์และตัวเร่งปฏิกิริยาที่ไม่เอนไซม์ (Mapson, 1970) .Among เครื่องดื่มที่ปรุงด้วย werebetter pineapplejuice ในเนื้อหาของวิตามินซี กรด Maximumascorbic (33.09 มก. / 1​​00 มล. น้ำผลไม้) ถูกบันทึกลงในน้ำสับปะรด (80%) ผสมกับ carrotjuice ที่ 10% และน้ำผลไม้สีส้มที่เป็น 10% (T1) การค้นพบนี้มีความสอดคล้องกับการศึกษาของเชนและ Khurdiya (2005) รายงานว่าน้ำผลไม้ผลไม้ชนิดหนึ่งของอินเดียที่มีวิตามินสูงที่สุด "C" (478.56 มก. / 1​​00 มล. น้ำ.) ดังนั้นเมื่อน้ำผลไม้ผลไม้ชนิดหนึ่งได้รับการผสมกับผลไม้อื่น ๆ juicesfor การเตรียมผสมพร้อมที่จะให้บริการเครื่องดื่มก็เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของพวกเขาในแง่ของปริมาณวิตามินซีดังแสดงในตารางที่ 6

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

( วิตามินซี กรดแอสคอร์บิก„‟ ) เนื้อหาของน้ำที่ลดลงระหว่างกระเป๋ากับความก้าวหน้าของระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูล ซึ่งอาจเป็นเพราะความจริงที่ว่า กรดแอสคอร์บิกการไวต่อออกซิเจน , แสงและความร้อนที่สลายตัวได้ง่ายในการแสดงตนของออกซิเจนบนตัวเร่งปฏิกิริยาเอนไซม์ เอนไซม์ และทั้งสอง ( mapson , 1970 )ในบรรดาเครื่องดื่มเตรียม pineapplejuice werebetter ในปริมาณวิตามินซี . maximumascorbic acid ( 33.09 มิลลิกรัมต่อน้ำ 100 มิลลิลิตร ) ถูกบันทึกไว้ในน้ำสับปะรด ( 80 % ) ผสมกับ carrotjuice ที่ 10% และน้ำส้มที่ 10% ( T1 )การค้นพบนี้จะสอดคล้องกับการศึกษาของ เจน และ khurdiya ( 2005 ) รายงานว่า น้ำมะขามป้อม มีวิตามินซีสูง„ C ‟ ( 478.56 มิลลิกรัมต่อ 100 มิลลิลิตร น้ำ ) ดังนั้น เมื่อดื่มผสมกับผลไม้อื่น ๆที่มี juicesfor การเตรียมผสมพร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่ม มันเพิ่มคุณภาพทางโภชนาการของพวกเขาในแง่ของวิตามินซี ดังแสดงในตารางที่ 6 .