Well, oil futures have recently "pl

Well, oil futures have recently "plummeted" to a mere $98 per barrel or so, a level that as I noted a couple of months ago that seemed like the end of the world less than five years ago. Now we complain but take it pretty much in stride.

Though some are predicting will reach $150 or so again before too long, and others citing even higher figures over the coming years, I am not so sure about that. First, in the US at least, $4.00 per gallon of gasoline does seem to be some sort of upward bound that leads to changing consumer behavior and thus demand destruction that acts as a counterbalance to upward pressures on price. Not sure if this is the same elsewhere - did you know, for example, that China significantly subsidizes gas prices for consumers and truckers?
I will also note that we are in this sort of terrible place where the most likely way we will drive oil prices back down is through a slowdown in the economy. So, if you want the lukewarm recovery to continue and maybe even expand, it has to be a the cost of higher oil prices. But higher oil prices cause the economy to contract.... my head hurts. I had one economics class as an undergrad, and one in grad school. Don't think I will drag out the textbooks to try to sort all that out.

All I do know is that transportation is a huge element of supply chain costs, representing 6% or so of US GDP and even higher level in many countries, that rising oil prices add significantly to the cost of moving goods, and capacity pressures are also coming into play.

So, what can shippers do about that? I amazed at the sophistication of supply chain professionals today, so most probably know all these ideas presented below and more, but perhaps it is handy to have them in one place anyways.

One useful framework for any supply chain challenge, but I think especially so for rising transport costs, is to identify all the drivers of transportation spend and divide them into three categories:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ดี น้ำมันในอนาคตได้เมื่อเร็ว ๆ นี้ "ลดลง" จะเป็นเพียง $98 ต่อบาร์เรลหรือมากกว่านั้น ระดับความว่า ตามที่ผมกล่าวไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ที่เหมือนสิ้นสุดของโลกน้อยกว่าห้าปีที่ผ่านมา ตอนนี้เราบ่น แต่ใช้มันสวยมากในตอนค่ำแม้ ว่าบางอย่างคาดการณ์จะถึง 150 ดอลลาร์ หรือดังนั้นอีกครั้งก่อนนาน และคนอื่น ๆ อ้างถึงตัวเลขที่สูงปีมา ฉันไม่ให้แน่ใจว่า ครั้งแรก ในสหรัฐอเมริกา น้อย $4.00 ต่อแกลลอนน้ำมันดูเหมือน จะบางจัดเรียงของขึ้นกับเป้าหมายที่เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค และความต้องการทำลายที่ทำหน้าที่เป็น counterbalance ไปดันขึ้นราคา ดังนั้น ไม่แน่ใจว่า ถ้าเป็นเหมือนอื่น ๆ - สาระน่า รู้ เช่น ที่จีนอย่าง subsidizes ราคาก๊าซสำหรับผู้บริโภคและ truckersฉันจะทราบว่า เราอยู่ในประเภทนี้ซึ่งวิธีที่เราจะผลักราคาน้ำมันกลับลงคือความล่าช้าในเศรษฐกิจที่แย่ ดังนั้น ถ้าคุณต้องการกู้คืนเพื่อดำเนินต่อ และบางทีแม้แต่ขยายอุ่น มีจะเป็นต้นทุนของราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้เศรษฐกิจสัญญาของฉันเจ็บหัว... ผมมีหนึ่งเศรษฐศาสตร์ชั้นเป็นรายวิชาที่ และเป็นหนึ่งในโรงเรียนแห่งนี้ ไม่คิดว่า ฉันจะลากออกตำราพยายามที่จะเรียงลำดับที่ออกทั้งหมดฉันรู้คือขนส่งเป็นองค์ประกอบใหญ่ของต้นทุนโซ่อุปทาน การแสดง 6% หรือของ GDP เราและระดับที่สูงขึ้นในหลายประเทศ ที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มในต้นทุนของการย้ายสินค้า และยังมากดดันกำลังการผลิตเข้าสู่การเล่นดังนั้น ผู้ขนส่งทำอะไรเกี่ยวกับที่ ผมตะลึงที่ผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานของวันนี้ มากสุดคงรู้คิดเหล่านี้นำเสนอด้านล่างและอื่น ๆ แต่บางทีก็มีประโยชน์เพื่อให้มีธรรมะกรอบมีประโยชน์หนึ่งในความท้าทายใด ๆ โซ่อุปทาน แต่ผมคิดว่า โดยเฉพาะดังนั้น สำหรับต้นทุนขนส่งเพิ่มขึ้น เป็นการ ระบุโปรแกรมควบคุมการขนส่งที่ใช้ และแบ่งออกเป็นสามประเภท:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ดีฟิวเจอร์สน้ำมันได้เมื่อเร็ว ๆ นี้ "ลดลง" เพื่อเพียง $ 98 ต่อบาร์เรลหรือเพื่อให้เป็นระดับที่ผมสังเกตสองสามเดือนที่ผ่านมาดูเหมือนว่าการสิ้นสุดของโลกที่น้อยกว่าห้าปีที่ผ่านมา ตอนนี้เราบ่น แต่จะเอามันสวยมากในกางเกง. แม้ว่าบางคนคาดจะถึง $ 150 หรือมากกว่านั้นอีกครั้งก่อนที่นานเกินไปและคนอื่น ๆ ที่อ้างถึงตัวเลขที่สูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาผมไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับการที่ ครั้งแรกในสหรัฐอเมริกาอย่างน้อย $ 4.00 ต่อแกลลอนน้ำมันเบนซินจะดูเหมือนจะเรียงลำดับของขึ้นที่ถูกผูกไว้บางอย่างที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีความต้องการและทำให้การทำลายที่ทำหน้าที่เป็นถ่วงดุลต่อแรงกดดันด้านราคาสูงขึ้น ไม่แน่ใจว่านี้เป็นเช่นเดียวกับที่อื่น ๆ - คุณไม่ทราบเช่นที่ประเทศจีนอย่างมีนัยสำคัญอุดหนุนราคาก๊าซสำหรับผู้บริโภคและผู้ขับรถบรรทุก? ผมก็จะทราบว่าเราอยู่ในการจัดเรียงของสถานที่น่ากลัวนี้ที่ทางส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่เราจะผลักดันราคาน้ำมัน กลับลงมาก็คือการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้นถ้าคุณต้องการกู้คืนอุ่นเพื่อดำเนินการต่อและอาจขยายตัวก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้เกิดเศรษฐกิจจะหดตัว .... หัวของฉันเจ็บ ฉันมีหนึ่งระดับปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์และหนึ่งในโรงเรียนที่จบ อย่าคิดว่าฉันจะลากออกตำราเพื่อพยายามที่จะค้นหาสิ่งที่ออก. ทั้งหมดที่ฉันทำทราบว่าเป็นที่การขนส่งเป็นองค์ประกอบใหญ่ของค่าใช้จ่ายในห่วงโซ่อุปทานคิดเป็น 6% หรือมากกว่านั้นของ GDP สหรัฐฯและระดับที่สูงขึ้นในหลายประเทศ ว่าราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพิ่มค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายสินค้าและแรงกดดันกำลังการผลิตยังมาลงเล่น. ดังนั้นสิ่งที่ส่งสินค้าทางเรือสามารถทำเกี่ยวกับที่? ฉันประหลาดใจที่ความซับซ้อนของผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานในวันนี้ดังนั้นส่วนใหญ่อาจจะรู้ทุกความคิดเหล่านี้นำเสนอด้านล่างและมากขึ้น แต่บางทีมันอาจจะเป็นประโยชน์ที่จะมีไว้ในสถานที่หนึ่งนะ. หนึ่งในกรอบที่มีประโยชน์สำหรับความท้าทายห่วงโซ่อุปทานใด ๆ แต่ผมคิดว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นการขนส่งคือการระบุไดรเวอร์ทั้งหมดของการใช้จ่ายการขนส่งและการแบ่งพวกเขาออกเป็นสามประเภท:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แต่น้ำมันฟิวเจอร์สได้รับเมื่อเร็ว ๆนี้ " ตกลง " ไปเพียง $ 98 ต่อบาร์เรลหรือดังนั้น ระดับ ดังที่ผมกล่าวไว้เมื่อหลายเดือนก่อน ที่ดูเหมือนว่าจุดจบของโลกน้อยกว่าห้าปี ตอนนี้เราบ่น แต่มันสวยมากใน stride

แต่บางคนคาดว่าจะถึง $ 150 หรือดังนั้นอีกครั้งก่อนที่จะยาวเกินไป และคนอื่น ๆ อ้างยังสูงกว่าตัวเลขที่มากกว่าปีที่ผ่านมา ,ผมไม่แน่ใจว่าเกี่ยวกับที่ ครั้งแรกในสหรัฐฯอย่างน้อย $ 4.00 ต่อแกลลอนของน้ำมันเบนซินที่ดูเหมือนจะเป็นพวกที่นำขึ้นไปผูกไว้เพื่อเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค และดังนั้น ความต้องการทำลาย ที่ทำหน้าที่เป็นคานแรงกดดันเพิ่มขึ้นในราคา ไม่แน่ใจว่าเป็นเหมือนที่อื่น ๆ - คุณรู้จัก เช่น ที่จีนมี subsidizes ราคาก๊าซสำหรับผู้บริโภคและรถบรรทุก ?
ผมก็จะทราบว่าเราอยู่ในที่ที่แบบนี้น่ากลัวที่สุด ที่เราจะผลักดันราคาน้ำมันกลับลงมาผ่านการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ดังนั้น ถ้าคุณต้องการกู้คืนอุ่นต่อไปและอาจขยาย มันมีต้นทุนราคาน้ำมันที่สูงขึ้น แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้เศรษฐกิจ . . . . . . . สัญญา ฉันปวดหัว ฉันมีหนึ่งชั้นเรียนเป็นนักศึกษาปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ ,และหนึ่งในบัณฑิตวิทยาลัย ไม่คิดว่าผมจะลากออกหนังสือเพื่อพยายามที่จะจัดเรียงทั้งหมดออก

ที่ฉันรู้คือการขนส่งที่เป็นองค์ประกอบใหญ่ของการจัดหาค่าใช้จ่ายโซ่แทน ร้อยละ 6 ของ GDP หรือดังนั้นเราและระดับที่สูงขึ้นในหลายประเทศ ว่า ราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นเพิ่มอย่างมากต้นทุนของการย้ายสินค้า และแรงดันความจุยังเข้ามาเล่น

ดังนั้นสิ่งที่สามารถรวมทำเรื่องนั้น ฉันประหลาดใจที่ความซับซ้อนของผู้เชี่ยวชาญด้านห่วงโซ่อุปทานวันนี้ ส่วนใหญ่คงรู้ทุกความคิดเหล่านี้แสดงด้านล่างมากขึ้น แต่บางทีมันเป็นประโยชน์ที่จะมีพวกเขาในสถานที่หนึ่งอยู่ดี

หนึ่งประโยชน์สำหรับกรอบใด ๆความท้าทายห่วงโซ่อุปทาน แต่ผมคิดว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อค่าใช้จ่ายในการขนส่งเพิ่มขึ้นคือการระบุโปรแกรมควบคุมทั้งหมดของการขนส่งที่ใช้ และแบ่งออกเป็นสามประเภท :