Ecotourism in MaldivesSome promotio

Ecotourism in Maldives
Some promotion of ecotourism is practiced in the Maldives, with resorts emphasizing recycling of heat that is wasted in producing electricity and stricter policies of waste disposal.[6] Furthermore, the government aims to conserve the natural beauty of the islands before they are being altered into resorts by enforcing laws such as prohibition of catching turtles and reduction in the damages caused to the coral reefs.
Nevertheless, the Maldives have frequently come under criticism for their lack of protection of the local shark populations, which have sharply decreased after being hunted extensively for decades. In some areas of the island, sharks have entirely disappeared. Sharks are hunted primarily for their fins. Shark fins are exported from the Maldives to other countries in Asia, where they are regarded as a delicacy. The fins are amputated from the live animals, which are then thrown back alive into the sea.
Although laws exist that prohibit this practice in the Maldives, these laws are not respected or enforced by the local authorities.
In 2001, a local environmental organization called Seamark/Marine savers (known onsite as Reefs capers), has set up an ambitious program of replantation of coral in damaged areas, on the basis of resort sponsorship.[8] Many thousands of tourist-sponsored "coral frames" have been transplanted with success in many resort reefs like Kuda Huraa and Landaa Giraavaru, and are under close survey by marine scientists; they constitute a refuge for thousands of tropical species, and participate in the preservation and recovery of these fragile ecosystems.
In every 1 January, the islanders of Ukulhas will gather to hold a competition. The council will divide the islanders into six teams, with the goal of cleaning the island. The council - the heads of the island - will provide bags, gloves, water, food and other necessities for this activity. The team that finishes cleaning their assigned area first, wins the competition. After the cleanup, a party with barbecue and boduberu (traditional maldivian music and dance) will be held.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ท่องเที่ยวเชิงนิเวศในมัลดีฟส์บางอย่างส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่มีประสบการณ์ในมัลดีฟส์ กับรีสอร์ทที่เน้นการรีไซเคิลความร้อนที่สูญเสียในการผลิตไฟฟ้าและนโยบายที่เข้มงวดของการกำจัดของเสีย [6] นอกจากนี้ รัฐบาลมีวัตถุประสงค์เพื่อการอนุรักษ์ความงามของธรรมชาติของเกาะก่อนที่พวกเขาจะมีการเปลี่ยนแปลงในรีสอร์ท ด้วยการบังคับใช้กฎหมายเช่นห้ามจับเต่าและลดในความเสียหายที่เกิดจากปะการังอย่างไรก็ตาม มัลดีฟส์บ่อยมาภายใต้การวิจารณ์สำหรับการขาดการป้องกันประชากรท้องถิ่นฉลาม ซึ่งคมชัดลดลงหลังจากถูกล่าอย่างแพร่หลายมานานหลายทศวรรษ ในบางพื้นที่ของเกาะ ปลาฉลามทั้งหมดหายไป ปลาฉลามถูกล่าสำหรับครีบของพวกเขา ครีบฉลามจะถูกส่งออกจากมัลดีฟส์ยังประเทศอื่นในเอเชีย ที่พวกเขาถือเป็นอาหารอันโอชะ ครีบจะด้วนจากสัตว์สด ซึ่งเป็นแล้วโยนชีวิตกลับลงทะเลแม้ว่ากฎหมายมีอยู่ที่ห้ามปฏิบัตินี้ในมัลดีฟส์ กฎหมายเหล่านี้ไม่เคารพ หรือบังคับใช้ โดยหน่วยงานท้องถิ่นในปี 2001 เป็นองค์กรสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นที่เรียกว่า Seamark/ทะเล รักษา (รู้จักโรงแรมเป็นแนวปะการังเปอร์), ได้ตั้งค่าโปรแกรมทะเยอทะยานของ replantation ปะการังในพื้นที่เสียหาย ตามสนับสนุนรีสอร์ท [8] สนับสนุนการท่องเที่ยว "ปะการังเฟรม" หลายพันได้รับมากับความสำเร็จในปะการังรีสอร์ทบริการ Kuda และซันส์จิราวารู และอยู่ภายใต้การปิดสำรวจโดยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล พวกเขาเป็นหลบภัยสำหรับพันสายพันธุ์เขตร้อน และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศที่เปราะบางเหล่านี้ในทุกวันที่ 1 มกราคม เกาะของแชมพูจะรวบรวมเพื่อการแข่งขัน สภาจะแบ่งเกาะเป็นทีมที่หก มีเป้าหมายในการทำความสะอาดเกาะ -หัวของเกาะ - สภาจะให้กระเป๋า ถุงมือ น้ำ อาหาร และอื่น ๆ สำหรับกิจกรรมนี้ ทีมที่เสร็จสิ้นการทำความสะอาดพื้นที่กำหนดแรก ชนะการแข่งขัน หลังจากล้าง ปาร์ตี้บาร์บีคิวและ boduberu (มัลดีฟส์ดนตรีและเต้นรำ) จะจัดขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในประเทศมัลดีฟส์
โปรโมชั่นบางส่วนของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศมีประสบการณ์ในมัลดีฟส์กับรีสอร์ทที่เน้นการรีไซเคิลของความร้อนที่มีการสูญเสียในการผลิตไฟฟ้าและนโยบายที่เข้มงวดของการกำจัดของเสีย. [6] นอกจากนี้รัฐบาลมีจุดมุ่งหมายเพื่อการอนุรักษ์ความงามตามธรรมชาติของเกาะก่อนที่พวกเขา มีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่รีสอร์ทโดยการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวเป็นข้อห้ามของการจับเต่าและการลดลงในความเสียหายที่เกิดกับแนวปะการัง.
อย่างไรก็ตามมัลดีฟส์ได้มาบ่อยครั้งภายใต้การวิจารณ์สำหรับพวกเขาขาดการป้องกันของประชากรฉลามท้องถิ่นซึ่งมีลดลงอย่างรวดเร็วหลังจากที่ ถูกตามล่าอย่างกว้างขวางมานานหลายทศวรรษ ในบางพื้นที่ของเกาะฉลามได้หายไปอย่างสิ้นเชิง ฉลามถูกล่าเป็นหลักสำหรับครีบของพวกเขา ปลาฉลามครีบจะถูกส่งออกจากมัลดีฟส์ไปยังประเทศอื่น ๆ ในเอเชียที่พวกเขาได้รับการยกย่องว่าเป็นอาหารอันโอชะ ครีบจะด้วนจากสัตว์ที่มีชีวิตซึ่งจะโยนแล้วกลับมีชีวิตอยู่ในทะเล.
แม้ว่ากฎหมายอยู่ที่ห้ามการปฏิบัตินี้ในมัลดีฟส์กฎหมายเหล่านี้จะไม่ได้รับความเคารพนับถือหรือบังคับใช้โดยหน่วยงานท้องถิ่น.
ในปี 2001 ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมท้องถิ่นที่เรียกว่า Seamark / สกรีนเซฟมารีน (ที่รู้จักกันในสถานที่เป็นเปอร์แนวปะการัง) ได้มีการจัดตั้งโครงการความทะเยอทะยานของปลูกปะการังในพื้นที่ได้รับความเสียหายบนพื้นฐานของการให้การสนับสนุนทางรีสอร์ท. [8] หลายพันคนของนักท่องเที่ยวสนับสนุน "เฟรมปะการัง" ที่ได้รับการปลูกถ่ายด้วย ประสบความสำเร็จในแนวปะการังรีสอร์ทมากมายเช่น Kuda Huraa และ Landaa Giraavaru และอยู่ภายใต้การสำรวจใกล้โดยนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล พวกเขาเป็นที่หลบภัยสำหรับหลายพันของสายพันธุ์เขตร้อนและมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาและการกู้คืนระบบนิเวศที่เปราะบางเหล่านี้.
ในทุกวันที่ 1 มกราคมของเกาะ Ukulhas จะมารวมกันที่จะถือการแข่งขัน สภาจะแบ่งเกาะออกเป็นหกทีมโดยมีเป้าหมายของการทำความสะอาดเกาะ สภา - หัวของเกาะ - จะให้ถุง, ถุงมือ, น้ำ, อาหารและสิ่งจำเป็นอื่น ๆ สำหรับกิจกรรมนี้ ทีมที่ประสบความสำเร็จในการทำความสะอาดพื้นที่ที่ได้รับมอบหมายแรกของพวกเขาชนะการแข่งขัน หลังจากการทำความสะอาด, ปาร์ตี้กับบาร์บีคิวและ boduberu (ดนตรีมัลดีฟส์แบบดั้งเดิมและการเต้นรำ) จะจัดขึ้น